สช.สานพลังภาคีเครือข่ายสมัชชา จังหวัด 4 ภาค
ร่วมออกแบบสร้างมาตรการจัดการโรคไม่ติดต่อ NCDs
สช.เปิดเวทีสานพลังภาคีเครือข่ายสมัชชาจังหวัด 4 ภาค 8 จังหวัด ร่วมออกแบบสร้างมาตรการจัดการโรคไม่ติดต่อ NCDs ยึดหลักการลดโรค NCDs 3 หลักคือ ใช้เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ใช้ด้านการคลังเป็นแรงจูงใจ และใช้มาตรการสังคม
เมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมจัดประชุมออกแบบการสร้างมาตรการจังหวัดในการจัดการโรคไม่ติดต่อ (NCDs Eco System) ณ ห้องแคนนา โรงแรมรามาการ์เด้น หลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือสมัชชาจังหวัด อปท. (อบจ. อบต. เทศบาล) สสจ. และหน่วยงานในระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง แบ่งเป็น 4 ภาค 8 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ (จังหวัดน่าน จังหวัดชัยนาท) ภาคกลาง (จังหวัดตราด จังหวัดกาญจนบุรี) ภาคอีสาน(จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดหนองบัวลำภู) ภาคใต้(จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดยะลา) การประชุมครั้งนี้เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค NCDs ระดับจังหวัด
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานคณะกรรมการพัฒนานโยบายสาธารณะฯ ให้ข้อมูลว่า คนไทย 80 เปอร์เซ็นต์ เสียชีวิตด้วยโรค NCDs มาจากปัจจัยเสี่ยงหลัก คือ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม และสภาวะมลพิษทางอากาศ เราจึงจำเป็นต้องมีหลักการที่จะสร้างการลดโรค NCDs คือ ใช้เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ใช้ด้านการคลังเป็นแรงจูงใจ และใช้มาตรการสังคม นี่คือหลักใหญ่ๆที่จะใช้ในการทำงานเรื่องนี้ ซึ่งประเทศไทยยังมีช่องว่าง จุดอ่อน และความท้าทายของการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติและดำเนินการเชิงพื้นที่
นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การที่เราจะทำเรื่องการลดโรคไม่ติดต่อ ต้องมีการทำ Eco System ที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี อาหารที่มีคุณภาพที่ดี ไม่หวานมันเค็มจนเกินไป และภาคส่วนที่สำคัญในการทำเรื่องนี้คือภาคส่วนประชาสังคม ซึ่งสมัชชาสุขภาพจังหวัดคือกลไกที่จะดึงภาคประชาสังคมมาทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อที่จะร่วมปรับเปลี่ยนขับเคลื่อนงานโรคไม่ติดต่อของประเทศไทย
ด้าน ดร.ทพญ.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ กรมอนามัย และประธานคณะทำงานวิชาการสมัชชาเฉพาะฯ กล่าวว่า การที่จะทำให้ Eco System เกิดขึ้นได้ ต้องทำกลไก 5 เรื่องคือ 1.มีการพัฒนาเครื่องมือนโยบายสาธารณะ 2.มีการออกแบบ พัฒนานวัตกรรม โมเดล และขยายผลเชิงระบบ 3.สนับสนุนการเฝ้าระวัง การปฏิบัติตามกฎหมาย และความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อ 4.พัฒนาระบบกำกับ ติดตามและประเมินผลลัพธ์ 5.การพัฒนาระบบตัดสินใจ บริหาร และสนับสนุนการลงทุน
นพ.สุเทพ เพชรมาก เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ในภาคส่วนนโยบาย สช.และองค์กรภาคี เราจะทำเป้าหมายยุทธศาสตร์ร่วมด้านสุขภาพ คือการดูว่าประเทศไทยจังหวัดไหนพื้นที่ไหนมีอายุยืนยาวมากน้อยแค่ไหน และสาเหตุจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรคืออะไร หรือเกิดจากการเป็นโรคอะไร ปัจจัยเสี่ยงของโรคคืออะไร ซึ่ง สช.มีการจัดทำข้อมูลที่เป็นข้อมูลทรัพยากรทางสังคมและสุขภาพเพื่อเสริมศักยภาพพื้นที่ ทุกท่านสามารถเข้าใช้ข้อมูลนี้ได้ https://bit.ly/3WNTRdF
ทั้งนี้ 8 จังหวัดที่ร่วมประชุมจะมีการแลกเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบข้ามภาค ทั้งส่วนของต้นทุน กลไก และการสนับสนุนจากส่วนกลาง หน่วยงานกลางและทีมวิชาการกลางที่พร้อมสนับสนุนในพื้นที่ รวมถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการวางจังหวะก้าวต่อเพื่อเตรียมสร้างมาตรการจังหวัดใน 8 พื้นที่ต้นแบบโดยมีเป้าหมายสำคัญคือการผลักดันให้เป็นนโยบายสำคัญของจังหวัดต่อไป.