
ฮึ่ม!เครือข่าย “ผอ.รร.ภาคอีสาน” ฮือค้าน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ให้กลับไปใช้”ครูใหญ่”แทนผู้อำนวยการโรงเรียน ลดเกียรติ แถมแก้ปัญหาไม่ได้
เมื่อเวลา 10.00 นวันที่ 27 ก.พ. ที่ห้องดอกคูณชั้น 4 โรงแรมเจริญธานี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่าที่ร้อยตรีพิจิตร ราชบุตร ผอ.รร.ฝางวิทยายน สังกัดสพม. 25 (อุปนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดขอนแก่น) พร้อมด้วยนายสุริยัน เหล่ามะลึก ผอ.รร.โคกโพธิ์ไชยศึกษาสังกัด สพม 25 นายอาทิตย์ ธำรงชัยชนะ ผอ.รรชุมแพพิทยาคม สังกัด สพม. 25 นายรังสิโรจน์ปานรัตน์ ผอ.รร.ขามสะแกแสง สังกัด สพม. 31 และนายทินกร โสรถาวร ผอ.รร.อาจสามารถวิทยา สังกัด สพม 31 ร้อยเอ็ด ร่วมกันแถลงการณ์ในนามของเครือข่ายผู้อำนวยการโรงเรียนในโครงการโรงเรียนคุณภาพ ประจําตําบลรุ่นที่ 6 เสนอความคิดเห็นภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตามที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูป(กอปศ.)ได้เตรียมร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับ…..พ.ศ…..และสำนักงานกรรมการกฤษฎีกาได้เชิญชวนประชาชนทั่วไปและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับที่….พ.ศ….ระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2562 โดยมีผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรครู โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจำนวน 8 เขตพื้นที่ และโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจำนวน 14 เขตพื้นที่รวมทั้งหมด 22 เขตพื้นที่ ร่วมรับฟังกว่า 2,000 คน
ว่าที่ร้อยตรีพิจิตร ราชบุตร
ว่าที่ ร.ต.พิจิตร อุปนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่ากรณีที่นายแพทย์จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศึกษาแนวทางการจัดทำ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ กล่าวว่าตามที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ) ได้เสนอในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาและคณะกรรมการกฤษฎีกามีมติเห็นชอบให้กลับไปใช้คำว่าครูใหญ่เหมือนที่ผ่านมาด้วยเหตุผลว่า “การที่หัวหน้าครูกลับมาใช้คำว่าครูใหญ่ก็น่าจะทำให้มีพลังในการปฏิรูปเพื่อการศึกษาของเด็กมากกว่า” นั้น เห็นว่า การกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นการกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยมองภาพการจัดการศึกษาที่คลาดเคลื่อน ไม่มีเหตุผลสนับสนุนและไม่ตอบโจทก์ในเรื่องคุณภาพผู้เรียนและที่สำคัญคือไม่เคยมีการถามครูหรือบุคคลากรทางการศึกษาเสียก่อนว่าเปลี่ยนแปลงแล้วจะมีอะไรดีขึ้นต่อการศึกษาของเด็กอย่างไร ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงตามมตินี้จริงๆก็คงจะต้องมีการเปลี่ยนป้ายชื่อตำแหน่งทั่วประเทศ เปลี่ยนบัตรข้าราชการใหม่ เปลี่ยนบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องใหม่ เปลี่ยนป้ายบ่งบอกตำแหน่งหัวหน้าครูทุกโรงเรียนเสียใหม่ ฯลฯ ซึ่งคงจะต้องทำให้สิ้นเปลืองอีกกี่ล้านบาท
ว่าที่ ร.ต.พิจิตร กล่าวอีกว่า วิชาชีพครูตามมาตรา 34 มาตรา 98 ตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาพ. ศ. 2546 กำหนดให้เป็นวิชาชีพชั้นสูงหมายถึงวิชาชีพที่ประกอบด้วยวิธีการแห่งปัญญา ผ่านการฝึกอบรม พัฒนาทักษะความรู้ มาอย่างเพียงพอมีมาตรฐานวิชาชีพมีจรรยาบรรณวิชาชีพ มีสถาบันวิชาชีพ และมีองค์กรวิชาชีพ ในส่วนใบประกอบวิชาชีพครู ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และใบประกอบวิชาชีพศึกษานิเทศก์ เป็นใบอนุญาตที่มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับนับถือมีคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพควบคุม ในส่วนใบรับรองความเป็นครู อยู่บนพื้นฐานใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องมีคุณลักษณะเฉพาะเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพครู ซึ่งเป็นอาชีพที่สมควรยกย่องเชิดชูให้มีเกียรติในสังคมไทยดังเช่นในสังคมโลกสากล
