เฝ้าระวังใกล้ชิด!เขื่อนอุบลรัตน์ หลังระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ยังคงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดเนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 30 – 40 ซม.และปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนยังอยู่ในเกณฑ์น้ำมากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2564 เป็นต้นมา ไม่ต่ำกว่า 70 ล้าน ลบ.ม./วัน และเมื่อวานนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าสูงมากถึง 137 ล้าน ลบ.ม.สามารถรองรับได้อีกเพียง 513 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น คาดว่าหากสถานการณ์น้ำยังเป็นเช่นนี้ระดับน้ำจะขึ้นไปที่ระดับเก็บกักปกติสูงสุด (ระดับน้ำ 182.00 ม.รทก.)ซึ่งคิดเป็น 100% ของความจุอ่างฯ ภายในอีกปริมาณ 8 – 10 วันข้างหน้านี้
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2564 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนอุบลรัตน์ ได้ออกประกาศ เรื่องสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2564 ด้วยสภาพฝนที่ตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ในปริมาณมากอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ยังคงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดเนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 30 – 40 ซม.และปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนยังอยู่ในเกณฑ์น้ำมากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2564 เป็นต้นมา ไม่ต่ำกว่า 70 ล้าน ลบ.ม./วัน และเมื่อวานนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าสูงมากถึง 137 ล้าน ลบ.ม.สามารถรองรับได้อีกเพียง 513 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น คาดว่าหากสถานการณ์น้ำยังเป็นเช่นนี้ระดับน้ำจะขึ้นไปที่ระดับเก็บกักปกติสูงสุด (ระดับน้ำ 182.00 ม.รทก.)ซึ่งคิดเป็น 100% ของความจุอ่างฯ ภายในอีกปริมาณ 8 – 10 วันข้างหน้านี้
ดังนั้น กฟผ.จึงต้องพร่องน้ำในเขื่อนเพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ามาโดยเป็นการปล่อยน้ำ เพิ่มในปริมาณที่ควบคุมให้ไหลอยู่ในลำน้ำพองไม่เกิดผลกระทบต่อด้านท้ายน้ำซึ่งจะได้ปรับเพิ่ม การระบายน้ำมากกว่าปกติเป็น 18 ล้าน ลบ.ม./วัน ในวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 และ 20 ล้าน ลบ.ม./วัน ในวันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นต้นมา ตามมติคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 มีมติให้เขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำระหว่าง 15 – 35 ล้าน ลบ.ม./วัน (ซึ่งเป็นความจุของลำน้ำพอง) โดยคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจ.ขอนแก่น ได้ร่วมกันบริหารจัดการน้ำให้เกิดสมดุลในลุ่มน้ำชี – พอง ทั้งด้านเหนือน้ำและท้ายน้ำในการปรับเพิ่ม – ลด การระบายน้ำ แบบรายวัน ในปริมาณไม่เกิน 3 ล้าน ลบ.ม./วัน หรืออัตราการไหล 35 ล้าน ลบ.ม./วินาที
กฟผ.จึงเรียนมายังทุกท่านซึ่งมีพื้นที่อยู่อาศัยและอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้อยู่ในที่ลุ่มต่ำ เพื่อเฝ้าระมัดระวังสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ ปั๊มสูบน้ำ ขอให้เคลื่อนย้ายได้ตามการขึ้นลงของระดับน้ำ รวมทั้งผูกเรือ กระชังปลา ให้แน่นหนา ทั้งนี้ปริมาณน้ำที่ระบายในช่วงนี้จะทำให้ระดับน้ำในลำน้ำพองท้ายเขื่อนสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นปริมาณน้ำไหลอยู่ในลำน้ำพองปกติ และหากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง กฟผ.จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไปทั้งนี้ท่านสามารถติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทร 043-446392 ,061- 13968337 และที่เว็บไซต์ http// nehcc-inter.egat.co.th
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้เปิดเผยว่า ในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจังหวัดขอนแก่นได้รับอิทธิพลจากพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันหลายวันประกอบกับมวลน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ ตามลำน้ำชี ลำน้ำพรมและลำน้ำเชิญ มีปริมาณมากทำให้ไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร รวม 11 อำเภอ และมวลน้ำได้ไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์
ขณะที่สถานณ์น้ำท่วมที่ อ.ชุมแพ อ.ภูผาม่าน อ.หนองเรือ ยังมีน้ำท่วมขัง แต่ว่าระดับน้ำลดลงเพราะไม่มีฝนตกในพื้นที่ ส่วนทางฝั่งของ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.มัญจาคีรี อ.ชนบท บ้านโนนพันชาติ ต.โคกสำราญ อ.บ้านเฮด จ.ขอนแก่น ต.ดอนช้าง,ต.ท่าพระ และ บ้านกุดกว้าง บางส่วนของ อ.เมืองขอนแก่น ยังคงต้องเตรียมรับมวลน้ำที่ไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ ให้ประชาชนขนของขึ้นที่สูงโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำชีดังกล่าว.
