“อ.ชนบท จ.ขอนแก่น” ขับเคลื่อนจัดการน้ำเสียสีย้อมไหม ยกระดับผ้าไหมมัดหมี่สู่ความยั่งยืน




อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเทศบาลตำบลชนบทและหน่วยงานพันธมิตร จัดเวทีใหญ่หารือปัญหาน้ำเสียจากสีย้อมไหม พร้อมวางแนวทางบำบัดตั้งแต่ระดับครัวเรือนสู่ระบบรวม หวังยกระดับสิ่งแวดล้อม–ทรัพยากรน้ำ และต่อยอดผ้าไหมชนบทเป็นแหล่งเรียนรู้ระดับจังหวัด
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมจี้เพชร ชั้น 2 สำนักงานเทศบาลตำบลชนบท อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น นายปิยะพงษ์ คลังทอง นายอำเภอชนบท เป็นประธานเปิดโครงการ “จัดการน้ำเสียจากสารเคมีสีย้อมไหมของผู้ประกอบการ” และแถลงนโยบายการจัดการสีย้อมไหมระดับอำเภอ โดยมี นายชัชวาล ตั้งวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลชนบท พร้อมด้วย นางอมรรัตน์ จันทร์เล็กสาธารณสุขอำเภอชนบท นายสุชาติ พรมดี นายก อบต. ศรีบุญเรือง นายอดิศักดิ์ สุวรรณศักดิ์ นายกอบต.ห้วยแก นางลัดดาแก้วสุพรรณนายกอบต. บ้านแท่น นางกาญจนา ดงเจริญปลัด อบต.สีชมพู นางเบญญาภา โสเเขียว ปลัดอบต.บ้านแท่น นายมนตรี ยะราไส นักวิชาการสิ่งแวดล้อม ชำนาญการ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 10 ขอนแก่น นายพีร์ สว่างปัญญา รองนายกฯ นางสาวณัฎฐ์ พวงชน รองนายกฯ นางวงเดือน ชูเนตร เลขานุการฯนางสาวรัชนี วรุณศรี ที่ปรึกษานายก นายถวิลหอมตราประธานสภาฯ นายอภิวัฒน์ ฤทธิลี ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานสาธารณสุข และผู้ประกอบการยัอมไหมในชุมชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง
ภายในงานมีการเสวนาในหัวข้อ “เส้นทางไหม สู่ความยั่งยืน: แนวทางจัดการน้ำเสียสารเคมีจากการย้อมไหมในระดับครัวเรือนและชุมชน” พร้อมนำเสนอข้อมูลปัญหา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อร่วมกันลดผลกระทบต่อแหล่งน้ำสำคัญ ได้แก่ หนองกองแก้ว และ แก่งละว้า ปัญหาน้ำเสียจากการย้อมไหมเรื้อรังกว่า 20 ปี
นายชัชวาล ตั้งวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลชนบท เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำเสียจากสีย้อมไหมเป็นปัญหาหลักในพื้นที่มานานกว่า 10–20 ปี ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำสาธารณะและชุมชนโดยตรง แหล่งน้ำหนองกองแก้วและแก่งละว้าได้รับผลกระทบโดยตรง สีและสารเคมีจากกระบวนการย้อมไหมถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและบำบัดอย่างเร่งด่วน แนวทางแก้ไขระยะสั้นคือบำบัดที่ต้นทางระดับครัวเรือน เทศบาลชี้ว่า การควบคุมและบำบัดน้ำเสียจากผู้ประกอบการรายย่อย ตั้งแต่บ้านเรือน เป็นก้าวแรกที่ต้องดำเนินการทันทีเพื่อหยุดยั้งน้ำเสียดิบไม่ให้ไหลลงแหล่งน้ำแนวทางระยะยาว คือระบบบำบัดน้ำเสียรวมของเทศบาล กรมควบคุมมลพิษเคยให้งบศึกษาเมื่อปี 2540 แต่ยังไม่ได้ก่อสร้างจริง
ครั้งนี้มีการหยิบยกขึ้นใหม่เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมภาคส่วนท้องถิ่นและผู้ประกอบการพร้อมร่วมมือแก้ปัญหา ผู้นำท้องถิ่นหลายแห่ง เช่น อบต.ศรีบุญเรือง อบต.ห้วยแก อบต.บ้านแท่น รวมถึงฝ่ายสาธารณสุข และสำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ ร่วมระดมความคิดเห็นและสนับสนุนเต็มที่ ตั้งเป้าพัฒนาผ้าไหมชนบทสู่แหล่งเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมชุมชนมีความโดดเด่นด้านผ้าไหมมัดหมี่ระดับโลก หากสามารถจัดการน้ำเสียได้อย่างยั่งยืน จะต่อยอดสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ และเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชนในอนาคต
ด้านนายปิยะพงษ์ คลังทอง นายอำเภอชนบท กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ ก่อนอื่น ก็ อยากเชิญชวนทุกท่านได้ปรบมือให้เทศบาลตำบลชนบท พร้อมภาคีเครือข่าย เพราะว่าจำได้ว่าปีที่แล้ว ก็มีกิจกรรมที่จัดบริเวณก้างหนองกองแก้ว ซึ่งในการจัดครั้งนั้น ก็ได้ต่อยอดมาเรื่อย ๆ มีการนำเพื่อนกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องมาเรื่อย ๆ อย่างที่ท่านนายกเทศมนตรี ได้กราบเรียนไปเมื่อสักครู่ ก็ กราบเรียนว่าเรื่องของ การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำคัญอย่างยิ่งเลย เพราะว่ามันเป็นต้นทุน ให้กับพี่น้องประชาชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
โดยเฉพาะอำเภอชนบทของเรามีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมากมาย เป็นต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ ลำน้ำชี หนองกองแก้ว ลำห้วยต่าง ๆ เป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ เป็นพื้นที่รับน้ำ อย่างเยี่ยมเลย ขณะเดียวกัน เราก็มีงานฝีมือ หรือจะเรียกแบบพี่น้องชาวบ้านเรา ก็คือเป็นงานหัตถกรรม ที่เป็นศูนย์กลางของผ้าไหมมัดหมี่ ที่ขึ้นชื่อระดับโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ขึ้นชื่อระดับโลก อยู่ที่นี่ อยู่ที่อำเภอชนบท นอกจากนี้ยังมีภูมิปัญญาที่สืบทอดมามากมาย หลายอย่าง เรามีแหล่งวนอุทยานแห่งชาติ นะครับ ภูคัน ภูระงำ 6,000 ไร่ และที่สำคัญครับ เรามีปราชญ์ชาวบ้าน มีกลุ่มอาชีพที่เข้มแข็ง อย่างเช่นทุกท่าน
เมื่อสักครู่ได้ถามข้อมูลจากท่านนายกฯ ว่าพี่น้องที่มา ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีอุปการ ในการส่งเสริมสนับสนุน ในเรื่องของหัตถกรรมหรือผ้าไหมมัดหมี่ ของพวกเรานั้น เรามีความโดดเด่น อย่างที่เรียนไปแล้ว แต่ก็ปัญหาอุปสรรค ก็มีบ้าง โดยเฉพาะในกระบวนการมัดย้อม หรือการทำผ้าไหม เนี่ย บางที ก็มีสารเคมี อันนี้เราต้องยอมรับกันตรง ๆ อยู่บ้าง ทั้งนี้ตนได้ข้อมูลจากท่านนายกกับภาคีเครือข่าย แล้วว่าเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเรื่องของสารปนเปื้อนเหล่านี้ โดยเฉพาะทางเทศบาลตำบลชนบท ได้ดำเนินการมาโดยตลอด ในการที่จะหาวิธีการบำบัด หรือบริหารจัดการในส่วนที่เกิดขึ้น อย่างต่อเนื่องเลย
เมื่อสักครู่ได้ชื่นใจมาก ๆ ที่ท่านนายกชัชวาลให้ข้อมูล อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าเป็นข้อมูลข้อเท็จจริง มันบอกว่าการบริหารจัดการ หรือการแก้ไขปัญหา เรื่องสีย้อม เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 40 รวม ๆ แล้ว เกิดเกือบ 30 ปี คือเห็นถึงความมุ่งมั่นในการที่จะแก้ไขปัญหาเพราะฉะนั้น ในภาพรวมของอำเภอ ในภาพรวมของภาคราชการ เนี่ย มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว เป็นหน้าที่ที่จะ จัดเวที จัดระดมความคิด ความเห็น ในการที่จะ เอ่อ บริหารจัดการ แก้ไขปัญหาต้นทาง อย่างที่พวกเราจะได้ร่วมในกิจกรรมในวันนี้
“ในนามของนายอำเภอชลบท ในนามของภาคีเครือข่าย ก็ยืนยันว่าจะสนับสนุนกิจกรรมนี้ ตลอดไป แล้วก็ จะเชิญชวนให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน และก็ภาคีเครือข่ายที่อยู่ในอำเภอ ร่วมสนับสนุนกิจกรรมนี้อย่างเต็มที่”นายปิยะพงษ์ กล่าว .












