“หอการค้า จ.ขอนแก่น “จับมือ”นักธุรกิจจากเวียดนาม” แลกเปลี่ยนธุรกิจทางการค้า
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายหวาง หงอก เซิน กงสุลใหญ่ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานงานสัมมนาแลกเปลี่ ยนทางการค้า (business matching ) ระหว่าง นักธุรกิจจากเวียดนาม (ด้านสินค้าอาหารแปรรูป เกษตรอินทรีย์ การ์เม้นท์ เบเกอรี่ บริการ สุขภาพ ขนส่ง ชิฟปิ้ง อื่นๆ ) กับธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่ นและคณะนักธุรกิจสตรีจากเวี ยดนามเหนือทั้ง ฮานอย ไฮฟอง และหอการค้า จ.ขอนแก่น ร่วมแสดงสินค้าและร่วมชม
นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น กล่าวว่าคณะนักธุรกิจสตรีจากเวี ยดนามเหนือทั้ง ฮานอย ไฮฟอง และอีกหลายจังหวัด ได้มาเชื่อมโยง Business Matching กับนักธุรกิจจังหวัดขอนแก่น ผ่านทางหอการค้า ในงานสัมมนาแลกเปลี่ยนทางการค้า (business matching ) ระหว่าง นักธุรกิจจากเวียดนาม (ด้านสินค้าอาหารแปรรูป เกษตรอินทรีย์ การ์เม้นท์ เบเกอรี่ บริการ สุขภาพ ขนส่ง ชิฟปิ้ง อื่นๆ ) กับธุรกิจการค้าในจังหวัดขอนแก่ น
โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคื อความตั้งใจที่จะทำธุรกิจกั บชาวไทย สังเกตุได้จากการเตรียมการสินค้ าตัวอย่างและความตั้งใจในการอธิ บายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งคงจะเป็นเหตุผลว่าทำไมการพั ฒนาเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม จึงเติบโตรุดหน้าอย่างรวดเร็ว
ซึ่งชาวเวียดนามให้เกียรติ และยอมรับในสินค้ าและความสามารถของคนไทยในหลายๆด้ าน ดังนั้นนักธุรกิจและคนไทยควรให้ ความสำคัญในการพบปะทางธุรกิจอย่ างจริงจัง ทั้งเรื่องเวลานั ดหมายและการเตรียมตัวต่างๆ ต้องขอขอบคุณชาวไทยเชื้อสายเวี ยดนามในจังหวัดขอนแก่น ที่แสดงพลังของความสามัคคีและร่ วมต้อนรับอย่างสมเกียรติ ขอขอบคุณและแสดงความชื่นชมอย่ างยิ่ง
นายเข็มชาติ กล่าวอีกว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นศูนย์ กลางการจัดประชุมและงานแสดงสิ นค้าระดับสากลรองรับการขยายตั วทางเศรษฐกิจของอาเซียนก้าวสู่ การเป็นไมซ์ซิตี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ ศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้า การลงทุนและการบริการของกลุ่ มประเทศอนุภูมิภาคกลุ่มลุ่มน้ำ โขง” ประกอบด้วย 3 พันธกิจหลัก คือ 1 ชุมชนเข้มแข็ง พลเมืองมีความสุข 2. พัฒนาเมืองให้น่าอยู่และเป็นต้ นแบบของการพัฒนาและบริหารจังหวั ดอย่างบูรณาการ 3. พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของอนุภู มิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ทั้งด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม และทรัพยากรมนุษย์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหานครแห่ งอาเซียน นอกจากนี้ ยังได้กำหนดจุดยืนทางยุทธศาสตร์ ของจังหวัด
เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ จังหวัด ที่ 1 การพัฒนาเศรษฐกิจให้มีความมั่ นคง และมีความสามารถทางการแข่งขัน มุ่งพัฒนาเมืองเป็นศูนย์กลางบริ การทางเศรษฐกิจของอาเซียนใน 6 ด้าน คือ ศูนย์กลางการค้า การลงทุน และบริการ ศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งและโลจิ สติกส์ ศูนย์กลางการแพทย์และสาธารณสุข ศูนย์กลางการศึกษา ศูนย์กลางการประชุมและท่องเที่ ยวและศูนย์อุตสาหกรรมสีเขียว
นายเข็มชาติ กล่าวด้วยว่าจากกระแสการเปิ ดเสรีทางการค้ าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก่อให้เกิดการเปลี่ ยนแปลงภาคเศรษฐกิจของอาเซียนอย่ างรวดเร็ว และเป็นความท้าทายที่จะผลักดั นให้ผู้ประกอบการ ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก และธุรกิจภายในประเทศ ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการระดับชุมชน จะต้องเรียนรู้และปรับตัว รองรับความเปลี่ยนแปลงที่มี ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเป็ นภัยคุกคามต่อธุรกิจ หรือแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่ท้ าท้ายความสำเร็จ
การเปิดเสรีทางการค้ าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซี ยนอาจส่งผลกระทบทั้ งทางบวกและทางลบ การที่จะได้รับประโยชน์มากน้ อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการเตรี ยมความพร้อมอย่างดีของทุกภาคส่ วนที่เกี่ยวข้อง มีการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่ อการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะในชุมชนที่จำเป็นต้องรู้ เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิ ดขึ้น และพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกั บการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว