“ศาลยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น”จัดกิจกรรมวันสถาปนาศาลยุติธรรม ประจำปี 2568 ครบรอบ 143 ปี
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชประสงค์แห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงก่อให้เกิดศาลสถิตย์ยุติธรรมขึ้น จึงถือเอาวันที่ 21 เมษายนของทุกปีเป็น “ วันศาลยุติธรรม” ศาลจึงเป็นสถาบันที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรมให้แก่ประชาชนสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ที่ ห้องประชุมชั้น 1 อาคารศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น นายสุรินทร์ ชลพัฒนา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 4 เป็นประธานในพิธีสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหาร และเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 9 รูป เนื่องในวันสถาปนาศาลยุติธรรม ประจำปี 2568 ครบรอบ 143 ปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ที่ทรงมีคุณูปการต่อวงการศาลยุติธรรม จึงถือเอาวันที่ 21 เมษายนของทุกปีเป็น “ วันศาลยุติธรรม”
โดยมีนายไพรัช โตสวัสดิ์ อธิบดีศาลปกครองขอนแก่น,นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น,พลตรี กิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23, หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หน่วยงานภาครัฐ คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดขอนแก่น คณะผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น, ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น คณะผู้ประนีประนอมประจำศาลจังหวัดขอนแก่น บุคลากรศาลจังหวัดขอนแก่น และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเล็งเห็นถึงข้อขัดข้องต่าง ๆ ซึ่งเป็นเหตุในการพิจารณาพิพากษาคดีล่าช้าไม่เป็นธรรมแก่ราษฎร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิรูประบบกฎหมายและการศาลขึ้น โดยได้รวบรวมศาลที่กระจัดกระจายอยู่ตามกระทรวง กรมต่าง ๆ ให้มารวมอยู่ ณ ที่แห่งเดียวกัน เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีดำเนินไปด้วยความยุติธรรม ถูกต้อง รวดเร็ว ราษฎรไม่ได้รับความเดือดร้อน และในโอกาสที่กรุงเทพมหานครมีอายุครบ 100 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2425 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงวางศิลาก่อพระฤกษ์อาคารศาลสถิตย์ยุติธรรม
และโปรดเกล้าฯ ให้จารึกพระราชปรารภในการจัดตั้งศาลสถิตย์ยุติธรรมไว้ในแผ่นเงิน เรียกว่า “หิรัญบัตร” มีขนาดความกว้าง 9.5 ซม. ยาว 37.2 ซม. จำนวน 4 แผ่น บนแผ่นหิรัญบัตรจารึกด้วยอักษรไทยที่ประณีตบรรจงและทรงคุณค่าอย่างสูงยิ่ง ด้วยแสดงถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะดำรงความยุติธรรมด้วยอำนาจตุลาการให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราษฎร แสดงให้เห็นถึงพระบรมราโชบายในการปกครองแผ่นดินและทรงเล็งเห็นว่าบ้านเมืองจะสงบสุขร่มเย็นได้ก็ด้วยอำนาจตุลาการเป็นสำคัญ.
