วันพฤหัสบดี 25 เมษายน 2024

 “3 บัณฑิตป้ายแดง มข.” พิการกายแต่หัวใจแกร่ง

 “3 บัณฑิตป้ายแดง มข.” พิการกายแต่หัวใจแกร่ง
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

 “3 บัณฑิตป้ายแดง มข.” พิการกายแต่หัวใจแกร่ง

  เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากกองสื่อสาร องค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ว่า สืบเนื่องมาจากการที่บัณฑิตหัวใจแกร่ง พิการทางร่างกาย 3 คน ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยรับพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากพระหัตถ์ ในห้องรับรองเป็นการส่วนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีพุทธศักราช 2564 ระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี“ปลาย” ปิยาภรณ์ จันทร์ขาว วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต จากเด็กนักกิจกรรมจนเกือบถูก “รีไทร์” “ปลาย” เกิดและเติบโตที่อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ มีคุณยายเป็นผู้ปกครองและเสาหลักส่งเสียดูแล เนื่องจากพ่อกับแม่แยกทางกัน “ปลาย” เป็นเด็กเรียนดีจบมัธยมปลายสายคำนวณจากโรงเรียนบึงกาฬด้วยเกรดเฉลี่ย 3.64 เลือกเข้าศึกษาต่อที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในโควตาโครงการนักศึกษาพิการ โดยความบกพร่องทางร่างกายคือแขนขวาพิการใต้ข้อศอกลงมา ความพิการไม่เป็นอุปสรรคในการเรียน โดยเฉพาะการเรียนเลกเชอร์ เพราะสามารถเขียนด้วยมือซ้าย ยกเว้นการทำแล็ป การใช้สารเคมี มักมีเพื่อนบัดดี้ช่วยเหลือ ช่วงเรียนปี 1 ความที่ชอบทำกิจกรรมมาก จึงเข้าร่วมทุกกิจกรรมทั้งกิจกรรมของคณะ และมหาวิทยาลัย จนมีหน่วยกิตกิจกรรมถึง 70 – 80 หน่วยในปีแรก พอการจัดการเวลายังไม่ได้ เลิกดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทั้งต้องเรียน ต้องอ่านหนังสือสอบ และทำกิจกรรม การเรียนจึงตกลงมา เกือบถูกรีไทร์ เมื่อค้นพบว่า การรักษาสมดุลเป็นสิ่งสำคัญ เรียนและกิจกรรมไปด้วยกันได้ จึงใช้วิธีลงเรียนซัมเมอร์เกือบทุกเทอม เพื่อดึงเกรดขึ้น และผ่อนกิจกรรมลงมาให้น้อยลง ก็สามารถกลับมามีผลการเรียนที่ดีขึ้นได้


การพิการแขนขวาตั้งแต่ข้อศอกลงมา และฐานะทางบ้านไม่สู้ดีนัก ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับปลาย เพราะเธอเป็นคนที่พึ่งพาตัวเอง เช่น สอนพิเศษวิชาฟิสิกส์ ทำงานในโครงการจ้างงานกับกองกิจการนักศึกษา เข้าร่วมโครงการเบิกค่าเทอมของคนพิการจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่สนับสนุนโดย อว. สามารถแบ่งเบาภาระยายได้มากทีเดียว ปลายเล่าว่า คนสำคัญที่สุดคือ “ยาย” รู้สึกภูมิใจในตัวเองจริง ๆ ที่ทำให้ยายภูมิใจในวันนี้ และตั้งใจว่าจะหางานทำที่มั่นคงที่สามารถดูแลตัวเองได้ และดูแลยายที่ลำบากมามากแล้วให้สบายในอนาคต


นอกจากนี้ยังได้ ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดเจ้าหน้าที่ดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด มากกว่าความรับผิดชอบในหน้าที่ คือเป็นที่พึ่งทางใจของเหล่าบรรดานักศึกษาพิการตั้งแต่ปี 1 ถึงสำเร็จการศึกษา จะมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ ฯ ดูแลอยู่เสมอ
ปลาย เผยว่า คนแรกที่ประทับใจมากและอยากขอบคุณจากหัวใจคือ “พี่โอ๊ต” (นางสาวปริยากร สบาย นักวิชาการศึกษา ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ กองพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ) พี่โอ๊ต มีจิตอาสาการบริการให้กับนักศึกษาพิการทุกคน จะคอยให้ความช่วยเหลือแนะนำให้คำปรึกษาในทุกเรื่องตั้งแต่เข้าปี 1 จนถึงวันรับปริญญา
“อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว บัณฑิตวีลแชร์พลังบวก ทิ้งบัตรผู้พิการ ใช้ศิลปะสร้างตัว“อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว เป็นพี่คนโต และมีน้องสาวที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ในครอบครัวเล็ก ๆ ที่จังหวัดอำนาจเจริญ เดิมเป็นเด็กสดใส ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่เช่นเด็กทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยรุ่นราว 18-19 ปีเกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ทำให้มีภาวะเดินไม่แข็งแรง ผู้ปกครองตัดสินใจให้เรียนต่อชั้นมัธยมปลาย ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ขอนแก่น แต่เรียนได้ปีเดียว จึงคิดว่าต้องออกนอกกรอบไปเรียนที่โรงเรียนขามแก่นนคร ในชั้นมัธยม 5-6 ก้าวข้ามกำแพงคำว่า “ผู้พิการ” ออกมา และตัดสินใจทิ้งบัตรคนพิการ


กระทั่งสามารถสอบเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้สำเร็จ เคราะห์ไม่ดีเกิดอุบัติเหตุตกบันไดอีกครั้ง เกิดอาการกระดูกทับเส้นประสาท ส่งผลให้ร่างกายท่อนล่างอ่อนแรงเฉียบพลันต้องนั่งวีลแชร์
อาร์ต เล่าว่า “ตอนนั้นเศร้าหนักมาก เพราะที่บ้านฐานะแย่ แถมมีน้องที่ร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้ว เป็นห่วงว่าใครจะดูแลพ่อกับแม่ ใครจะดูแลน้อง แต่ในที่สุดก็หลุดความรู้สึกนั้นมาโดยความคิดว่าแม้จะใช้เท้าเดินไม่ได้ ก็จะใช้ล้อนำทางเป็นเหมือนคนปกติ ที่สำคัญในตอนที่เรียนอยู่มีเพื่อนที่ดีมาก คอยซับพอร์ตทุกเรื่องตั้งแต่ปี 1 เป็นขาแทน เป็นคนสอนทุกอย่าง พาไปกินข้าว พาไปเรียน จนถึงพากลับหอ”
อาร์ตยังเล่าต่ออีกว่า พี่โอ้ต เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ เหมือนแม่คนที่สอง ช่วยดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ให้ เป็นคนที่เข้าใจแต่ไม่ตามใจมาก ปล่อยให้พวกเราใช้ชีวิตอย่างเข้าใจว่าต้องโตไปเรื่อย ๆ
แม้ฐานะทางบ้านจะไม่ค่อยดี แต่อาร์ตก็เลือกที่จะไม่ขอทุนการศึกษามหาวิทยาลัย ไม่กู้เงิน กยศ. เพราะเชื่อมั่นในตัวเองว่า ยังไหว ยังสามารถหารายได้เพื่อดูแลตัวเองขณะเรียนได้ อยากเก็บโอกาสไว้สำคัญคนที่แย่กว่า รายได้หลักของอาร์ตจึงมาจากการรับจ้างทำบีท (Beat) หรือดนตรีสังเคราะห์ โดยเอาความรู้สึกพูดออกไปเป็น Melody ผ่านผลงานศิลปะออกไปสร้างรายได้ อัดเป็นเนื้อร้องหรือแต่งเนื้อร้องให้ลูกค้า นอกจากนี้ยังรับ งานวาดภาพ ตัดต่อวีดีโอ เขียนบท แต่งรูป หลังปัจจุบันอาร์ตทำงานเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนที่บ้านเกิด และด้วยความเป็นคนอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ได้ ก็รอเวลาที่ชีพจรจะลงล้ออีกครั้ง
“บางคนที่เดินได้อาจจะไม่มีโอกาส สงสารคนที่ไม่มีแล้วเขาขอทุนไม่ได้ จากคนที่ยืมไปแล้วไม่คืน เราเลยอยากแบ่งที่ของเราไว้ให้คนที่เขาไม่มีจริง ๆ ดีกว่า แรงบันดาลใจของความสำเร็จเป็นบัณฑิตในวันนี้ มาจากที่ความฝันของยายอยากเห็นคนในตระกูลเข้ารับปริญญาสักคน ได้สวมชุดครุยในวันนี้ภูมิใจที่ตัวเองทำได้มากครับ” “อาร์ต” ไพฑูรย์ กุมแก้ว กล่าวทิ้งท้ายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฟลุ๊ค” นิติศาสตร์ การถัก
ศึกษาศาสตร์บัณฑิต ว่าที่ครูหนุ่ม ผู้มุ่งหวังส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักเรียน“ฟลุ๊ค” ในอดีตเป็นเด็กร่างกายแข็งแรง อาศัยอยู่กับตายาย และพี่สาว 1 คน ในอำเภอห้วยผึ้ง จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อประถม 6 ประสบอุบัติเหตุตกจากจักรยานยนต์ ส่งผลให้ขาอ่อนแรง กระทั่งได้เรียนต่อชั้นมัธยม 4 ที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ขอนแก่น เมื่อเดินไม่ทันเพื่อนจึงนั่งวีลแชร์เป็นหลัก จึงกลายเป็นติดวีลแชร์ในที่สุด เข้าเรียนได้เพียง 1 เทอม จึงย้ายออกไปเรียนที่โรงเรียนขามแก่นนคร เพื่อเน้นด้านวิชาการ และได้รับโอกาสเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
“ฟลุ๊ค” ได้พบกับเพื่อน ๆ กลุ่มสัมพันธ์ในสาขาศิลปศึกษา เอาใจใส่อาหาร การกิน จัดเวร มารับ- ส่ง ช่วงแรก เดินทางโดยมีเพื่อนช่วยยกวีลแชร์ขึ้นชัตเทิลบัส ด้วยความไม่สะดวกในการขึ้นลง ในช่วงชั้นปีที่ 2 เพื่อนจึงอุ้มขึ้นนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ รับ-ส่ง พกวีลแชร์ไว้คณะ ฯ ซึ่งสะดวกมากขึ้น โชคดีที่เพื่อนน่ารัก เอาใจใส่ ไม่คิดแบ่งแยกว่าเราเป็นผู้พิการ เพื่อนดูแลดีมาก แม้แต่การไปห้างสรรพสินค้าก็นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์เมื่อ ถึงห้างเพื่อนจะแบกขึ้นหลัง แล้วพาเดินไปทั่วทุกชั้น นอกจากนี้ยังได้รบการสนับสนุนจากศูนย์บริการนักศึกษาพิการ บริการยืมวีลแชร์ เครื่องบันทึก หรือการเบิกคืนค่าเทอม
เป้าหมายของชีวิตหลังเรียนจบ อยากทำงานในสถานศึกษาพิเศษที่มีการอำนวยความสะดวกกับผู้พิการ และเป็นแรงบันดาลใจ กำลังใจให้ผู้ปกครองเห็นศักยภาพของเด็กพิเศษ หรืออีกนัยหนึ่งก็อยากที่จะอยู่กับโรงเรียนปกติ คือให้เด็กได้เห็น และยอมรับข้อแตกต่างระหว่างบุคคล
เพราะพบเจอกับคำว่า “ยาก” เป็นบททดสอบมาเกือบทั้งชีวิต แต่ก็สามารถข้ามผ่านมาได้ด้วยพลังบวกที่นับเป็นความ “โชคดี” ยิ่ง ทั้งจากเพื่อน ครอบครัว อาจารย์ และโอกาสจากทางคณะ ที่คอยเคียงข้างจนมาถึงเส้นชัย โดยเฉพาะ “เพื่อน” ที่บัณฑิตพิการกล่าวถึงด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า “อยากขอบคุณเพื่อนมากที่สุด ขอบคุณที่ดูแลเราทุกอย่าง ขอบคุณที่ไม่ว่าจะไปไหนก็พาเราไปด้วย ถ้ามีโอกาสก็อยากจะตอบแทน เวลาที่เขามีปัญหาก็อยากจะให้นึกถึงเรา” ส่วนการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยนอกจากการมีศูนย์บริการนักศึกษาพิการ ที่คอยอำนวยความสะดวกแล้ว นักศึกษาทั้ง 3 คนสะท้อนเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เพิ่มการอำนวยความสะดวก ในด้านการเดินทาง คมนาคม สถานที่ ให้เอื้อมากพอสำหรับนักศึกษาพิการ เช่นทางลาดแม้มีแต่อาจจะสูงชันเกินไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

ผศ.นพ.ธรา ธรรมโรจน์

ด้าน ผศ.นพ.ธรา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การดูแลผู้พิการนั้น สอดคล้องโดยตรงกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ 3 กลยุทธ์ที่ 2 เรื่องการดูแลและการให้บริการสังคม นอกจากนี้ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้นำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ สหประชาชาติ Sustainable Development Goal มาเป็นกรอบในการดำเนินการดำเนินงาน ซึ่งกรอบดังกล่าวมี SDGs ที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ 2 SDGs คือ SDGs 4 เรื่อง การศึกษา และ SDGs 8 เรื่องการจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยขอนแก่น มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางของสหประชาชาติ
“มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เนื่องจากมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาในด้านนโยบาย องค์ความรู้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การพัฒนาในด้านอาชีพ การพัฒนาในด้านคุณภาพชีวิต การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก จากความร่วมมือดังกล่าว เราจะพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการปรับนโยบาย การรับคนพิการทั้ง นักศึกษา บุคลากร มีอาจารย์สาขาต่าง ๆ จะมาระดมสมองเพื่อเป็นองค์ความรู้ แนวทางในการพัฒนาอย่างรอบด้าน ซึ่งโครงการที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการ และ มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในขณะนี้ อาทิ การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากเพิ่มขึ้น ด้านการรับนักศึกษา การรับบุคลากรใหม่ ด้านสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ นอกจากนี้ จะมีการสำรวจคนพิการใหม่ เนื่องจากความพิการมีหลายระดับ แต่เดิม เราสามารถตรวจจับได้เฉพาะกรณีที่เห็นอย่างชัดเจน เช่น แขนขาด ขาขาด ตาบอด แต่ในความเป็นจริงแล้วความพิการที่มีระดับมากกว่านั้น เช่น ตาฝ้าฟาง มือใช้งานไม่ได้บางส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา หรือ บุคลากร เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงนโยบาย สิ่งอำนวยความสะดวกมากเพิ่มขึ้น”.

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads