“สิริพงศ์ “เปิดการประชุมสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 3
มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ร่วมกับ
สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) และมหาวิทยาลัยในเครือฯ ร่วมการประชุมสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 3 ภายใต้หัวข้อ “Ai จะพลิกโฉมอนาคตการศึกษาไทยไปในทิศทางใด:ถอดบทเรียนการเรียนรู้ การปรับตัวเพื่อสร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ โรงแรม Avani Khon Kaen Hotel & Convention Centre เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานการประชุมสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 3 โดยมี ดร.กมล รอดคล้าย ประธานกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยเเละนวัตกรรม วุฒิสภา,รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสภาการศึกษา ,รศ.ดร.ชวลิต ชูกำแพง คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ,รศ.ดร.สฎายุ ธีระวณิชตระกูล คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, ดร. ศักดิ์ดาเดช ทาซ้าย ตัวแทนสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.),ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ,นายวิศรุต ปู่เพ็ง ที่ปรึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนมหาวิทยาลัยเครือข่ายทางวิชาการ อาทิพระมหาศุภชัย สุภกิจฺโจ รศ.ดร.ผู้อำนวยการวิทยาลัยศาสนศาสตร์ มมร.อส,ดร.สายัณห์ ผาน้อย รองอธิการบดี ฝ่ายบริหารและกิจการพิเศษ วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย,ดร.วิรัช เจริญเชื้อ เป็นต้น,ผู้บริหารสถานศึกษา อาทิ ดร.อารยันต์ แสงนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1ครู และบุคลากรทางการศึกษา นักวิชาการ นักศึกษาและบุคคลทั่วไป จำนวน 850 คน ร่วมงาน
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าการประชุมสัมมนาวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 3 ในวันนี้นั้น ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นได้สนับสนุนทำการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนและพัฒนาประเทศรวมทั้งการสนับสนุนการนำเสนอผลงานวิชาการตลอดจนการเผยแพร่ผลงานวิจัยสร้างสรรค์ ระดับชาติ และระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง การจัดเวทีวิชาการเพื่อให้บุคลากรได้มีโอกาสนำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์และนวัตกรรมต่างๆให้ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณาจารย์ และนักศึกษาได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานที่หลากหลายนับเป็นวิธีหนึ่ง ที่ทำให้เกิดบรรยากาศ ทางวิชาการและเป็นการส่งเสริมพร้อมทั้งสนับสนุนให้คณาจารย์นักศึกษา และบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้ตระหนักถึงความสำคัญของผลงานวิชาการ
นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่าโดยในวันนี้นั้นเป็นการประชุมวิชาการในเรื่องของ AI เมื่อ AI เข้ามาจะพลิกโฉมการศึกษาไทยอย่างไร ซึ่งเชื่อว่า AI เป็นเรื่องที่ทุกคนตระหนักกันอยู่ดี การเกิดของ AI ทำให้มีโอกาส ความท้าทาย และความกังวล โอกาสซึ่งเราทราบดีว่า AI จะทำให้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับการศึกษาไทย และมีความท้าทายว่าเราจะใช้อย่างไร สุดท้ายมีความกังวลว่าจะทำกันแบบไหน สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ มีความห่วงใย และเห็นความสำคัญ
นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ตอนนี้เราทำหลักสูตร AI ไปแล้วซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวานนี้ โดยกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับ สสวท. ได้พัฒนาหลักสูตรร่วมกัน ซึ่งปีนี้จะนำร่องบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนประมาณ 4,000 ถึง 5,000 คน ซึ่งจะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ อย่างไรก็ดีในการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเดินตามระบบงบประมาณที่ได้จัดสรรมาในแต่ละปี ซึ่งบางปีอาจจะกระท่อนกระแท่น หรืออาจมีปัญหาในเรื่องของงบประมาณที่ค่อนข้างจะยาก แต่กิจกรรมในวันนี้ก็จะเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะทำให้ในการขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว ก็จะเป็นกระบวนการที่มีการพูดคุย นำเสนอหัวข้อที่เป็นประเด็น ที่น่าสนใจ และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สู่การปฏิบัติได้จริง
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยา พุคยาภรณ์
รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบพระคุณท่าน เป็นอย่างยิ่งที่ได้กรุณามาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการ ภายใต้หัวข้อ “Ai จะพลิกโฉมอนาคตการศึกษาไทย
ไปในทิศทางใด: ถอดบทเรียนการเรียนรู้ การปรับตัวเพื่อสร้างสังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต”ในวันนี้ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ร่วมกับ สมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) และมหาวิทยาลัยในเครือข่าย ความร่วมมือทางวิชาการ จัดการประชุมวิชาการระดับชาติ และนานาชาติ ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา นักวิชาการ นักศึกษาและ
บุคคลทั่วไป เป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์วิจัยอีกทั้ง เป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานวิจัย ผลงานสร้างสรรค์สู่สาธารณชน เกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัย ด้านวิชาการที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ซึ่งไปสู่การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
“สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการ นักศึกษากลุ่มสาขาวิชามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ กลุ่มวิชาบริหารธุรกิจและเศรษศาสตร์ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มวิชานิติศาสตร์ รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ตลอดจน ผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งสิ้น 850 คน โดยจำแนกเป็นบทความวิชาการ และบทความวิจัย 223 เรื่อง”ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จรรยา กล่าว.
