นิติศาสตร์ มข.จับมือ 5 องค์กรขับเคลื่อนและสร้างนวัตกรรมร่วมกันพัฒนาคุณภาพคนและสังคม
องค์กรเครือข่ายทางวิชาการ 5 องค์กร บันทึกหลักการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพคนและสังคมระหว่าง จังหวัดขอนแก่น โรงเรียนวัดบวรนิเวศ มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป มูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่นกับคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 มีนาคม 2564 ที่ ห้องประชุมคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีพิธีลงนามบันทึกหลักการ โครงการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพคนและสังคม กฎหมายกับความยุติธรรมทางสังคมสู่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 การศึกษาที่เท่าเทียม และเป้าหมายที่ 17 ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมี ผศ.กิตติบดี ในพูล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มข.กล่าวรายงานและนำเรียนวัตถุประสงค์ จากนั้น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวนำและถ่ายทอดนโยบายเรื่องการพัฒนาคนและสังคมแผนยุทธศาสตร์จังหวัด ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพคนและสังคมยุทธศาสตร์ที่ 2 และโครงการคู่เสี่ยวเกี่ยวก้อยแก้จนคนขอนแก่น
การขับเคลื่อนและสร้างนวัตกรรมร่วมกันขององค์กรความร่วมมือทางวิชาการครู (Co-creation for Sustainability) โดยองค์กรเครือข่ายทางวิชาการ 5 องค์กรประกอบไปด้วย1.โครงการลูกแก้วนาคาโดยนายเขษมชาติ อารีมิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบวรนิเวศ 2 .มูลนิธิเสฐียรโกเศส-นาคะประทีป ในการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่โดยนายสุรสีห์ โกศลนาวิน ประธานมูลนิธิเสฐียรโกเศส ฯ 3.มูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่นครบ 200 ปี พ.ศ.2540 ในการสนับสนุนส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสโดย นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ กรรมการบริหารมูลนิธิฯ 4 .กฎหมายกับความยุติธรรมทางสังคมสู่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย ผศ.กิตติบดี ใยพูล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวนำและถ่ายทอดนโยบายเรื่องการพัฒนาคนและสังคมแผนยุทธศาสตร์จังหวัด ว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพคนและสังคมยุทธศาสตร์ที่ 2 และโครงการคู่เสี่ยวเกี่ยวก้อยแก้จนคนขอนแก่น
นายเขษมชาติ อารีมิตร
นายเขษมชาติ อารีมิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบวรนิเวศ กล่าวว่าโรงเรียนวัดบวรนิเวศ มีเป้าประสงค์ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการการศึกษา เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความสุขในการเรียนรู้มีภาวะผู้นำ มีจิตอาสา และเป็นคนดีของสังคม โดยขับเคลื่อนแผนงานโครงการลูกแก้วนาคา เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีฐานะยากจนและขาดโอกาสทางการศึกษาให้มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ (นักเรียน อยู่ประจำในหอพักโรงเรียน)
ด้านนายสุรสีห์ โกศลนาวิน ประธานมูลนิธิเสฐียรโกเศศ ฯ กล่าวว่ามูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป : มีเป้าประสงค์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชนคนรุ่นใหม่ อัน เป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สืบต่อภูมิปัญญา และแก้ไขวิกฤตการณ์ของโลก โดยนำเอาระบบคุณค่าและภูมิปัญญาของชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ผสมผสานกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อออกแบบชุมชนนิเวศที่ ่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล และสอดคล้องกับธรรมชาติโดยขับเคลื ่อนโครงการและกิจกรรม ผ่านสถาบันต้นกล้า เสมสิกขาลัย กองทุนกรุณา-เรืองอุไร กุศลาสัย เพื่อความเป็นไทของเด็กและเยาวชน และห้องสมุดสันติประชาธรรม
นายเข็มชาติ สมใจวงษ์
ส่วนนายเข็มชาติ สมใจวงษ์ กรรมการบริหาร มูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่นครบ 200 ปี พ.ศ.2540 กล่าวว่าในส่วนของมูลนิธิเพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น มีเป้าประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา ของนักเรียนและเยาวชน ภิกษุสามเณร ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ที่มีฐานะยากจนให้มีโอกาส ได้รับการศึกษาต่อในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง
ผศ.กิตติบดี ใยพูล
ท้ายสุด ผศ.กิตติบดี ใยพูล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเป้าประสงค์ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ ว่าด้วยการบริหารเครือข่ายทางวิชาการ (Academic Partnerships) ด้านการบริการวิชาการแก่สังคมและด้านการบริหารเครือข่าย โดยจัดทำโครงการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาคุณภาพคนและสังคม กฎหมายกับความยุติธรรมทางสังคมสู่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยัายืน (เป้าหมายที่4การศึกษาที่ ่เท่าเทียม และเป้าหมายที่ 17ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน)
ผศ.กิตติบดี กล่าวอีกว่าดังนั้นเพื่อให้มีแนวทางการประสานความร่วมมือและการร่วมดำเนินการที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรมบนฐานของการสร้างคุณค่าและเป้าประสงค์ร่วมกัน (Co-Creation for Sustainability) จึงได้จัดทำบันทึกหลักการเครือข่ายความร่วมมือฉบับนี้ขึ้น ส่วนวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพคนและสังคม ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบาย เมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) และเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมขององค์กรเครือข่ายให้บรรลุเป้าประสงค์ในการขับเคลื่อนงานเพื่อพัฒนาคุณภาพคนและสังคม และส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมด้านอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควร
ผศ.กิตติบดี ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์และความสำคัญของการสร้างพลังเครือข่ายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Power of Co-Creation for Sustainability) ตอนหนึ่งว่า “จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะทำให้คณะนิติศาสตร์ มข. เป็นองค์กรที่ตอบโจทย์ต่อการพัฒนาจังหวัด สังคมและประเทศ คณะมีการปรับตัวในการทบทวนบทบาทและพันธกิจในการสร้างมูลค่า (Value of Law) ต่อสังคมและประเทศ ตามวิสัยทัศน์ในการเป็นโรงเรียนสอนกฎหมายที่ผลิตบัณฑิตให้มีนิติทัศนะรับใช้สังคม โดยคณะนิติศาสตร์ได้ปรับตัวเพื่อรองรับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องผลิตบัณฑิตด้านกฎหมายที่มีความรู้ด้าน กฎหมาย มีวิสัยทัศน์ (Vision) และที่สำคัญต้องแปลงคุณค่าทางด้านกฎหมายในการรับใช้สังคม เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้เกิดความเป็นธรรม รวมทั้งคณะมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังหวัด สังคมและประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะจะทำหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพคนในการเป็นพลเมือง (Citizenship) ในทางประชาธิปไตยและทางนิติธรรม ขยายพื้นที่การเรียนรู้จากระดับอุดมศึกษาลงไปสู่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ชุมชน และสังคม สร้างแหล่งเรียนรู้และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างนักศึกษากับสังคม นำไปสู่การสร้างคุณค่าและสร้าง Mindset ให้กับนักนิติศาสตร์ยุคใหม่ที่แม่นยำในหลักการและสามารถแปลงให้เป็นพลังสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาสังคมและประเทศ โดยมีเครือข่ายความร่วมมือที่จะช่วยสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป.