วันพุธ 22 ตุลาคม 2025

ม.ขอนแก่น จับมือ 3 พันธมิตร มหาวิทยาลัย จัดถกวิชาการด้านบริหารธุรกิจระดับนานาชาติ

ม.ขอนแก่น จับมือ 3 พันธมิตร มหาวิทยาลัย จัดถกวิชาการด้านบริหารธุรกิจระดับนานาชาติ

ม.ขอนแก่น จับมือ 3 พันธมิตร มหาวิทยาลัย จัดถกวิชาการด้านบริหารธุรกิจระดับนานาชาติ
ปรากฎการณ์ ของความร่วมมือรวมตัวกันของมหาวิทยาลัยหลักที่มีการเรียนการสอนด้านบริหารธุรกิจใน4 ภูมิภาคของประเทศไทยจัด “การประชุมวิชาการระดับนานาชาติและระดับชาติด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี (INCBAA 2018) “เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านการวิจัยและวิชาการในศาสตร์ทางบริหารธุรกิจและการบัญชีของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

        เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 กุมพาพันธ์ ที่ห้องออคิด บอลลรูม 2 โรงแรมพูลแมนขอนแก่น ราชา ออคิด จ.ขอนแก่น ผศ.ดร.เด่นพงษ์  สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและสื่อสารองค์กร ม.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติและระดับชาติด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี (INCBAA 2018) โดยมี ดร.อภิชัย  สมบูรณ์ปกรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข. ผศ.ดร.บุษบง   ชัยเจริญวัฒนะ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ ม.สงขลานครินทร์ รศ.ดร.สิริวุฒิ   บุรณพิร คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ม.เชียงใหม่  ผศ.ดร.ศักดิ์ชัย   เศรษฐ์อนวัช  คณบดีคณะการจัดการและการท่องเที่ยว ม.บูรพา  ตลอดจนนักศึกษา คณาจารย์ และนักวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีสู่จากในประเทศและต่างประเทศที่ให้เกียรติเข้าร่วมในการจัดประชุมวิชาการฯ จำนวนทั้งสิ้น 150 คน

ผศ.ดร.เด่นพงษ์  สุดภักดี

ผศ.ดร.เด่นพงษ์  สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและสื่อสารองค์กร ม.ขอนแก่น กล่าวว่า การพัฒนาของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในอีก 10 -20 ปีข้างหน้า ได้จัดทำแผนพัฒนา ซึ่งในส่วนนี้ได้นำเอาเครื่องมือการพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่นให้อยู่เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะ สำหรับคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเรียนรู้ และให้เหมาะกับการที่จะเข้ามาทำงานในยุคหน้า ประมาณว่าตามคาดการณ์น่าจะเป็นอย่างไร จะได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อที่จะทำให้เด็กๆของเราที่จะออกไปทำงานในวันหน้าจะได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นสะก่อน ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยอาจจะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แต่คาดว่าสามารถพัฒนาการทำงานในอนาคตข้างหน้าได้ การประชุมในวันนี้ก็เช่นกัน ก็ถือว่าเป็นสภาพแวดล้อมอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน ทำให้เขาได้รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี จะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆอย่างไรได้บ้าง

  รศ.ดร.สิริวุฒิ   บุรณพิร  

รศ.ดร.สิริวุฒิ   บุรณพิร คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า งานของ INCBAA ชื่อจริงคือเครือข่ายเชื่อมโยงอันแน่นแฟ้นของผองเพื่อนในวงการบริหารธุรกิจและการบัญชี ของ 4 สถาบันหลักในภูมิภาค ที่เราเห็นแล้วว่าถ้าต่างคนต่างจัดงาน หรือต่างคนต่างทำวิจัย จะส่งผลกระทบต่อบ้านเมืองก็คงยังไม่มาก เหมือนกับไม้ซีก อันเล็กๆเมื่อเอามารวมตัวกันแล้วจะทำให้เกิดพลังเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นพลังทั้งวงวิชาการเอง อีกทั้งเป็นพลังของวงบริหารธุรกิจด้วย สิ่งที่เราร่วมมือกันนั้นในการสัมมนาประชุมกันในครั้งนี้ โดย ก่อนหน้านี้ได้มีการปูพื้นกิจกรรมอย่าง เช่น การวิจัยร่วมกัน และนำเสนอผลงานตรงนี้  เชิญชวนเพื่อนๆของสถาบันในประเทศ และเพื่อนๆจากต่างประเทศ และนอกจากนั้นยังมีความร่วมมือด้านอื่น อย่างเช่นการแลกเปลี่ยนของนายกสมาคมนักศึกษา หรือนายกสโมสรวางสถาบัน และทีมนักศึกษามาทำกิจกรรมร่วมกัน เรามีการวางแผนที่จะแลกเปลี่ยนคณาจารย์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน  ของวงการบริหารธุรกิจและการบัญชีร่วมกัน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนนักศึกษา

      เป็นการคัดเลือกเอานักศึกษาที่มีคุณภาพที่มีภาวะผู้นำได้มาพบปะเจอกันและมีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันด้วย โดยตนเองมีความเชื่อมั่นว่าการจัดงาน การประชุมวิชาการระดับนานาชาติและระดับชาติด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี ในครั้งหน้าที่ มช.โดยเป็นการเรียงตามตัวอักษรที่ขึ้นหน้าของมหาวิทยาลัยโดย 4 ปีพบกัน 1 ครั้ง

ผศ.ดร.ศักดิ์ชัย   เศรษฐ์อนวัช

  ผศ.ดร.ศักดิ์ชัย   เศรษฐ์อนวัช  คณบดีคณะการจัดการและการท่องเที่ยว ม.บูรพา กล่าวว่า ความร่วมมือ 3 พันธมิตรของ 4 มหาวิทยาลัย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะพัฒนาความแข่งแกร่งทางวิชาการร่วมกัน ในโลกปัจจุบันบริหารธุรกิจเป็นสิ่งที่จะตอบโจทก์โลก ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นโลกที่ซับซ้อน คำถามคือ ถ้ามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหน่วยงานหลักทางวิชาการของประเทศไม่มารวมความเข้มแข่งเอาวิชาการมาพัฒนา แล้วสร้างองค์ความรู้ที่ดีๆนำไปพัฒนาให้กับภาคอุตสาหกรรม ตรงนั้นคือสิ่งภาคอุตสาหกรรมเรียกร้องมาว่าจะตอบสนองโจทก์เขาได้อย่างไร โดยที่ 4 มหาวิทยาลัยหลักได้ตระหนักถึงว่าจะทำอย่างไรขึ้นเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ประเทศชาติ เพราะว่าเวลานั้นโลกแห่งการแข่งขันมันมีมาสูงมาก จุดเด่นของทั้ง 4 มหาวิทยาลัยคือ ความเข้มแข็งทางวิชาการแต่เมื่อใดมีการมารวมตัวกันเกิดขึ้นมันจะมีแรงขับเคลื่อนทวีคูณ ทำให้เกิดการพัฒนาทั้งทางภาคเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม จากองค์ความรู้ที่ได้ เพราะเป็นการรวบรวมเอาจุดเด่นของแต่ละมหาวิทยาลัยมาแลกเปลี่ยนหล่อหลอมความรู้ทั้งหมดขึ้น

ผศ. ดร.บุษบง ชัยเจริญวัฒนะ

ผศ. ดร.บุษบง ชัยเจริญวัฒนะ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่าการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติด้านบริหารธุรกิจและการบัญชี 2561 ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกของเครือข่ายสถาบันการศึกษาแห่งภูมิภาคด้านบริหารธุรกิจ  ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการจาก 4 คณะด้านบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยใน 4 ภูมิภาคหลักของไทย อันประกอบไปด้วย ม.เชียงใหม่  ม.ขอนแก่น ม.สงขลานครินทร์ และม.บูรพา ความร่วมมือดังกล่าว เกิดจากความตั้งใจของ 4 สถาบัน ที่ต้องการร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งทางด้านวิชาการและสร้างสรรค์ผลงานที่ก่อประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ โดยทั้ง 4 สถาบันให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันในการวิจัย การจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านวิชาการ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสถาบันที่ร่วมมือในเครือข่ายและต่อสังคมโดยรวม ในนามของคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดิฉันขอขอบคุณภาคีเครือข่ายทุกสถาบันที่ได้ร่วมกันจัดงานประชุมวิชาการในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะร่วมมือกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

รศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช

ด้านรศ.ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ม.ขอนแก่น กล่าวว่า ในนามคณะกรรมการจัดการประชุมวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีครั้งที่ 1 (INCBAA Conference) รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นักศึกษา คณาจารย์ และนักวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีสู่จากในประเทศและต่างประเทศที่ให้เกียรติเข้าร่วมในการจัดประชุมวิชาการฯครั้งนี้       
     “การจัดประชุมวิชาการในวันนี้นั้นเกิดขึ้นจากการจัดตั้ง “เครือข่ายสถาบันการศึกษาแห่งภูมิภาคด้านบริหารธุรกิจ (Thailand Regional Business Schools Network: TRBS NET)”ซึ่งประกอบด้วย 4 สถาบันคือคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่คณะการจัดการและการท่องเที่ยวมหาวิทยาลัยบูรพาคณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และคณะบริหารธุรกิจและการบัญชีมหาวิทยาลัยขอนแก่นหนึ่งในกิจกรรมหลักของเครือข่ายคือการจัดการประชุมวิชาการระดับชาติและระดับนานาชาติด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการและวิจัยให้กับศาสตร์ด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีในอนาคตซึ่งมีกำหนดจัดการประชุม
วิชาการฯทุกๆ 2 ปีโดยเวียนจัดในกลุ่มสมาชิกและครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นทั้งนี้เพื่อเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์และความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิจัยด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีระหว่างนักศึกษาคณาจารย์และนักวิชาการตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถาบันอุดมศึกษาต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน”


คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข.กล่าวต่อไปว่า สำหรับการประชุมวิชาการในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน” เป็นโอกาสอันดีของภาคธุรกิจของเรา ที่จะนำเอารูปแบบนวัตกรรม แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจเพราะในปัจจุบัน “นวัตกรรม” นับว่าเป็นยุทธศาสตร์หลักและนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆในประเทศไทยมีความตื่นตัวและเริ่มให้ความ สําคัญกับการสร้างนวัตกรรมอย่างมากโดยเฉพาะองค์กรภาคธุรกิจที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้เกิดการคิดนอกกรอบและ “นวัตกรรม”ยังเป็นตัวแปรที่สําคัญทางเศรษฐกิจ


โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่จําเป็นต้องมีการผลักดันนวัตกรรมเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอีกทั้งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันดีว่า“นวัตกรรม”ไม่ได้มีส่วนสําคัญเฉพาะการพัฒนาธุรกิจเท่านั้นแต่ยังหมายรวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศด้วยทั้งนี้การสร้างนวัตกรรมในแต่ละธุรกิจย่อมแตกต่างกันไปตามแต่สภาวการณ์และบริบทบางธุรกิจอาจเหมาะกับการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในขณะที่บางธุรกิจอาจเหมาะกับนวัตกรรมในด้านกระบวนการหรือในด้านบริการเพื่อสร้างความเป็นเลิศให้กับธุรกิจของตนเหล่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเงินทุนบุคลากรหรือเวลาดังนั้นแต่ละธุรกิจจึงควรหานวัตกรรมที่เหมาะสมกับตนมากที่สุดเพื่อให้เกิดความเป็นที่หนึ่งหรือผู้นําในธุรกิจด้านนั้นๆ”

       “ท้ายที่สุดนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์ความรู้ต่างๆที่เกิดขึ้นในงานประชุมฯ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ หรือโมเดลต่างๆ จากการนำเสนอภายในงาน จะถูกนำมาปรับใช้ใช้เป็นแนวทางในการกําหนดนโยบายขับเคลื่อนนวัตกรรมในแวดวงธุรกิจของไทยให้มีศักยภาพทัดเทียมคู่แข่งนานาประเทศ ซึ่งสิ่งนี้เองจะเป็นกุญแจหลักที่ผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไปสู่ระดับสากลได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน”รศ.ดร.เพ็ญศรี กล่าว

 

 

About The Author

Related posts

pgs78
dv188
ptgacor77
jps77
dontoto
kimciltoto
dubaispin168
horse188
shabu39
bs505
acaaca188
paila2000
3mbola
cabe202
bobaslot77
markasbet88
taxi777
bogo77
winslot777
kingmpo77
gokil456
webini33
hype168
laskar288
olxbet200
betseru
harta500
lady188
dubaispin168
bigsloTO777
budaya303
tyara88
vibes168
kingmahazeus
mahazeus
padukaraja
popay88
bancibet
piala2000
pragmaslot
wiki777dot
ty303
ganas567
tokohoki168
pati4d
tokyo787
sultanwin89
rajahoki88
biropay28
prada555
byon777
situs969
evos128
surgawon
agendunia55
qristoto88
1ybet
awan169
apel288
vipslot789
kelastoto
ratugacor777
pgs88
pektoto
habanero88
gacor12