ว่าที่ ร.ต.พิจิตร กล่าวอีกว่าในนาม ตัวแทนเครือข่ายผอ.รร.คุณภาพ ประจําตําบลรุ่นที่ 6 อยากให้บรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลายได้เข้าใจเสียใหม่ว่า ผู้บริหารโรงเรียนทุกวันนี้ไม่เคยคิดว่าตนเองเป็น หัวหน้าครู แต่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ผู้อำนวยความสะดวกให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีคุณภาพ ครูคือเพื่อนร่วมงานที่มีหน้าท่ีสอน ไม่ได้มีหลักคิดว่าครูเป็นลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาแต่อย่างใด แม้ในต่างประเทศก็ยังใช้คำว่า School Director ซึ่งหมายถึงผู้อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าท่ีของบุคคลากรในโรงเรียน นอกจากนี้สิ่งที่คุณครูทั้งประเทศรู้สึกเสียใจในปัจจุบันก็คือการศึกษาของชาตินั้นถูกวางระบบใหม่อีกแล้วโดยนายแพทย์ นักกฎหมาย ทหาร วิศวกรและบุคคลากรวิชาชีพอื่นที่มิได้มีประสบการณ์หรือมีความรู้ความเข้าใจด้านการจัดการศึกษาไม่ได้มีจิตวิญญาณครู มาทำหน้าที่ในการวางแผนจัดการศึกษาของประเทศโดยไม่ให้ครูมีส่วนร่วมเลย การมองภาพการศึกษาจึงเบี่ยงเบนไปและก็คงจะทำให้เด็กๆจะต้องรับกรรมจากการกระทำของผู้ไม่รู้ต่อไป
นายทินกร โสรถาวร
ด้านนายทินกร ผอ.รร.อาจสามารถวิทยา สังกัด สพม 31 ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้จะเป็นวันที่สำคัญของปวงชนชาวไทยที่ต้องไปทำหน้าที่เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งที่ให้ทุกคนต้องให้การสนับสนุน เป็นห้วงเวลาที่สับสน วุ่นวาย และอยู่ระหว่างภาวะแห่งการเปลี่ยนแปลง จึงเห็นสมควรที่จะยุติการดำเนินการออกพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติไว้ก่อน จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ และเปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวางรอบด้านถ้าเร่งรีบร้อนรนเร่งด่วนและดึงดันดำเนินการจะมีผลต่อการออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการและพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องอื่นๆอนาคตอย่างแน่นอนพร้อมกับวางเงื่อนไขสร้างกรมความขัดแย้งความไม่มีความมั่นคงในการประกอบวิชาชีพครูและการแตกความสามัคคีในสังคมต่อไป
นายสุริยัน เหล่ามะลึก
นายสุริยัน ผอ.รร.โคกโพธิ์ไชยศึกษา กล่าวว่า เครือข่ายผู้อำนวยการโรงเรียน ในโครงการโรงเรียนคุณภาพประจําตําบลรุ่นที่ 6 ซึ่งประกอบไปด้วยโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจำนวน 8 เขตพื้นที่และโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจำนวน 14 เขตพื้นที่ รวมทั้งหมด 22 เขตพื้นที่ ขอเสนอความคิดเห็น ดังนี้ 1. ให้คงคำว่าใบประกอบวิชาชีพมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขตามพระราชบัญญัติเดิม ครู ผู้บริหารการศึกษาผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศน์ ต้องใบประกอบวิชาชีพ 2 .ผู้อำนวยการศึกษาโครงคงไว้ตามพระราชบัญญัติเดิม ครูใหญ่ไม่ตอบโจทย์ที่ทำให้เด็กมีคุณภาพดีขึ้น ไม่ต้องสร้างเงื่อนไขให้เสียขวัญกำลังใจ สร้างความแตกแยกในสังคมประเทศชาติ 3. ให้ยุติการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ …..พศ…จนกว่าการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเสร็จสิ้น มีผู้นำรัฐบาลมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น รับฟังเสียงจากครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้เกี่ยวข้องอย่างแท้จริงโดยยึดตัวอย่าง พระราชบัญญัติ ข้าว ยุติไว้เพื่อความสงบสุขเพื่อความสงบร่มเย็นของคนในชาติ และ 4 .ให้ดำเนินการแนวนโยบายตามแนวทางการกระจายอำนาจสู่โรงเรียนนิติบุคคล ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมต่อสภาพสังคมประชาธิปไตยดั่งเช่นนานาอารยประเทศได้ดำเนินการ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอในแถลงการณ์นี้ จะได้รับการพิจารณาหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงที่จะกระทบต่อการจัดการศึกษาของประเทศในภาพรวมและจะติดตามเป็นลำดับต่อไป.