
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 พ.ย.2560 ที่ศาลาพุทธมณฑลอีสาน ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีมอบสิ่งของถุงยังชีพพระราชทาน มามอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 4 ตำบล ของอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจำนวน 2,100 ครอบครัว โดยมี ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ต.พรหมณัฐฏเขต ฮามอำไพ ผบก.ภว.จ.ขอนแก่น พ.อ.สมบูรณ์ ณ หนองคาย เสนาธิการ มทบ.23 นายอภิชัย จำปานิล รรท.หน.ปภ. จ.ขอนแก่น นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นอภ.เมืองขอนแก่น ดร.ยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ นายกเทศมนตรีเมืองศิลาเมืองศิลา และหน.ส่วนราชการร่วมมอบ
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร
พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร เลขาธิการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน ที่ได้รับความทุกข์ยาก เดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้าและมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้แก่ทุกท่านในวันนี้ เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจในการต่อสู่ฝ่าฟัน ให้พ้นวิกฤตภัยพิบัติในครั้งนี้ได้ด้วยดี ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์นั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิขึ้น ในวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕0๖ จากเหตุการณ์มหาวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. ๒๕0๕ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ในเบื้องต้น ส่วนการช่วยเหลือแบบยั่งยืนนั้น เป็นหน้าที่ของส่วนราชการตามกฎหมาย มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ได้ยึดถือพระราชดำริ มาปฏิบัติเป็นเวลากว่า ๕๔ ปีแล้ว พวกเราโชคดี ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยตรง ดังนั้นสิ่งที่พวกเราควรพร้อมใจกันทำถวายพระองค์ได้ก็คือ การเป็นคนดี คิดดี ทำดี เป็นประชาชนที่ดีของประเทศต่อไป
ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล
ด้านดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลเมืองศิลา และราษฎรผู้ประสบอุทกภัย และนำสิ่งของพระราชทาน ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ มามอบให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่นสถานการณ์อุทกภัยในเขตพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ดังนี้ อำเภอเมืองขอนแก่น เป็นอำเภอหนึ่งใน 26 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ 10% ของจังหวัด คือ 984 ตารางกิโลเมตร หรือ 615,012 ไร่ มีประชากร 410,334 คน 186,333 ครัวเรือน แบ่งการปกครองออกเป็น 17 ตำบล 282 หมู่บ้าน เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลตำบล 9 แห่ง และ อบต. 6 แห่ง มีพื้นที่การเกษตร 337,884 ไร่ เกษตรกร 26,041 ครอบครัว พื้นที่ปลูกข้าว 272,345 ไร่ อ้อย 46,269 ไร่ มันสำปะหลัง 19,270 ไร่ อำเภอเมืองขอนแก่น มีลำน้ำพองไหลผ่านพื้นที่ทางด้านทิศเหนือ และมีน้ำชีไหลผ่านพื้นที่ด้านทิศใต้ เมื่อฝนตกหนักและเขื่อนอุบลรัตน์ระบายน้ำปริมาณมาก จะมีน้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ปัจจุบันท่วมบ้านเรือนราษฎร 9 ตำบล 49 หมู่บ้าน 3,533 ครัวเรือน ประชากร 18,761 คน และท่วมพื้นที่เกษตรเสียหาย 45,350 ไร่
นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ
สุดท้ายนายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นอภ.เมืองขอนแก่น กล่าวเสริมว่าอำเภอเมืองขอนแก่น ได้แจ้งเตือนประชากรให้ได้ทราบถึงสถานการณ์น้ำ เพื่อเตรียมการเก็บขนสิ่งของไว้ที่สูงและเตรียมการอพยพ ได้ประสานทุกส่วนราชการและท้องถิ่นในการป้องกันและช่วยเหลือ โดยเฉพาะฝ่ายทหารในพื้นที่ทั้งหมด โดยการนำของ ผบ.มทบ.23 และสำนักงานชลประทาน ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้นำถุงยังชีพจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด สภากาชาดไทย และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานภาคเอกชนแจกจ่ายให้กับราษฎรผู้ได้รับความเดือดร้อน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เฝ้าดูแลรักษา แจกจ่ายยาให้ราษฎร สำหรับการให้ความช่วยเหลือความเสียหายจากสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือน และพืชผลทางการเกษตรเสียหาย จะได้สำรวจ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป
ประชาชนชาวอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะจากส่วนกลาง เดินทางมามอบถุงพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบภัยในจังหวัดขอนแก่นในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชน ยังความปลาบปลื้มใจ ปิติยินดีเป็นล้นพ้น ทำให้ผู้ประสบภัยมีขวัญกำลังใจที่ดี ในการดำรงชีวิต และต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคต่อไป