สจล.จับมือ มทร.อีสาน วข. ขอนแก่น ถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทย
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมมือ มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ต่อยอดโครงการศูนย์วิจัยพัฒนาทดสอบและถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทยกิจกรรมการผลิตและการพัฒนาแรงงานขั้นสูง ให้กับเครือข่ายของมหาวิทยาลัย
เมื่อเวลา 10.30 น วันที่ 10 มิถุนายน ที่ห้องประชุมสัมมนา 1 ชั้น 3 อาคาร 50 ปีเทคนิคไทย -เยอรมัน ขอนแก่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์ รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตขอนแก่น มทร.อีสาน วข.ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ ศูนย์วิจัยพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงประเทศไทย กิจกรรมการผลิตและการพัฒนาแรงงานขั้นสูง โดยมี นายปริญ นาชัยสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.อีสานวิทยาเขต ขอนแก่น ดร.ณรงค์ สีหาจ่อง ผอ.ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมระบบขนส่งทางรางวิทยาเขตขอนแก่น รศ.ดรไพฑูรย์ พิมดี ผู้ช่วยอธิการบดี (ฝ่ายพัสดุ) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ดร.ชินพรรธน์ รัตนศิรวิทย์ ผู้ช่วยอธิการบดี(ฝ่ายวิจัย)ดร.ณัฐนนท์ ไพบูลย์ศิลป์ รองผอ. สำนักบริหารงานวิจัยและนวัตกรรม ผศ.ดร.อัตพงศ์ สุขมาตย์ อาจารย์จากคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี (สจล.) คณาจารย์ -บุคลากรและนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 120 คน
ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์
ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์ รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตขอนแก่น (มทร.อีสาน วข.ขอนแก่น )กล่าวว่าโครงการศูนย์วิจัยพัฒนาทดสอบและถ่ายทอดเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทยกิจกรรมการผลิตและการพัฒนาแรงงานขั้นสูง เป็นการจัดสัมมนาเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ของระบบราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟความเร็วสูงให้กับเครือข่ายของมหาวิทยาลัย เป็นการเตรียมการทางวิชาการและการเตรียมบุคลากร เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ การพัฒนาประเทศ ถึงภูมิภาคและจังหวัด มทร. อีสาน โดยท่านศาสตราจารย์พิเศษดรสุรเกียรติ์เสถียรไทยนายกสภา และดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดี มทร.อีสาน ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก โดยหวังว่าจะสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ที่จะไปดูแลระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย ได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้ร่วมมือกับพันธมิตรและเครือข่าย มีความมั่นใจว่าจะผลิตกำลังคนให้กับรัฐบาลอย่างเพียงพอและก็มีคุณภาพในการที่จะดูแลระบบขนส่งทางรางให้กับประเทศไทยได้อย่างดี ต่อไปในอนาคต
นายปริญ นาชัยสิทธิ์
นายปริญ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.อีสานวิทยาเขต ขอนแก่น กล่าวว่าสำหรับความเป็นมาของโครงการฝึกอบรมในนี้ เป็นความร่วมมือร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.)ซึ่งได้มีโครงการในการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการที่ทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถที่ทำงานปฏิบัติการที่จะสร้างเทคโนโลยีทางด้านรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้ทุกอย่าง เช่นการอบรมการสร้างโบกี้รถไฟความเร็วสูง การอบรมสร้างเทคโนโลยีรถไฟ และเรื่องของเทคโนโลยีการควบคุมความเย็นในรถไฟ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ เมื่อเข้าร่วมอบรมเข้า ก็สามารถที่จะปฏิบัติงานได้จริงแล้วก็ได้เครื่องมือจริงนำกลับมาใช้งานได้จริง ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ค่อนข้าง ที่จะมีคุณภาพ ดังนั้นโครงการตรงนี้ จะเป็นฐานในการที่จะพัฒนาทั้งคนและก็พัฒนาเทคโนโลยี และเพื่อพัฒนาประเทศ ในการที่จะนำไปสู่การสร้างเทคโนโลยีรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้ โดยมีเครือข่ายในการเข้าร่วมอบรมทั้ง 11 สถาบันอาชีวศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในสถาบันอุดมศึกษา อย่างเช่น ม.นครพนมม.กาฬสินธุ์ ม.รังสิต เหล่านี้เป็นต้นเป็น ที่เข้าร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงของประเทศไทย
รศ.ดรไพฑูรย์ พิมดี
รศ.ดรไพฑูรย์ ผู้ช่วยอธิการบดี (ฝ่ายพัสดุ) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่าเริ่มต้นของโครงการเพื่อต้องการที่จะพัฒนากำลังคนที่เป็นกำลังคน ที่จะเป็นผู้ปฏิบัติจริงๆในการที่จะรองรับระบบรางที่มันเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ หรือรถไฟฟ้าในอนาคตที่มันจะเกิดขึ้นนั้น ด้วยศักยภาพของราชมงคลอีสานทั้ง โคราช,ขอนแก่น,สุรินทร์ และสกลนคร มีศักยภาพในการที่จะผลิตกำลังคน เพื่อที่จะรองรับระบบดังกล่าวได้ เพราะว่าตามยุทธศาสตร์ของประเทศไทย รถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นแรก เป็นความร่วมมือกับจีน แล้วจึงมาทางภาคอีสานเรา
รศ.ดรไพฑูรย์ กล่าวอีกว่าดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการเตรียมกำลังคนเพื่อที่จะรองรับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้ประเทศไทยเราเป็นฝ่ายรับเทคโนโลยีอย่างเดียวดังนั้นเราต้องสามารถที่จะพัฒนาคนของเราให้สามารถที่จะสร้างนวัตกรรมหรือเทคโนโลยี ได้ในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น นอกจากเราจะได้กำลังพลที่มีศักยภาพที่สูงขึ้น
ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเองและก็สามารถที่จะพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรของคณาจารย์ในรูปแบบของการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าระบบรางทั้งหมดให้กับประเทศ เพราะว่าทาง (มจล.)เองก็มองว่ารถไฟมาทางอีสาน มทร.ราชมงคลอีสาน ก็จะเป็นผู้ดูแล ส่วนโครงการนี้ทางลาดกระบังเอง ได้ผลักดันให้เกิดขึ้นมา.