“สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด”จัดประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาสหกรณ์
นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนและมวลสมาชิก ต่อกรณีเงินรอเรียกคืนเงินปันผล – เฉลี่ยคืนปี 2562 มูลเหตุเกิดจากการยักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ 431 ล้านบาทเศษ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาสหกรณ์ ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โดยมี นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด นายเวฬุวัน จันทศิลป์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมชี้แจง ในการนี้มี คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ตลอด ผู้ตรวจบัญชี ผู้แทนสมาชิกกว่า 500 คน ร่วมรับฟัง
นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้แถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนและมวลสมาชิก ต่อกรณีเงินรอเรียกคืนเงินปันผล – เฉลี่ยคืนปี 2562 มูลเหตุเกิดจากการยักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ 431 ล้านบาทเศษ ใจความว่า
เรียน สื่อมวลชนและมวลสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ทุกท่าน
ตามที่นายทะเบียนสหกรณ์ได้มีคำสั่งที่ (ขก) 61/2568 เรื่อง ให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด แก้ไขข้อบกพร่อง ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 โดยให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ดำเนินการแก้ไขปัญหา เงินรอเรียกคืนเงินปันผล – เฉลี่ยคืน ปี 2562ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับแต่ได้รับแจ้งคำสั่ง( ภายใน 30 กันยายน 2568 )ขอเเถลงข้อมูลข้อเท็จจริงดังดังนี้
ตามที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ดำเนินการจัดทำแผนให้สมาชิกชำระเงินรอเรียกคืนเงินปันผล – เฉลี่ยคืน ปีบัญชี 2562 โดยกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี (1 มกราคม 2566 ถึง 31ธันวาคม 2570 )และแผนการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ มูลเท็จเรื่องนี้เกิดมาจากคณะกรรมการดำเนินการได้ตรวจพบว่านายเอกราช ช่างเหลา กับพวก ได้ยักยอกทรัพย์เงินในบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
สาขาถนนดินแดง เลขที่บัญชี 144-101918-9 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 จำนวน 431,862,070 บาท ทราบข้อเท็จจริงเมื่อ ปี 2562 ตามระเบียบนายทะเบียนต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนในปีที่ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นคือ ปีบัญชี 2562 จากเหตุดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงของสหกรณ์และสมาชิกในปี 2562 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดได้กำไรสุทธิจำนวน 1,126,271,660.15 บาท หากสหกรณ์ฯตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนตามระเบียบฯ 431,862,070 บาท จะเหลือกำไรสุทธิ จำนวน
694,409,589.72 บาท คงจะได้ปันผลน้อยกว่าทุกปี
ที่ผ่านมา จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรง ความวุ่นวายโกลาหลกับสหกรณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความผิดของสมาชิก ส่งผลต่อความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ของมวลสมาชิกและเจ้าหนี้ของสหกรณ์ เพื่อแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นดังกล่าวคณะกรรมการดำเนินการ จึงวางแผนดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้1.ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดจนกระทั้งศาลมีคำพิพากษาแล้วเป็นที่ประจักษ์ 2.แจ้งให้นายเอกราช ช่างเหลากับพวกมารับสภาพหนี้ หาหลักทรัพย์มาค้ำประกัน นายเอกราช ช่างเหลา มารับสภาพหนี้เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 จะคืนเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2563โดยมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันเป็นที่ดินราคาประเมินของเอกชน จำนวน 169,710,750 บาท ซึ่งไม่ครอบคลุมเงินที่ยักยอกทรัพย์ ไปจำนวน 431,862,070 บาท ขาดไปจำนวน 262,151,320.43 บาท สหกรณ์ต้องตั้ง
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 262,151,320.43 บาท ซึ่งก็จะส่งผลกระทบในการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สมาชิกคงจะไม่พอใจ มีความคับข้องใจ อาจส่งผลกระทบความมั่นคงต่อสหกรณ์
