มข.จับมือ หอการค้าไทยในจีน ลงนามร่วมมือทางวิชาการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 มี.ค.ที่ห้องประชุม 1-2 ชั้น 6 อาคาร KKBS คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข.กับ หอการค้าไทยในจีน ร่วมลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในการเผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล และความช่วยเหลือด้านวิจัยและวิชาการอื่นๆ ระหว่างทั้งสองหน่วยงาน โดยผู้บริหารของทั้งสองหน่วยงาน ได้แก่ รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มข. รศ.ดร. เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข. ดร.ปวีนา กองจันทร์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะบริหารธุรกิจ และการบัญชี มข. ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร เลขาธิการหอการค้าไทยในจีน และ นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่นให้เกียรติร่วมลงนามในพิธีดังกล่าว
รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มข. กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงลงนามความร่วมมือทางวิชาการในวันนี้“การดำเนินการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี กับ หอกาค้าไทยในจีน ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ แล้วจะสามารถต่อยอดในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การแลกเปลี่ยนข้อมูล งานวิจัย และบทความที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา วัฒนธรรม และอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่กัน เพื่อนำสู่สาธารณชน ในช่องทางการสื่อสารของทั้งสองหน่วยงาน”
รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช
ด้าน รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข.กล่าวว่า เนื่องด้วยในปัจจุบันการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การค้าการลงทุนของประเทศจีนมีรุดหน้า ไปในลำดับต้นๆ ของโลก ประกอบกับนโยบาย One Belt One Road ของรัฐบาลจีนในอันก่อให้เกิดโอกาสทางด้าน ความร่วมมือในมิติต่างๆ ระหว่างไทย-จีนในอนาคตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การศึกษา และวัฒนธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สภาวะดังกล่าว เพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงาน และเน้นย้ำจุดยืนทางด้านความเป็นมืออาชีพในตลาดไทย-จีนของทั้งสองหน่วยงาน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดย คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี และ หอการค้าไทยในจีน จึงได้มีความประสงค์ตรงกัน ในอันที่จะเสริมสร้างความร่วมมือสนับสนุนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเชิงบูรณาการในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การแลกเปลี่ยนข้อมูล งานวิจัยและบทความวิชาการ, การดำเนินการจัดงานอบรมสัมมนา, กิจกรรมส่งเสริมด้านการลงทุนระหว่างไทย-จีน หรือโครงการด้านการเชื่อมโยงความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนเครือข่ายทางธุรกิจ ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาบุคลากรอันเป็นทรัพยากรที่คุณค่าของประเทศเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของชาติต่อไป
ดร. ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
ท้ายสุด ดร. ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร เลขาธิการหอการค้าไทยในจีน กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยในจีนกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นในวันนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่ทั้งสององค์กรมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสิ่งดี ๆ แก่ผู้ประกอบการไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การศึกษา และมิติอื่น ๆ ระหว่างจีนและไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ“จีนที่เราเห็นในวันนี้ยังเป็นเพียงก้าวแรกของความสำเร็จในการพัฒนา แม้ว่าวันนี้ทุกคนต่างกำลังจับตามองสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ กันอย่างไม่กระพริบตา แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงเติบโตต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ และก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในอนาคต ประเทศไทยจึงควรเกาะเกี่ยวไปกับ “รถไฟเศรษฐกิจความเร็วสูง” ของจีนอย่างเหนียวแน่น” เลขาธิการหอการค้าไทยในจีนกล่าวเพิ่มเติม
“สำหรับการลงนามในวันนี้ มีความยินดีที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นอีกฟันเฟืองหนึ่งของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาความร่วมมือดังกล่าวในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำและเผยแพร่งานวิจัย การฝึกอบรมสัมมนา การแลกเปลี่ยนบุคลากรและนักศึกษา และกิจกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ขณะเดียวกัน หอการไทยในจีน ก็พร้อมจะผนึกกำลัง และเป็นสะพานเชื่อมในการเพิ่มโอกาสให้กับสถาบัน คณาจารย์และนักศึกษา และเสริมสร้างความพร้อมแก่ผู้ประกอบการไทยในภูมิภาคในการเข้าสู่ตลาดจีนในท้ายที่สุดนี้ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยความร่วมมืออันดีและการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกันจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องของทั้งสององค์กรได้ชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามในทุกย่างก้าวของความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจับมือเดินทางไกลร่วมกันในครั้งนี้จะก่อให้เกิดคุณูปการต่อเศรษฐกิจ การศึกษา และด้านอื่น ๆ กับทุกภาคส่วนยิ่งขึ้นไปในอนาคต” เลขาธิการหอการค้าไทยในจีนกล่าวในท้ายที่สุด
