สหกรณ์ฯครูขอนแก่น ยัน!ไม่ได้เล่นแร่แปรธาตุ นำเงินกองทุนสวัสดิการเดิม ไปซื้อประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิต

สหกรณ์ฯครูขอนแก่น ยัน!ไม่ได้เล่นแร่แปรธาตุ นำเงินกองทุนสวัสดิการเดิม ไปซื้อประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิต

คณะกรรมการฯ แจงไม่เคยเอาเงินกองทุนสวัสดิการเดิม (กสส.1-6,กสช.1-3) ไปซื้อประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทประกันภัย แต่ที่จ่ายสงเคราะห์ ทายาทได้เพราะดอกเบี้ยที่เกิดจากกองทุน และการจ่ายไม่มีการหักค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการร้อยละ 5 แต่อย่างใด และไม่ได้เล่นแร่แปรธาตุ เพื่อหวังผลประโยชน์ ดังที่บางกลุ่มได้กล่าวหา

      เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อกรณีที่เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 นายอนุศาสตร์   สอนศิลป์พงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้มีเอกสารถึงสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ผู้แทนสมาชิก ต่อกรณีนายทะเบียนสั่ง ว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เกี่ยวกับการประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย เพราะมีผู้ร้องนายทะเบียน และฟ้องศาลปกครอง เพื่อคืนเงินกองทุนสวัสดิการเดิม (กสส.1-6,กสช.1-3) ด้วยข้อกล่าวหาว่านำเงินกองทุนฯ ไปซื้อประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทประกันภัย โดยมีเนื้อหาใจความว่า

   นายอนุศาสตร์   สอนศิลป์พงศ์

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ต้องสีขาว ด้วยธรรมาภิบาลและความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน  “เป็นที่พึ่งของมวลสมาชิก ตามอุดมการณ์ของสหกรณ์”
   เรียน  สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ผู้แทนสมาชิก ที่รักและเคารพทุกท่าน
  วันนี้ขอนำเรียนสร้างความเข้าใจ เรื่องกองทุนสวัสดิการเดิม (กสส.1-6,กสช.1-3) และการกู้เงินสวัสดิการ ของสมาชิก เรื่องกองทุนสวัสดิการได้ริเริ่ม ตั้งแต่ปีพ.ศ.2532 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 31 ปี สามารถดูแลครอบครัวสมาชิก และผู้ค้ำประกัน เป้าหมายหลักเป็นการให้สวัสดิการ ช่วยครอบครัวสมาชิก และไม่ให้ผู้ค้ำประกันเดือดร้อน กรณีผู้กู้เสียชีวิต และเงินกองทุนที่สมาชิก บริจาคมานั้น นำไปให้สมาชิกกู้รายละไม่เกิน 800,000 บาท และซื้อประกันชีวิต เพื่อคุ้มครองให้กับสมาชิก และมีการหักค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการตามระเบียบ ร้อยละ 5 (ในอดีต) นั่นคือสิ่งที่พวกเรารับรู้ รับทราบและได้รับการปฏิบัติมาโดยตลอด
    ผมเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 สมาชิกสะท้อนและให้ข้อมูล มาว่าการกู้เงินสวัสดิการสมาชิก ไม่มีโอกาสได้รับเงินเฉลี่ยคืนเลย ผมและคณะกรรมการมองว่าสะท้อนข้อคิด ของผู้แทนสมาชิก แลกสมาชิกนั้นมีเหตุผล สมควรรับมาพิจารณา และนำสู่การปฏิบัติ จึงมีมติปรับเปลี่ยน จากการกู้สวัสดิการเป็นการกู้สามัญ สวัสดิการและกำหนดวงเงินจาก 800,000 เป็น 1,000,000 บาท ขณะเดียวกันสมาชิกมีโอกาส ได้รับเฉลี่ยคืนตามที่สมาชิกต้องการ ปรากฏชัดเชิงประจักษ์ เมื่อมีการปันผลเฉลี่ยเงินคืน ปี 2563 การดำเนินการ ที่สามารถทำให้สมาชิกมีโอกาส ได้รับเฉลี่ยคืนได้ เพราะเราต้องปรับเงินสวัสดิการเดิม ซึ่งเงินอยู่นอกระบบสหกรณ์ ไปเป็นทุนสวัสดิการและสงเคราะห์ ไปอยู่ในระบบสหกรณ์ให้ ถูกต้องตามข้อบังคับและข้อกฎหมาย จนนำไปสู่ระบบระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ว่าด้วย สวัสดิการและสงเคราะห์สมาชิก พ.ศ. 2563  