คณะกรรมการจึงได้ดำเนินการทำหนังสือขอผ่อนปรนการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไปยังกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ 3.วันที่ 15 มกราคม 2563 คณะกรรมการดำเนินการทำหนังสือขอผ่อนปรนการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 262,151,320.43 บาท ไปยังกรมตรวจบัญชี 4.วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์รับทราบให้สหกรณ์ตั้งค่าเมื่อหนี้สงสัยจะสูญด้วยความระมัดระวัง 5.วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 คณะกรรมการดำเนินการทำหนังสือแจ้งแผนการขอการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 262,151,320.43 บาท เป็นแผน 4 ปี ต่อกรมบัญชีสหกรณ์ โดยกำหนด แผนการตั้งค่า เมื่อหนี้สงสัยจะสูญ ปีที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ปีที่ 2 จำนวน 50 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 80 ล้านบาท ปีที่ 4 จำนวน 100 ล้านบาทเศษ 6.วันที่ 13กุมภาพันธ์ 2563 ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี อนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิโดยตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามแผนที่เสนอกรมตรวจบัญชี จำนวน 30 ล้านบาท จาก 262,151,320.43 บาท เพื่อมิให้กระทบการปันผลเฉลี่ยคืนของมวลสมาชิกจึงอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิ 1,126,271,660.15 บาท สมาชิกได้รับเงินปันผล ร้อยละ 6 เฉลี่ยคืนร้อยละ 16
จะเห็นว่าทั้งคณะกรรมการดำเนินการและผู้แทนสมาชิกทุกคน มีเป้าหมายที่ตรงกันคือจะต้องไม่ให้มีผลกระทบต่อมวลสมาชิกเรื่องการปันผล ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มิใช่ความผิดของมวลสมาชิก 7.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์รับทราบแผนการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามหนังสือที่สหกรณ์เสนอแผน 4 ปี เมื่อวันที่ 7กุมภาพันธ์ 2563 8.มีกลุ่มสมาชิกกลุ่มหนึ่งร้องเรียนนายทะเบียนว่าสหกรณ์ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญไม่ครอบคลุมเงินที่ถูกยักยอกไป
9.วันที่ 6 มีนาคม 2563 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นได้ส่งสำเนาคำสั่งรองนายทะเบียนที่ (ขก)31/2563 เรื่องให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ระเบียบวาระที่3.2 เรื่องพิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2562 และคำสั่งที่(ขก) 32/2563 เรื่องเพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ด้วยเหตุผลตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในลูกหนี้เงินสดขาดบัญชี(เงินที่ถูกยักยอกไป)ไม่ครอบคลุมทั้งจำนวน 10.วันที่ 12 มีนาคม 2563 คณะกรรมการดำเนินการดำเนินการอุทธรณ์คำสั่งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และในวันที่ 22 เมษายน 2563 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ โดยมีมติยกอุทธรณ์และให้โต้แย้งคำสั่งต่อศาลปกครอง ภายใน 90 วัน ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 คณะกรรมการดำเนินการมีมติฟ้องศาลปกครองคดีหมายเลขดำที่ 136/2563
11.ในระหว่างที่ศาลปกครองยังไม่มีคำพิพากษา คณะกรรมการพิจารณาว่าคณะกรรมการดำเนินงานของสหกรณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยประกอบกับสมาชิกเริ่มมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คณะกรรมการจึงมีมติดำเนินการตามคำสั่งนายทะเบียนกำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อจัดสรรกำไรสุทธิใหม่ 12.วันที่ 26 กันยายน 2563 ได้มีการประชุมใหญ่วิสามัญปี 2563เพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง โดยคณะกรรมการดำเนินการมีมติเสนอการจัดสรรกำไรสุทธิปีบัญชี 2562 ใหม่ ซึ่งตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวน 262,151,320.43 บาทจึงมีกำไรสุทธิ 894,120,339.72 บาท จึงทำให้สมาชิกได้รับเงินปันผล ร้อยละ 5 เฉลี่ยคืน ร้อยละ 12 จึงทำให้มีส่วนต่างเงินปันผลที่ร้อย 1 เฉลี่ยคืน ร้อยละ 4 จึงเป็นที่มาของส่วนต่างเงินปันผล-เฉลี่ยคืนได้รับเงินไปมากกว่าการจัดสรรกำไรสุทธิ ปี 2562 เมื่อมีการจัดสรรกำไรใหม่ครั้งที่ 2 เงิน
ที่จ่ายเกินไปจึงเป็นเงินที่รอเรียกคืนจากสมาชิกสหกรณ์
เรื่องที่เกิดขึ้นในกรณีดังกล่าวผู้แทนสมาชิกและสมาชิกรับทราบดีมาตามลำดับเพราะคณะกรรมการได้ชี้แจงในที่ประชุมใหญ่มาโดยตลอด และอยู่ในระหว่างที่คณะกรรมการดำเนินการแก้ปัญหาซึ่งก็ไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของสหกรณ์แต่ประการใด อยู่ๆนายทะเบียนก็
ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน ทั้งๆที่สหกรณ์ยังดำเนินการไม่ครบตามแผนที่วางไว้คือปี 2570 เพียงมีคนร้องเรียนแค่คนเดียวแต่คนอีกสองหมื่นกว่าคนจะเดือนร้อน ในขณะที่สหกรณ์เคย
ทะเบียนเรื่องการทุจริตเงิน 431 ล้านบาทและการเบิกเงินออกนอกระบบสหกรณ์ไป 200 ล้านบาท
นายทะเบียนกับนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่เรื่องปัญหาเงินรอเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน ซึ่งสมาชิกได้ประโยชน์และมิใช่ความผิดของมวลสมาชิกกับเร่งรัดติดตามอย่างกระชั้นชิดมีเบื้องหลัง แอบแฝงหรือไม่
จึงแถลงการณ์ข้อเท็จจริงให้ทราบโดยทั่วกัน
( นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์)
ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานวาระการประชุม ในวาระอื่นๆสมาชิกขอให้สหกรณ์เปิดบัญชีเงินฝากให้กับสมาชิก โดยให้หักรายเดือนพร้อมกับเงินกู้พร้อมทั้งขอให้สหกรณ์ลดดอกเบี้ยลง 4.75 และ เบี้ยประชุมควรเป็นครั้งละ 1,000 บาท.