ชาวบ้านหนองหลุบ ขอนแก่น สุดทน รถขนดินทำถนนพังยับ
สืบเนื่อง เพื่อถมที่ทำหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ผู้รับเหมาขนดิน ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกดิน ถมที่ รองรับการก่อสร้าง วิ่งผ่านถนนสายหลัก 3 หมู่บ้าน ของบ้านหนองหลุบ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ชาวบ้านครวญออกไปขายสินค้าไม่ได้ ซ้ำคนซื้อเข้ามายาก หายจ่อย ลูกหลานลำบาก ไปโรงเรียน ต้องตัดผ่านท้องที่นา เหตุถนนเสียหายสิ้นเชิง เคยร้องแล้วหลายหน่วยงาน ไม่คีบหน้า วอนพ่อเมืองขอนแก่น สั่งการด่วน!ห้ามรถบรรทุกดินผ่านและซ่อมแซมถนนใหม่ จนชาวบ้านรวมตัวกันเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านหนองหลุบ เปลี่ยนมาเป็นหมู่บ้านหนองหลุมแทนและตอนนี้ขอมีวิถีชีวิตแบบดั่งเดิม
เมื่อเวลา 11.09 น.วันนี้ 3 ก.ย. ที่ ถนนสายป่าเขียว หมู่ 8 บ.หนองหลุบ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสนั่น สังฆพันธ์ ส.อบต.แดงใหญ่ พร้อมนางสุมล สังฆพันธ์ นายวุฒิชัย สังฆพันธิ์ และชาวบ้าน ม.8 ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่า 30 คน นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ถนนลูกรัง เส้นทาง สายป่าเขียว ผ่านหมู่ 4 หมู่ 7 หมู่8 และสำนักสงฆ์มะลิวัลย์ ที่มีสภาพไม่ต่างจากทางความเดิน เป็นคลื่น ขรุขระ สภาพเสียหายสิ้นเชิง ชาวบ้าน 50 ถึง 60 ครอบครัวสัญจรไปมาลำบาก เมื่อเข้าฤดูฝน เด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียนลำบาก พ่อค้าแม่ค้ำยิ่งซ้ำแล้วหนัก ค้าขายสินค้าลำบาก เพราะพ่อค้าไม่มาซื้อของเพราะรถเข้าถึงยาก จากการที่ มีรถบรรทุกดินขนาดใหญ่ของผู้รับเหมถมที่ดิน ผ่าน วันละเป็น 100 เที่ยว เพื่อถมดินทำหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่แห่งใหม่ ติดเส้นทางดังกล่าว
นายสนั่น สังฆพันธ์ ส.อบต.แดงใหญ่ กล่าวว่ามีชาวบ้านในหมู่บ้าน จำนวนมาก นำเรื่องความยากลำบากในการสัญจรไปมาบนถนนเส้นนี้ สาเหตุเพราะรถบรรทุกดินขนาดใหญ่วิ่งผ่านอยู่เป็นประจำ มาร้องเรียน ตนเคยนำเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านในเรื่องถนนหนทาง ที่มีความเสียหายอย่างสิ้นเชิง เสนอต่อ นายก อบต.แดงใหญ่ เพื่อให้มีการดำเนินการซ่อมแซมถนนหนทางและห้ามให้มีการนำรถรถบรรทุกดิน วิ่งผ่านถนนสายนี้ ตั้งแต่เดือนเม.ย.60 ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีการสั่งการลงมาแต่อย่างใด
อีกอย่างชาวบ้านไม่อยากจะออกเส้นทางสายถนนใหญ่ เพราะเส้นทางนี้สามารถเชื่อมออกถนนบายพาสเลี่ยงเมืองได้ ที่มีความปลอดภัยมากกว่าที่เทียววิ่งตามถนนใหญ่ แถมในหน้าแล้ง ฝนไม่ตก ฝุ่นตลบ กับมีรถบรรทุกน้ำที่ข้างรถเขียนว่า รถบรรทุกน้ำดับเพลิงของ อบต.แดงใหญ่ มาฉีดน้ำเพื่อไม่ให้ฝุ่นคลุ้ง แทนที่จะเป็นรถของเอกชนที่รับเหมาถมที่ ถึงจะถูก ที่สำคัญเพิ่งจะมีการวางมัดจำในการซ่อมแซมถนนที่พัง ของผู้รับเหมาจำนวน 100,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับถนนที่พังแล้วมันไม่คุ้ม และก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะถมที่เสร็จ แล้วทำถนนใหม่ให้
ด้านนางสุมล สังฆพันธ์ อายุ 56 ปี อาชีพค้าขาย กล่าวว่าตนเป็นชาวบ้านหนองหลุบมาตั้งแต่กำเนิด มีลูกชายและลูกสาวอยู่ในวัยเรียนทั้งคู่ ขณะนี้เวลาไปโรงเรียนต้องเดินลัดทุ่งนาไปโรงเรียนแทน เพราะเส้นทางสัญจรไปมาไม่ได้ถนนลื่น และเป็นหลุมดินโคลนเปียกเปื้อน อีกอย่างตนมีอาชีพเป็นเกษตรกร ปลูกไม้ผล แต่ก็ขายผลผลิตไม่ได้ด้วยเหตุพ่อค้าคนกลางไม่สามารถนำรถกระบะ เข้ามาบรรทุกสินค้าออกไปขายส่งต่อได้ และที่สำคัญเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยต้องไปหาหมอก็ต้องเดินลัดทุ่งนาไปหาหมอก็ยังลำบาก เพราะถนนมันลื่นสัญจรไม่ได้ ตนเคยไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดขอนแก่นและ มทบ. 23 ให้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหา จนป่านนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าใดๆ ตนเพียงอยากได้วิถีชีวิตแบบดั่งเดิมกลับคืนมาก็เท่านั้น ตนอยากจะถามว่าคนจนมีสิทธิ์ไหมในการใช้ถนนร่วมกันสัญจรไปมาในสภาพที่ปกติ
ดาบตำรวจวุฒิชัย สังฆพันธ์ อายุ 52 อาชีพรับราชการตำรวจ บ้านเลขที่ 162 ม.8 ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่าจากการผู้รับเหมาถมดินถนนป่าเขียวการเกษตร ม.8 ต.แดงใหญ่ นำรถบรรทุกวิ่งผ่านถนนสาธารณะได้นำความเสียหายกับเส้นทางดังกล่าว โดยทำให้ถนนชำรุดทรุดโทรมเป็นหลุมเป็นบ่อ และเมื่อมีฝนตกลงมาทำให้รถที่วิ่งผ่านไป-มา ติดหล่ม เนื่องจากดินเหนียวที่ผู้รับเหมาบรรทุกมา ทำให้ประชาชนในพื้นที่และผู้ใช้เส้นทางสัญจรได้รับความเดือดร้อน
ตนอยากจะถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าช่วงนี้จะแก้ไขการกระทำของผู้รับเหมาอย่างไร เพื่อให้ความเดือดร้อนของประชาชนที่สัญจรไปมาเส้นทางสายนี้ ได้รับผลกระทบจากการกระทำให้น้อยที่สุด ท้ายสุดตนขอร้องเรียนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแลและแก้ไขโดยด่วน เพราะชาวบ้านรวมตัวกันเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านหนองหลุบ เปลี่ยนมาเป็นหมู่บ้านหนองหลุมแทนและตอนนี้.
