วันเสาร์ 20 เมษายน 2024

ทีเส็บ จับมือกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน สร้างงานไมซ์ระดับนานาชาติ

ทีเส็บ จับมือกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน สร้างงานไมซ์ระดับนานาชาติ
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

ทีเส็บ จับมือกลุ่มจังหวัดภาคอีสาน สร้างงานไมซ์ระดับนานาชาติ


ทีเส็บ ร่วมกับกลุ่มจังหวัดในภาคอีสาน สร้างงานไมซ์ระดับนานาชาติ หวังดันไหมและผ้าท้อมือไทยสู่เวทีระดับโลก กับงานประชุมนานาชาติ เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 “ไหมไมซ์”
The Silk Road of Isan MICE 27 พฤศจิกายน 2563 ณ ขอนแก่น ไมซ์ซิตี้


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 พฤศจิกายน 2563
ที่ ห้องประชุมประชาสโมสร 1 โรงแรมอวานี ขอนแก่น แอนด์ คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ถ.ประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานการแถลงข่าวงานประชุมนานาชาติ เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 โดยมีน.ส.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาและนวัตกรรมสำนักงานส่งเสริมการจัด ประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.นายสมบัติ กองภา ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตพระบรมราชินีนาถ ขอนแก่น,ดร. สุรภีร์ โรจนวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการค้าหัตถกรรมไทย และ นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ผู้ก่อตั้งแบรนด์ WISHARAWISH , นายกมลพงศ์ สงวนตระกูลประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น นายเทพวรรณ์ เตียมไธสง  รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น นายเจริญ เพ็งมูล นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น 8 องค์กรภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้นำเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นจังหวัดขอนแก่น  หัวหน้าส่วนราชการและสื่อมวลชนร่วมงาน


สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” โดยสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาที่มีภารกิจในการส่งเสริมอุตสาหกรรมผ้าไหม ผ้าทอมือ และอุตสาหกรรมไมซ์ ร่วมบูรณาการจัดงานประชุมนานาชาติ เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 ภายใต้ชื่องาน “ไหมไมซ์” The Silk Road of Isan MICE เพื่อยกระดับผู้ประกอบการผ้าไหมและผ้าทอมือจากชุมชน วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้ประกอบการ SMEs หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกลุ่มผู้ผลิตแบรนด์ผ้าไหมและผ้าทอมือ ด้วยประเด็นสัมมนาผ้าไหม ผ้าทอมือ และไมซ์ ระดับนานาชาติ ในรูปแบบไฮบริดอีเวนต์ ที่มีผู้เข้าร่วมงานผ่านระบบออนไลน์กว่า 1,500 ท่าน พร้อมกับผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 300 ท่าน ณ ห้องประชุมอวานี คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ และห้องประชุมราชพฤกษ์ 1-6 โรงแรม อวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ในวันศุกร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2563 เวลา 08:00–20:00 น.
อุตสาหกรรมการจัดประชุมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล และการแสดงสินค้านานาชาติ หรือไมซ์ ถือเป็นหนึ่งกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของไมซ์ เช่น การจัดประชุมสัมมนา การประชุมเดินทางเพื่อเป็นรางวัล การจัดประชุมองค์กร การประชุมวิชาชีพ งานแสดงสินค้า และงานอีเว้นต์ระดับนานาชาติ ซึ่งมีต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อหัวมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ทีเส็บจึงมีนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อสร้างได้ให้กับประเทศด้วยอุตสาหกรรมไมซ์ ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมผ้าไหมและผ้าทอมือ ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์และการเชื่อมโยงวิถีชีวิตของชาวอีสานที่สามารถสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับชุมชนในภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ ทีเส็บได้นำจุดเด่นของทั้งสองอุตสาหกรรมมาร่วมผลักดันเพื่อสร้างให้ไหมและผ้าทอมือมีความโดดเด่น และยกระดับขึ้นเข้าสู่ตลาดนานาชาติ อันเป็นการต่อยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ให้มีความเข้าใจในเรื่องไมซ์ พร้อมผลักดันให้ไหมและผ้าทอมือเป็นที่ยอมรับ ตลอดจนสามารถสร้างเส้นทางสายไหมให้แก่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักเดินทางไมซ์ที่พลาดไม่ได้

นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์

นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า “จังหวัดขอนแก่นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าบ้าน ต้อนรับพันธมิตรทุกท่านที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อ “ผ้าไหมและผ้าทอมืออีสาน” หนึ่งในอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุด สร้างชื่อเสียงมากที่สุด และสร้างรายได้ทางตรงสู่ชุมชนอย่างเป็นเรื่องเป็นราวมากที่สุด และวันนี้เราได้มืออาชีพด้านการจัดงานระดับนานาชาติมาเป็นหัวเรือหลักให้กับไหมอีสาน เกิดเป็นงานที่ผมเองรู้สึกเต็มไปด้วยความหวังว่า ไหมอีสานจะยิ่งรุ่งเรืองเฟื่องฟูไปทั่วโลกในอนาคตอันใกล้”

น.ส.ศุภวรรณ ตีระรัตน์

ด้านน.ส.ศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “การสร้างงานไมซ์ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์และเชื่อมโยงวิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยชูสินค้าประเภทผ้าไหมและผ้าทอมือให้โดดเด่นระดับนานาชาติ เป็นงานที่เพิ่มพูนองค์ความรู้ให้กับชุมชนและประชาชนต่อยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พัฒนาศักยภาพ ผูู้ประกอบการให้มีความเข้าใจในเรื่องไมซ์ โดยประยุกต์กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิมในท้องถิ่นสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่กับ สินค้า และสร้างประสบการณ์ให้กับชุมชน ตลอจนยังเป็นการประชาสัมพันธ์ภูมิภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ให้เป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและนานาชาติได้”


ส่วนนายสมบัติ กองภา ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหม เฉลิมพระเกียรติฯ ขอนแก่น กล่าวว่า “ภาคอีสานนอกจากจะเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าไหมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำแล้ว ผ้าไหมยังเป็นภูมิปัญญาที่สามารถพัฒนา ไปสู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและไมซ์ได้ ภาคอีสานมีชุมชนทอผ้าไหมจำนวนมากที่พร้อมรองรับนักเดินทาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าจะประทับใจและยังเป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เด็กและเยาวชนก็ได้สืบสานวัฒนธรรมไทย นักเดินทางกลุ่มไมซ์ก็ได้ประสบการณ์แบบใหม่ที่หาไม่ได้จากที่ไหน”


ดร. สุรภีร์ โรจนวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมการค้าหัตถกรรมไทย กล่าวว่า “ตอนนี้ผู้ซื้อจากทั่วโลกต่างก็มองหาผ้าที่เป็น “หัตถกรรม” ไม่ใช่งานที่มาจากอุตสาหกรรม ผู้สวมใสก็มองหาสินค้าที่มีความหมาย มีเรื่องราว ดังนั้นเสน่ห์ของผ้าไหมไทยที่ประณีต ละเอียด บรรจง ผ่านการทอจากมือของช่างทอท้องถิ่นนี่แหละ เป็นจุดแข็งที่ทั่วโลกมองหา ก้าวต่อไปของผ้าไหมไทยจึงเป็นเรื่องการส่งเสริมด้านการตลาด และความคิดสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับงานผ้าไหมไทย ซึ่งในงานประชุมเส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 ก็เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับทุกท่านอยู่ในแวดวงผ้าไหม ถือเป็นการต่อยอดทั้งเรื่องของธุรกิจ นวัตกรรม รวมถึงองค์ความรู้ภายในงานเดียว”
นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข ผู้ออกแบบแบรนด์ WISHARAWISH กล่าวว่า “ในมุมกลับกันบางงานอีเวนท์เราสามารถเอาผ้าไทยที่ราคาไม่แพง มาเพิ่มมูลค่าได้ เช่น ผ้าขาวม้า เราเอามาสกรีนลายเพิ่ม เอาภูมิปัญญาของสองชุมชนมาผสมกัน เช่นเอาเทคนิคการย้อมผ้าแบบอีสานไปใช้กับผ้าไหมในภาคอื่น ๆ เอาผ้าจากอีสานไปทำบาติกแบบภาคใต้ กลายเป็นงานที่ Limited ไม่เหมือนใคร ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เหล่านี้ ช่วยยกระดับผ้าไหมและผ้าทอมือไทยไปสู่สากลได้ ซึ่งในงานประชุมนานาชาติของเราครั้งนี้ น่าจะเป็นคลังความคิดสร้างสรรค์ของทั้งช่างทอมากประสบการณ์และนักออกแบบสายเลือดใหม่ ที่ทุกท่าน ๆ น่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก”
สำหรับงานประชุมนานาชาติ เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 “ไหมไมซ์” The Silk Road of Isan MICE ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับ


