วันศุกร์ 29 มีนาคม 2024

 “กฟก.ขอนแก่น” มอบเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกร เป็นรายแรกของ จ.ขอนแก่น

 “กฟก.ขอนแก่น” มอบเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกร เป็นรายแรกของ จ.ขอนแก่น
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

 “กฟก.ขอนแก่น” มอบเช็คชำระหนี้แทนเกษตรกร เป็นรายแรกของ จ.ขอนแก่น


เกษตรกรไทย ที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกองทุนเพื่อให้กองทุนช่วยเหลือจากการเป็นหนี้สินของเกษตรกร ซึ่งเป็นหนี้อยู่เพื่อยืนยันได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ระเบียบของกองทุนฟื้นฟู ที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร จากการอนุมัติการใช้งบกลางปี 2565 จากรัฐบาลในวงเงินทั้งหมดที่ได้มาทั้งหมด 269,617,500 บาท


    เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2565 ที่ ห้องประชุมแก่นขาม ชั้น 2 สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น ตำบลทำพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายสมยงค์ แก้วสุพรรณ ประธานอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 4/2565 โดยมี นายประยงค์ อัฒจักร ผู้อำนวยการสำนักกิจการสาขาภูมิภาคที่ 3 นายสานิต เชิดโคกสี หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดขอนแก่น พนักงาน และลูกจ้าง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงภายหลังที่ประชุม ภายหลังที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบระเบียบวาระที่ 1 ถึงวาระที่ 5 ในครั้งนี้ได้มีการมอบเช็คเงินชำระหนี้แทนเกษตรกร 1 ราย คือบ้านหนองจิก ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น  อายุ 50 ปี อาชีพ ทำนา ให้กับเจ้าหนี้สหกรณ์การเกษตรพระยืน จำกัดเป็นเงิน 393,770.17 บาทด้วย


  นายสานิต เชิดโคกสี

นายสานิต เชิดโคกสี หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวว่า ด้วยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยให้เกษตรกรทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้เดิม และให้เกษตรกรทำสัญญาผ่อนชำระเงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ตามระยะเวลาที่ตกลงกันแต่ไม่เกิน 15 ปี


  นายสานิต กล่าวอีกว่าโดยสำนักงานกองทุนพื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ 2565 ด้านการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามที่ สำนักงานเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเป็นเงิน 269,617,500 บาท เป็นงบสนับสนุนการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 6 โครงการ และโครงการกู้ยืม จำนวน 776 โครงการ นั้นการพิจารณาแผนและโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

    นายสานิต  กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับเกษตรกรไทย ที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกองทุนเพื่อให้กองทุนช่วยเหลือจากการเป็นหนี้สินของเกษตรกร ซึ่งเป็นหนี้อยู่สหกรณ์การเกษตร เพื่อยืนยันได้มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานหลักเกณฑ์ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ระเบียบของกองทุนฟื้นฟู ที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรรายนี้ได้ เราจึงได้รับอนุมัติการใช้งบกลางปี 2565 จากรัฐบาลในวงเงินทั้งหมดที่ได้มาทั้งหมด 269,617,500 บาท แล้วก็แบ่งมาเป็นการชำระหนี้ของเกษตรกร 150 ล้านบาท ในส่วนของจ.ขอนแก่น นั้นได้รับการอนุมัติในที่ผ่านมาช่วงนี้ 19 ราย สำหรับในวันนี้ 1 รายที่เป็นหนี้อยู่กับสหกรณ์การเกษตรอำเภอพระยืน ชื่อ นางพรธิภา นันวัด ชาวบ้านหนองจิก ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น  อายุ 50 ปี อาชีพ ทำนา โดยเป็นหนี้อยู่กับสหกรณ์การเกษตรพระยืน วงเงินกู้ เงินต้นอยู่ 300,000 บาทดอกเบี้ยอีก 800 กว่าบาท


    นายสานิต กล่าวต่อไปว่าซึ่งในวันนี้ กฟก.ขอนแก่น ได้มอบเช็คเป็นรายแรกของ จ.ขอนแก่น ให้กับเจ้าหนี้นั้นคือสหกรณ์การเกษตรพระยืนรวมแล้วเป็น ยอด 393,770.7สตางค์ โดยมีการมอบเช็คผ่านทางที่ประชุมของคณะ อนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสาขาจังหวัดขอนแก่น เป็นเรียบร้อยแล้วในวันนี้ หลังจากนี้เราก็จะมีการไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่ไปจำนองอยู่กับสหกรณ์การเกษตรพระยื่น จำนวน 1 แปลง ซึ่งเราก็จะดำเนินการโอนมาไว้ที่กองทุนฟื้นฟูหลังจากนั้นพี่น้องก็จะมาผ่อนชำระคืนตามหลักเกณฑ์ให้เรียบร้อย ซึ่งหลังจากส่งครบแล้วเราก็จะโอนที่ดินแปลงดังกล่าวนี้คืนให้กับเกษตรกรเพื่อรักษาที่ดินทำกินไปให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ทำกินต่อไประยะระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ 20 ปี ตกปีละ 19,000 บาทโดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ย


  นางพรธิภา นันวัด

ด้าน นางพรธิภา นันวัด บ้านหนองจิก ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น  อายุ 50 ปี อาชีพ ทำนา กล่าวว่า  วันนี้ต้องขอขอบคุณ สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาเป็นสมาชิกกองทุนประมาณ 5 ปี เป็นหนี้ สหกรณ์การเกษตรพระยืน มา 10 กว่าปี โดยเอาไปจำไว้ 3 แสนกว่าบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 12 บาทต่อปี จึงไปยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือกับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดขอนแก่น และได้รับการช่วยเหลือในวันนี้   โดยเข้ามาช่วยเหลือในการซื้อหนี้และจะนำที่ดินมาโอนต่อไป หลังจากนี้จะไม่ก่อหนี้เพิ่มอีกแล้ว

   

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads