รร.ดัง จ่อฟ้องเว็บเพจขอนแก่น โพสต์มั่ว หางาบงบสร้างประตู รับเงินใต้โต๊ะฝากเด็กเข้าเรียน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ก.ย.ที่อาคารเกียรติยศ 30 ปี รร.แก่นนครวิทยาลัย ดร.วีระเดช ซาตา ผอ.(เชี่ยวชาญ)รร.แก่นนคร พร้อมด้วยนายพลสัณห์ พิมพ์ภักดี รอง ผอ.รร.แก่นนคร นายฤทธิรงค์ ศิริภูมิ รอง ผอ.รร.แก่นนคร นายศุภชัย สุวรรณศักดิ์ หัวหน้างานพัศดุ นายองอาจ ประจันตะเสน ครู (ชำนาญการพิเศษ)กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และคณะกรรมการการรับสมัครเด็กเข้าโรงเรียน และนายอุเทน นันสมบัติ เจ้าหน้าที่พัศดุ ร่วมกันชี้แจงแถลงข่าว กรณีที่เว็บเพจขอนแก่น แห่งหนึ่งโพสต์ข่าว เปิดประเด็น (ตอนที่ 1 )จริงหรือไม่ป้ายโรงเรียนแห่งนี้ใช้งบประมาณการก่อสร้างถึง 1.7 ล้านบาทโดยไม่ตรงตามสเปคและไม่ประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e bidding) ไขประเด็นร้อน(ตอนที่ 2 กรณีมีผู้เปิดเผยเอกสารลับ เรื่อง ขอเงินบริจาคหรือยัดเงินเข้าเรียนหรือส่วยโรงเรียน อันเป็นข้อความบิดเบือน สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อตนเองและโรงเรียนแก่นนคร โดยไม่ขอทราบข้อมูลความเป็นจริงก่อนนำออกเผยแพร่ออกไป สู่สาธารณชน ต่อสื่อมวลชน
ดร.วีระเดช ซาตา
ดร.วีระเดช กล่าวว่าตลอดชีวิตราชการที่ ตนเองได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นข้าราชการครูและผู้บริหารมาเกือบ 38 ปีที่ผ่านมานั้นได้ ทำหน้าที่ในการเป็นครูและเป็นผู้บริหารอย่างเต็มความสามารถ และคิดว่าตัวเองได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดอุทิศเวลา ให้กับทางราชการทุ่มเทเสียสละ จนใกล้จะเกษียณราชการ ซึ่งจะเกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายน 62 ที่จะถึงนี้ ก็มีข่าวจากทางด้านสื่อที่ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจจะไม่ดีไม่งามสร้างความเสียหายทั้งกับสถาบันและผมเอง จึงขออนุญาต ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงให้พี่น้องได้รับทราบเป็นข้อๆไป
เพราะตอนนี้ก็ถือว่าโรงเรียนเองเกิดความเสียหาย รวมถึงตัวผม ส่วนเรื่อง คดีความที่ web page ขอนแก่น รายนี้ที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยที่ไม่มาขอทราบข้อมูลความจริง ก่อนนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณชน นั้นทางโรงเรียน จะปรึกษาทีมงานด้านกฎหมาย หาหลู่ทางเพื่อที่จะดำเนินการฟ้องร้อง ทำให้ชื่อเสียงขอโรงเรียนเสียหายต่อไป
ด้านนายศุภชัย ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ กล่าวว่าหลังจากที่ได้รับข้อมูลแจ้งจากทางผู้บริหารให้ดำเนินการในเรื่องของการจัดทำป้ายโรงเรียนตามแบบรูปรายการที่ทางผู้ออกแบบได้ออกแบบมาให้โรงเรียน ทางงานพัสดุก็ได้ดำเนินการตามระเบียบตามขั้นตอน โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางหลังจากได้ราคากลางเสร็จแล้วก็ทำการจัดทำรายงานขอซื้อขอจ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุปี 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งวงเงินที่เราดำเนินการจัดจ้างในระเบียบในวงเงินที่ไม่เกิน 2 ล้านบาทก็สามารถที่จะใช้วิธีการโดยวิธีการสอบราคา เพราะว่าเป็นการใช้ระเบียบพัสดุปี 35 ซึ่งก็ไม่ได้ใช้วิธีการไม่ประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ (e bidding) เพราะวงเงินต่ำ
กว่า 2,000,000 บาท โดยราคากลางตั้งไว้ที่ 1,500,000 บาท ปรากฏว่ามี 3 บริษัทยื่นซองราคาเข้าประกวดคือ1.ห้างหุ้นส่วนจำกัด เพช็รเจริญการโยธา 2.บริษัท ขอนแก่น ซี.ไอ.จี.จำกัด
และห้างหุ้นส่วนจำกัด ปดิษก์ฐพงญ์ รุ่งเรืองกิจ ซึ่งบริษัทที่ชนะการประมูลคือห้างหุ้นส่วนจำกัด เพช็รเจริญการโยธา เสนอในราคา ต่ำสุด ที่ 1,450,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลางที่กำหนด
นายองอาจ ประจันตเสน
นายองอาจ ครู (ชำนาญการพิเศษ)กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และคณะกรรมการการรับสมัครเด็กเข้าโรงเรียน ชี้แจงเกี่ยวกับการรับนักเรียนในปีการศึกษา 2561ที่ผ่านมาว่าได้ดำเนินการตามกฏกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งกำหนดว่าไม่ให้มีการรับฝากเด็กใดๆทั้งสิ้นและให้มีองค์กรภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบในการรับเด็กทุกขั้นตอน อาทิ ปปช.ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเรียกรับเงินบริจาคตามเว็บเพจ เผยแพร่คลิปหนังสือรับบริจาคเงินดังกล่าว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายองอาจ กล่าวอีกว่า การที่ รร.แก่นนครวิทยาลัย ได้มีการรับสมัครเด็กเข้าศึกษาในระดับม.ต้น และม.ปลายนั้นสืบเนื่องมาจาก ทางโรงเรียนได้มีการส่งเรื่องไปที่เขตพื้นที่การศึกษาตามที่ทางโรงเรียนเสนอไป ถ้าตรงตามที่บอร์ดของสพฐ. ตกลงก็ได้จัดงบประมาณหลังจากเขตพื้นที่การศึกษาอนุมัติทางโรงเรียนก็ได้สามารถดำเนินการ ให้เด็กที่จะมาศึกษาโรงเรียนแก่นนครพร้อมกำหนดมาตรการให้เรียบร้อยเสร็จก็กำหนดวันรับสมัครและมีการสอบคัดเลือกในเขตถ้าไม่เกินจำนวนที่กำหนด ทางโรงเรียนรับต่อไป แต่ถ้านอกเขตเกินจำนวนก็มีการสอบเก็บคะแนนส่วนในปี 2561 และ ปี 62 ทางโรงเรียนประกาศรับนักเรียนทั้งหมดและมีการสำรองไว้ให้ลูกๆ ที่จะเข้าเรียนได้รู้ว่าตัวเองอยู่ในลำดับที่เท่าไหร่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจน และเมื่อประกาศสอบเก็บคะแนนเสร็จก็จะ ประกาศให้นักเรียนมามอบตัวโดยเอกสารที่จะนำมามอบตัวตามลักษณะที่แจ้งนี้เป็นใบสีชมพูและใบสีฟ้า คือระดับม.ต้นและม.ปลายให้กรอกเรียบร้อย เพื่อมอบตัวพอมอบตัวเสร็จก็จะถือว่า นักเรียนเป็นเด็กของโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยทันที ส่วนนักเรียนคนไหนไม่มามอบตัวในวันที่กำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ในวันนั้นทางโรงเรียนก็จะเรียกตัวสำรองตามลำดับจนครบตามที่สั่งสพฐ.กำหนดและลงประกาศรับสมัครเอาไว้
ซึ่งจำนวนรับนักเรียนต่อห้องระดับชั้น ม.1 และม.4 รับห้องละ 40 คน หากจำเป็น ต้องรับเกินให้รับได้ไม่เกินห้องละ 5 คนโดยผ่านความเห็นชอบคณะกรรมการรับนักเรียน ระดับโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะกรรมการรับนักเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา โดยให้คำนึงถึงนโยบายการปรับลดขนาดโรงเรียนและขนาดห้องเรียนให้เหมาะสม ส่วนโรงเรียนที่มีจัดการศึกษาด้วยวัตถุประสงค์พิเศษ และโรงเรียนที่มีห้องเรียนพิเศษ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ห้องละ 36 คน
