ยายวัย 90 ชาวมัญจา ขอนแก่น สุดปลื้ม “หลังกรมที่ดินแก้ไขข้อพิพาทเขตที่ดิน ด้วยระบบดาวเทียม หลังรอ มากว่า 37 ปี
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ หมู่ 13 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นายนิติรัฐ ไชยศรี ผอ.ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.ขอนแก่น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายปรากฏว่า ในท้องที่ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ของนางยี่สุ่น ห่มซ้าย อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369 หมู่ 13 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่ได้เรียกร้องให้กรมที่ดินแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินเนื่องจากตนเองได้ซื้อที่ดินไว้เมื่อปี พ.ศ.2525 แต่ยังไม่โอนเนื่องจากเจ้าผู้มีชื่อในหนังสือแสดงกรรมสิทธิได้ถึงแก่กรรมและที่ดินได้เปลี่ยนมือเป็นของบุคคลอื่น รวมทั้งนำประกันหนี้เงินกู้กับบุคคลภายนอก และถ่ายโอนไปยังสถาบันการเงินเพื่อลดภาระหนี้ ต่อมาจึงได้มีการไถ่ถอนและนำไปประกันหนี้กับนายทุนอีกครั้ง
นายนิติรัฐ ไชยศรี
นายนิติรัฐ ผอ.ศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ตามที่กรมที่ดินได้มีโครงการพัฒนามาตรฐานรูปแปลงที่ดินโดยจัดให้มีโครงการเดินสำรวจสอบเขตที่ดินด้วยระบบโครงข่ายดาวเทียมเพื่อยกมาตรฐานการรังวัดที่สูงขึ้น โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายปรากฏว่า ในท้องที่ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่นมีนางยี่สุ่น ห่มซ้าย อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 369 หมู่ 13 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้เรียกร้องให้กรมที่ดินแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินเนื่องจากตนเองได้ซื้อที่ดินไว้เมื่อปี พ.ศ.2525 แต่ยังไม่โอนเนื่องจากเจ้าผู้มีชื่อในหนังสือแสดงกรรมสิทธิได้ถึงแก่กรรมและที่ดินได้เปลี่ยนมือเป็นของบุคคลอื่น รวมทั้งนำประกันหนี้เงินกู้กับบุคคลภายนอก และถ่ายโอนไปยังสถาบันการเงินเพื่อลดภาระหนี้ ต่อมาจึงได้มีการไถ่ถอนและนำไปประกันหนี้กับนายทุนอีกครั้ง ทำให้เรื่องยังคาราคาซังไม่จบ
นายนิติรัฐ กล่าวอีกว่าดังนั้น การแก้ปัญหาเกี่ยวกับที่ดินกรณีของยายยี่สุ่นที่ได้มีการปลูกโรงเรือนรุกล้ำเข้าไปในโฉนดเลขที่ 6452 ต.กุดเค้า ของบุคคลอื่นโดยสุจริต ทั้งนี้จากการรังวัดสอบเขตที่ดินด้วยระบบโครงข่ายดาวเทียม เจ้าหน้าที่ได้ใช้กลไกยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ มาใช้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานตามภารกิจของกรมที่ดินทีมุ่งคุ้มครองสิทธิในที่ดินแก่ประชาชนผู้สุจริต ปัญหาที่ดินมีเงื่อนแง่ทางกฎหมายที่สลับซับซ้อนและหากยึดหลักกฎหมายเพียงอย่างเดียวโดยเอาข้อสันนิษฐานของกฎหมายที่ว่า “ผู้มีชี่อในโฉนดที่ดินเป็นผู้มีสิทธิในที่ดิน” โดยไม่คำนึงถึงขนบธรรมเนียมศีลธรรมอันดีของบ้านเมือง ปัญหาดังกล่าวคงไม่อาจยุติได้ด้วยดี เจ้าหน้าที่ได้นำข้อเท็จจริงมาปรับใช้กับหลักกฎหมาย”ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน” และเรียกคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อระงับข้อพิพาทมิให้มีการฟ้องคดีกันต่อศาล ในที่สุดคู่กรณีได้ตกลงกันได้โดยคำนึงถึงความเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียง และเคยพึ่งพาอาศัยกัน เจ้าของที่ดินผู้มีชื่อในโฉนดที่ดินได้ยินยอมแบ่งแยกที่ดินในส่วนที่นางยี่สุ่นร้องขอ ตามโฉนดที่ดินเลขที่ 42949 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี เนื้อที่ 0-0-50 ไร่ และโอนให้แก่นายเสริมศักดิ์ ห่มซ้าย บุตรชายวัย 60 ปีที่ได้ปลูกบ้านไว้ก่อนหน้านี้ สร้างความปลี้มปิติยินดีให้แก่คุณยายวัย 90 ปี หลังจากรอคอยมา 37 ปี
นางยี่สุ่น ห่มซ้าย