   โดยผ่านความเห็นชอบจากผู้แทนสมาชิก และกองทุนสวัสดิการเดิม ที่ถูกโอนขึ้นไปเป็นของสหกรณ์ จำนวน 2,457,287,565 บาท เงินที่ถูกโอนไปเป็นสวัสดิการ และสงเคราะห์สมาชิก ถ้าคำนวณดอกเบี้ยร้อยละ 6 จะได้รับประมาณปีละ 140 กว่าล้านบาทเศษ นำดอกผลที่ได้ ไปช่วยเหลือสมาชิกตามสิทธิกองทุนเดิม (กสส.1-6,กสช.1-3) และไม่จำเป็นต้องไปซื้อประกันชีวิต กับบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันภัย เพราะเรามองว่าเป็นสวัสดิการ และส่งเคราะห์ตามข้อบังคับข้อ 3(15) และพ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 มาตรา 46(2) ขอยืนยันว่าตั้งแต่ผมมารับตำแหน่ง ไม่เคยเอาเงินกองทุนสวัสดิการเดิม (กสส.1-6,กสช.1-3) ไปซื้อประกันชีวิตกับบริษัทประกันชีวิต หรือบริษัทประกันภัย แต่ที่จ่ายสงเคราะห์ ทายาทได้เพราะดอกเบี้ยที่เกิดจากกองทุน และการจ่ายไม่มีการหักค่าใช้จ่าย ในการดำเนินการร้อยละ 5 แต่อย่างใด การดำเนินงานก็เป็นปกตินายทะเบียน ก็รับทราบระเบียบดังกล่าว
   จนมาถึงวันนี้นายทะเบียนพึ่งสั่ง ว่าอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เกี่ยวกับการประกันชีวิตหรือประกันวินาศภัย เพราะเราไม่ร้องนายทะเบียนและฟ้องศาลปกครอง เพื่อคืนเงินกองทุนดังกล่าว นายทะเบียนจึงมีคำสั่ง ให้คณะกรรมการดำเนินการแก้ไข ข้อบกพร่องใน 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ(1) ระงับการดำเนินการทั้งหมด ที่เกี่ยวกับกองทุนสวัสดิการ (2) ให้สหกรณ์ ตรวจสอบถามบุคคล ที่เข้าร่วมกองทุนสวัสดิการ แต่ละรายว่าประสงค์จะบริจาคเงิน ให้กับสหกรณ์หรือไม่ อย่างไรโดยให้มีหลักฐานความยินยอมเป็นหนังสือ หากสมาชิกใดไม่ยินยอม สหกรณ์ต้องคืนเงินกองทุน บริจาคแรกเข้าให้กับสมาชิก ให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน
    จึงเรียนสมาชิกทุกท่าน ว่าคณะกรรมการไม่ได้เล่นแร่แปรธาตุ เพื่อหวังผลประโยชน์ ดังที่บางกลุ่มได้กล่าวหา จึงเรียนว่าสมาชิกสามารถ ตัดสินใจด้วยอิสระ ไม่มีการบังคับหรือถูกครอบงำจากคณะกรรมการ แบบสอบถามมีการชัดเจนในตัวคือ บริจาคเพื่อเป็นทุนสวัสดิการ และสงเคราะห์หรือคืนเงินกองทุน ก็มีแค่ 2 ประเด็น ถ้าบริจาคคณะกรรมการดำเนินการ ต้องมาวางแผนว่าจะคงสิทธิสวัสดิการเดิม ของสมาชิกไม่ให้กระทบสิทธิตามเป้าประสงค์เดิม และให้ถูกต้องตามข้อบังคับ และข้อกฎหมาย   
   การที่จะนำกองทุนสวัสดิการเดิมเข้าไปในระบบสหกรณ์ ได้คือการบริจาคของสมาชิกเท่านั้นกรณีไม่มีข้อมูล การบริจาคของสมาชิก คณะกรรมการดำเนินการ ก็คืนเงินกองทุนสวัสดิการเดิมให้กับสมาชิกดังนั้น จึงเรียนว่าคณะกรรมการดำเนินการ มีเจตนาดีต่อมวลสมาชิก ไม่มีเจตนาที่จะแสวงหาผลประโยชน์หรือเล่นแร่แปรธาตุเลย ถ้าคณะกรรมการไม่มีเจตนา จะแก้ปัญหาและไม่คำนึงถึงความรู้สึก ของสมาชิก คณะกรรมการ คืนเงินกองทุนสวัสดิการเดิม ทั้งหมดให้สมาชิกได้ทันที
    เพราะเงินกองทุนสวัสดิการเดิมทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันอยู่ในมือสมาชิกทั้งหมด เพราะสหกรณ์ให้สมาชิกกู้ยืม ไปตามสิทธิ เงินไม่ได้หนีไปไหน อยู่ในระบบสหกรณ์ชัดเจน จึงสร้างความเข้าใจมายังสมาชิกทุกท่าน ได้ทราบข้อมูลที่เป็นจริง
                ขอแสดงความนับถือ
          นายอนุศาสตร์   สอนศิลป์พงศ์
ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด