สายธารหลั่งไหล !ร่วมทอดผ้าป่า สมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ รพ.ขอนแก่น
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่ห้องประชุม ชั้น 9 อาคารบริการและจอดรถ โรงพยาบาลขอนแก่น จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีมูลนิธิตึกสงฆ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) และอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ โรงพยาบาลขอนแก่น โดยมี พระธรรมวิสุทธาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9 พระเถรานุเถระ คณะกรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมนายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นอภ.เมืองขอนแก่น นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น นายพิสุทธิ์ อนุตรอังกูร นายกเทศมนตรีตำบลท่าพระ นพ.วิทยา จารุพูนผล อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น คณะกรรมการที่ปรึกษาและอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส และผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธีกว่า 1,000 คน โดยได้ยอดเงินบริจาครวมทั้งสิ้น 5,470,832 บาท
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวถึงว่าการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีมูลนิธิตึกสงฆ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) และอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ โรงพยาบาลขอนแก่น แต่เดิมคณะศิษยานุศิษย์ ทั้งฝ่ายบรรพชิตและฆราวาส ได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์สร้างตึกสงฆ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร)ขึ้นในโรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อจัดเป็นสถานที่สำหรับพระภิกษุ สามเถร ที่ต้องอาพาธได้พักรักษา และจัดเป็นที่สำหรับบำเพ็ญกุศลถวายแด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) โดยก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วและเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2532 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 28 ปีแล้ว
นพ.ชาญชัย กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นเป็นการถวายสักการะสนองเจตนารมณ์ตามคำปรารภขององค์ท่านที่เล็งเห็นประโยชน์และความจำเป็นของการรักษาสงฆ์อาพาธ ซึ่งเมื่อปี 2541 ได้ย้ายมูลนิธิฯ มาตั้ง ณ โรงพยาบาลขอนแก่น จึงมีการจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิฯ เป็นประจำทุกปี ในการนำดอกผลสนับสนุนกิจกรรมการรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธ ส่วนในปี 2560 จะนำรายได้ไปสมทบทุนซื้อครุภัณฑ์การแพทย์และครุภัณฑ์สนับสนุนบริการ ให้กับอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ ซึ่งจะเป็นสถานที่ในการพักรักษาตัวของผู้ป่วยโรคหัวใจแบบครบวงจรต่อไป
นพ.ชาญชัย กล่าวด้วยว่า โรงพยาบาลขอนแก่นเริ่มให้บริการด้านโรคหัวใจ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ในระยะแรกให้บริการเฉพาะด้านการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องอัลตราซาวด์หัวใจ และการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น แต่สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องการตรวจวินิจฉัยและรักษาเพิ่มเติมด้วยวิธีพิเศษ จะต้องส่งผู้ป่วยไปรักษาต่อที่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขณะเดียวกัน พบว่า มีผู้ป่วยโรคหัวใจมาใช้บริการสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดภายในเขตสุขภาพที่ 7 คือ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด รวมถึงจังหวัดนอกเขตสุขภาพที่ 7
นพ.ชาญชัย กล่าวด้วยว่า ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลขอนแก่น จึงได้เสนอของบประมาณประจำปี 2556 เพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ จำนวน 432 ล้านบาท ซึ่งบัดนี้ได้ก่อสร้างอาคารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากยังต้องมีการสร้างระบบสนับสนุนบริการ อาทิ ระบบลิฟท์ ระบบไฟฟ้า ระบบอากาศ และจัดหาเครื่องมือครุภัณฑ์การแพทย์ที่จำเป็นก่อนจึงจะสามารถเปิดให้บริการได้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกกว่า 100 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปีที่แล้ว โรงพยาบาลขอนแก่นได้จัดงานทอดผ้าป่าฯ ได้ยอดเงินบริจาคกว่า 27 ล้านบาท โรงพยาบาลขอนแก่นได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) จำนวน 10 ล้านบาท จัดทำทางขึ้นอาคาร จำนวน 4 ล้านบาท จัดทำระบบแก๊สทางการแพทย์ จำนวน 5 ล้านบาท และซื้อลิฟท์ จำนวน 2.7 ล้านบาท
นพ.ชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานทอดผ้าป่าฯ ในครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปสมทบทุนซื้อครุภัณฑ์การแพทย์และครุภัณฑ์สนับสนุนบริการ ให้อาคารศูนย์บริการโรคหัวใจอีกครั้ง เพื่อให้อาคารหลังนี้สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ภายในปี 2561 ซึ่งการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีมูลนิธิตึกสงฆ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) และอาคารศูนย์บริการโรคหัวใจ โรงพยาบาลขอนแก่น ในครั้งนี้ได้ยอดเงินบริจาค 5,470,832 บาท ซึ่งนับว่าเป็นการบำเพ็ญกุศลยิ่งใหญ่เพื่อการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ ด้วยอาศัยบารมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) และความร่วมมือผู้มีจิตศรัทธาจากคณะศิษยานุศิษย์ และเหล่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน อันจะทำให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
