สังฆราชาและธรรมราชาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ชช
สมเด็จพระญาณสังวร
“…ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งสังฆราชาเป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระนามเดิมว่า เจริญ คชวัตร มีชาติภูมิ ณ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2456 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556 สิริรวม 100 พระชันษา ตลอดพระชนม์ชีพของสมเด็จท่านทรงมีพระจริยวัตรและพระกุศลบารมีที่ได้ทรงบำเพ็ญเปี่ยมด้วยพระเมตตา
หนึ่งในพระเมตตาของสมเด็จท่านฯ คือ การประทานอนุญาตให้มีการจัดสร้างพระเครื่องหรือวัตถุมงคลของวัดบวรนิเวศ วัด หรือหน่วยงานสาธารณะอื่น เพื่อเป็นพุทธบูชาสืบทอดพระพุทธศาสนาและด้วยกุศลสาธารณะไม่ใช่หวังผลในทางพุทธพาณิชย์
หนึ่งในพระเครื่องที่มีคุณค่าทางพุทธศิลป์และทางจิตใจ คือ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ปวเรศ ปี 2530 ซึ่งวัดบวรนิเวศได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างเนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) เจริญพระชนมพรรษา 5 รอบนักษัตร โดยจำลองแบบพระกริ่งปวเรศที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงสร้างขึ้น ระหว่างปีพ.ศ.2416-2428 โดยองค์พระมีพุทธลักษณะปางมารวิชัยนั่งขัดสมาธิเพชร พร้อมบรรจุเม็ดกริ่ง เส้นพระเกศาหรือที่เรียกว่าเส้นพระเจ้า และผงจิตรลดาที่ได้รับพระราชทาน ในองค์พระกริ่งปวเรศทุกองค์
การสร้างพระชุดนี้ใช้กรรมวิธีการสร้างแบบหล่อพระโบราณ เนื้อองค์พระเป็นเนื้อนวโลหะ โลหะเก้าชนิดซึ่งประกอบด้วยทองคำ เงิน ทองแดง สังกะสี ชิน เจ้าน้ำเงิน เหล็กละลายตัว บริสุทธิ์ และปรอทสะตุ เมื่อมีอายุตามควรแล้วผิวองค์พระจะกลับดำ เรียกว่า เนื้อกลับ เมื่อขัดเนื้อในจะเป็นสีจำปาเทศอย่างงดงาม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเททองหล่อพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ปวเรศ ณ วัดบวรนิเวศ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2528 เป็นปฐมมหามงคลฤกษ์ และสมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงพระเมตตารับเป็นประธานอธิษฐานจิตน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเพื่อเป็นพุทธานุสติแด่ผู้บูชาสืบไป
ดังนั้น พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ปวเรศ 2530 จึงอุดมด้วยสิริรักษ์ มิ่งมงคลยิ่งนัก… ”
คอลัมภ์ “สิริรักษ์ มิ่งมงคล”
โดย …ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติบดี ใยพูล