การสัมมนาจากวิทยากรระดับนานาชาติผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไหม ผ้าทอมือ และอุตสาหกรรมไมซ์ กว่า 33 ท่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ(ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์) ด้วยการสัมมนาจำนวน 16 หัวข้อ อาทิ หัวข้อ “เปิดประเด็น”: นำเสนอ ประเด็น ที่จะขับเคลื่อนวงการไหมและไมซ์ในเวลาสั้น ๆ “ลงลึก”: นำผู้เชี่ยวชาญเรื่องเดียวกันที่จะมาเจาะลึกเนื้อหาแบบ เข้มข้น “สูตรลับ”: บทสนทนาของผู้เชี่ยวชาญที่จะนำไปสู่สูตรสำเร็จของวงการไหม และหัวข้ออื่นๆที่น่าสนใจ
การจัดนิทรรศการด้านผ้าไหมและผ้าทอมือ จากชุมชนและสถานศึกษา ที่ได้รับแรงบันดาลใจและการส่งเสริมหัตถกรรมการทอผ้า จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านผ้าไหมและผ้าทอมือ จากชุมชน วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ ผู้ประกอบการSMEs หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกลุ่มผู้ผลิตแบรนด์ผ้าไหมและผ้าทอมือกว่า 10 คูหา การแลกเปลี่ยนเจรจาธุรกิจกรรมระดับแบรนด์แฟชั่นและDistributor ระดับแนวหน้า กับชุมชนผู้ประกอบการด้านผ้าไหมและผ้าทอมือและงานเลี้ยงอาหารค่ำในรูปแบบอีสานพาแลงและการแสดงแฟชั่นโชว์จากภาคีพันธมิตร ผ้าไหมและผ้าทอมือ พร้อมได้รับเกียรติจากแขกกิตติมศักดิ์ร่วมเดินแฟชั่นโชว์
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดงานสัมมนาในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทีเส็บจึงได้จัดงาน งานประชุมนานาชาติ เส้นทางไหม สู่อุตสาหกรรมไมซ์ 2020 “ไหมไมซ์” The Silk Road of Isan MICE ในรูปแบบการประชุมไฮบริด กล่าวคือ มีการจัดงานจริง พร้อมการถ่ายทอดการประชุมแบบออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.isanmice.com และทางเพจเฟสบุ๊ค isanmice ซึ่งผู้สนใจ สามารถเข้าร่วมงานได้จากทั่วโลก
สสปน. ขอเชิญผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ www.isanmice.com และร่วมรับฟังการประชุมสัมมนานานาชาติ ครั้งนี้ได้ ในวันศุกร์ ที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ระหว่างเวลา 08:00 – 20:00 น. ณ โรงแรม อวานี ขอนแก่น โฮเทล
แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ .

 

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads