ธันวาคม 13, 2025

Breaking News

สปสช.หนุนตรวจ “พยาธิใบไม้ตับ” เชิงรุก เจอเร็วรักษาหาย ลดเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี

สปสช.หนุนตรวจ “พยาธิใบไม้ตับ” เชิงรุก เจอเร็วรักษาหาย ลดเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี

อนุกรรมการฯ รับทราบผลดำเนินงานปี 2568 ตรวจแล้วกว่า 1.4 แสนราย เดินหน้าทำโมเดลนำร่อง 4 เขต ผนึก มข. – สวรส. เพิ่มการเข้าถึงบริการฟรี
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เดินหน้าขับเคลื่อนการตรวจคัดกรอง “พยาธิใบไม้ตับ” เชิงรุก เพื่อป้องกันโรคมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังผลดำเนินงานปีงบประมาณ 2568 พบมีประชาชนเข้ารับการตรวจด้วยชุดตรวจปัสสาวะ OV-ATK KIT แล้วกว่า 140,000 ราย
ในการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบและกำกับติดตามการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ครั้งที่ 5/2568 ซึ่งมี ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา เป็นประธาน ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานบริการตรวจคัดกรองการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และตระหนักถึงความสำคัญของโรคดังกล่าวซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของ “มะเร็งท่อน้ำดี”
ข้อมูลระหว่างปี 2551–2565 พบอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งท่อน้ำดีสูงถึง 13–35 ต่อแสนประชากร โดยกระจุกตัวในพื้นที่ภาคอีสาน ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 1, 7, 8, 9 และ 10 ส่งผลให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เห็นชอบบรรจุการตรวจ OV-ATK KIT เป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม สำหรับประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีความเสี่ยง เช่น เคยรับประทานปลาน้ำจืดดิบ เคยติดเชื้อ หรือเคยรักษาพยาธิใบไม้ตับมาก่อน สามารถเข้ารับบริการได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ดร.ทพญ.น้ำเพชร ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนบริการปฐมภูมิและการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค สปสช. เปิดเผยว่า ปี 2568 เป็นปีแรกของการให้บริการตรวจ OV-ATK KIT มีหน่วยบริการเข้าร่วมแล้ว 316 แห่งทั่วประเทศ พบผลตรวจเป็นบวกถึง ร้อยละ 29.27 แต่มีผู้มารับยาถ่ายพยาธิเพียง ร้อยละ 23.29 ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ต้องเร่งติดตามและเพิ่มการสื่อสารให้ประชาชนเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
โรคพยาธิใบไม้ตับสามารถ ป้องกัน ตรวจพบง่าย และรักษาหายได้ หากพบเชื้อจะได้รับยาถ่ายพยาธิ Praziquantel ทันที โดยประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับบริการตรวจได้ที่ร้านยาคุณภาพ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น และคลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่นใกล้บ้าน
ด้าน นายวีระศักดิ์ ชนะมาร ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 7 ขอนแก่น กล่าวว่า เขต 7 ได้นำรูปแบบบริการเชิงรุก “One Stop Service” มาใช้ ตั้งแต่การตรวจ เก็บตัวอย่าง ส่งตรวจ และจ่ายยาได้ภายในวันเดียว ช่วยเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ แม้ยังมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนชุดตรวจและต้นทุนที่สูงในบางพื้นที่
จากข้อเสนอและข้อมูลในที่ประชุม อนุกรรมการฯ จึงเห็นชอบจัดทำ โมเดลนำร่อง ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7, 8, 9 และ 10 ร่วมกับ สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เพื่อพัฒนาระบบบริการให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจคัดกรองได้ง่ายขึ้น พร้อมเดินหน้ารณรงค์ลดพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาน้ำจืดดิบ และการตรวจซ้ำอย่างสม่ำเสมอในกลุ่มเสี่ยง.

About The Author

Related posts

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *