วันพุธ 22 ตุลาคม 2025

กระชับความสัมพันธ์เวียดนาม – อินเดีย แนบแน่น ชื่นมื่น

กระชับความสัมพันธ์เวียดนาม – อินเดีย  แนบแน่น ชื่นมื่น

กระชับความสัมพันธ์เวียดนาม – อินเดีย

               แนบแน่น ชื่นมื่น

ตามคำเชิญของประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินเดีย (ประเทศอินเดีย) Ram Nath Kovind  และนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย Narendra Modi ได้เชิญประธานประเทศสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม (เติล ด่าย กวาง) และภริยา พร้อมคณะตัวแทนหน่วยงานราชการของเวียดนาม ได้ไปเยี่ยมและพบปะผู้นำ ข้าราชการชั้นสูงของอินเดียของวันที่ 2-4 มีนาคม 2018 ในการพบปะประธานาธิบดีอินเดียประธานประเทศเวียดนาม เติล ด่าย กวาง ได้กล่าวสุนทรพจน์มีความหมายสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งมีบางตอนที่น่าสนใจและคัดมานำเสนอคือ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและอินเดียกำลังจะผ่านไปครึ่งศตวรรษ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและประชาชนทั้งสองประเทศของเรามีมานับเป็นพันๆปีแล้ว ความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดดังกล่าวเกิดขึ้นไม่เพียงแต่จากการแบ่งปันผลประโยชน์ด้วยกัน แต่ยังมาจากความคล้ายคลึงกันในด้านค่านิยมและวัฒนธรรม

ตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 พระภิกษุสงฆ์ Mahagivaka ได้นำพระพุทธศาสนาจากประเทศอินเดียเข้ามาในเวียดนามและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณที่มีความสอดคล้องกับความเชื่อของคนพื้นเมือง ความคิดเกี่ยวกับความเสมอภาคการกุศลการเสียสละของศาสนาพุทธได้รับการฝังรากลึกลงไปในจิตใจชาวเวียดนามซึ่งกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมเวียดนาม

ต่อมาในศตวรรษที่ 2 ศาสนาฮินดูก็มีอยู่ในเวียดนาม ซึ่งยังคงรักษาไว้ในโบราณสถานทางวัฒนธรรมของชาวแชมปาในเวียดนามตอนกลางโดย ด้วยมหากาพย์ Ramayana ตัวละครสิตาที่มีทั้งพรสวรรค์สติปัญญาและรูปร่างสวยงาม รวมทั้งกระแสการฝึกโยคะที่กำลังเป็นที่นิยมในชีวิตประจำวันของชาวเวียดนามปัจจุบัน

 

จนถึงวันนี้ ผลงานของ Rabindranath Tagore นักวัฒนธรรม นักกวี นักปรัชญาแห่งความโดดเด่นในเอเชีย ผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรรณคดีคนแรกในเอเชีย ยังหลงใหลชาวเวียดนามนับล้านคนด้วยบทกวีที่มีปรัชญาลึกซึ้งเกี่ยวกับจักรวาล มนุษย์ ความสุขและความรัก

ในทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 20 ผู้นำทั้งสองประเทศได้พบปะกันโดยไม่ได้นัดหมายบนเส้นทางของการต่อสู้กับลัทธิล่าอารานิคม เพื่ออิสรภาพและเสรีภาพของประชาชนทั้งสอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2486 ในระหว่างที่ถูกจำคุก ประธานโฮจิมินห์ ได้ส่งคำประพันธ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ไปยัง Jawaharlal Nehru:

“เมื่อฉันต่อสู้  คุณต่อสู้

คุณต้องเข้าคุก   ฉันอยู่ในคุก

ห่างไกลพันล้านไมล์   ไม่ได้พบกัน

ไม่มีคำ  แต่ยังเห็นใจ”

สิบเอ็ดปีหลังจากนั้น เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2497 เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ฮานอยได้คืนอิสรภาพนายกรัฐมนตรีนายเนห์รู ตามคำเชิญของประธานของโฮจิมินห์ได้มาเยือนเวียดนามซึ่งเป็นประมุขแห่งแรกของโลกที่ได้มาเยือนเวียดนาม

 

ภาพของพี่น้องชาวอินเดียของเราที่เข้าสู่ถนนเพื่อสนับสนุนความชอบธรรม ในการต่อต้านลัทธิจักรวรรดินิยมของเราชาวเวียดนาม สโลแกน “Amar Nam, Tomar Nam เวียดนาม เวียดนาม โฮจิมินห์ เดียนเบียนฟู” บนริมฝีปากของพวกเขาจะฝังอยู่ตลอดเวลาในจิตสำนึกของคนเวียดนาม จากหัวใจ เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อความรักอันบริสุทธิ์และจริงใจที่ไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่ในช่วงยากลำบาก ของประชาชนชาวอินเดียที่ได้มอบให้ชาวเวียดนามตลอดเวลาที่ผ่านมา

ณ วันนี้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เรามีความภาคภูมิใจในมิตรภาพอันดีระหว่างสองประเทศมิตรภาพระหว่างสองประเทศและประชาชนของเราไม่เพียงแต่เป็นความจริง แต่ยังได้รับการส่งเสริม พัฒนาอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ได้เน้นว่า “เวียดนามอยู่ในลำดับความสำคัญสูงสุดในความพยายามที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ของอินเดียกับเอเชียแปซิฟิก” สำหรับเวียดนามในนโยบายการต่างประเทศ อินเดียเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดเสมอ

เมื่อ 60 ปีก่อน ในระหว่างการเยือนอินเดีย ประธานโฮจิมินห์ที่รักของเราเคยยืนยันว่า “อินเดียเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ มีความอิสระ และได้มีส่วนร่วมที่มีคุณค่ามากมายในการสร้างสันติภาพในเอเชียและทั่วโลก” ข้อความดังกล่าวยังคงถูกต้อง  เรายินดีที่จะเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  การเติบโตของอินเดียเกิดขึ้นพร้อมไปกับความมั่นคง  มั่งคั่งของเอเชีย  เส้นทางการพัฒนาอย่างสันติของอินเดียถือเป็นปัจจัยที่สร้างสรรค์สำหรับสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค  ด้วยศักยภาพและการมีส่วนร่วมของอินเดีย อินเดียน่าจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในมหาสมุทรอินเดียเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก

ดังนั้นเวียดนามยินดีที่จะสนับสนุนอินเดียส่งเสริมบทบาทสำคัญของตนในภูมิภาคนี้ สนับสนุนอย่างต่อเนื่องให้อินเดียมีส่วนร่วมในกลไกการเชื่อมโยงความร่วมมือระดับภูมิภาครวมทั้งเอเปค เช่นเดียวกับการเป็นสมาชิกถาวรคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติของอินเดีย

ปัจจุบันสองประเทศได้สร้างความสัมพันธ์กันที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม แบ่งปันผลประโยชน์ค่านิยมการรับรู้และมุมมองในประเด็นระดับภูมิภาคและนานาชาติ ทั้งสองฝ่ายกำลังดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ 2017 – 2020 อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือทางการเมืองการป้องกันประเทศและความมั่นคงจะขยายตัวและกลายเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าได้เติบโตขึ้นในอัตราที่สูง ความร่วมมือด้านการพัฒนาการศึกษาและการฝึกอบรม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนของประชาชนสองประเทศมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ เป็นการส่งเสริมรากฐานทางสังคมที่แข็งแกร่ง สำหรับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ปี 2017 เป็นปีครบรอบ 54 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและอินเดีย ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเข้าสู่ยุคพัฒนาใหม่ จำเป็นต้องใช้ความพยายามใหม่ และความตั้งใจใหม่ของทั้งสองฝ่ายเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จมากขึ้น ตอบสนองความคาดหวังของประชาชนทั้งสองประเทศ

เป้าหมายของการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสองประเทศของเรา ไม่มีอะไรนอกจากเวียดนามที่เข้มแข็งและยั่งยืน อินเดียยิ่งใหญ่มีศักดิ์ศรีและสถานะที่นับวันยิ่งเติบโตในเวทีระหว่างประเทศ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการรักษาสันติภาพเสถียรภาพความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและทั่วโลก

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวฉันอยากจะแบ่งปันความคิดบางอย่างเกี่ยวกับขั้นตอนที่จะควรดำเนินในพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินเดียดังนี้ ประเด็นแรก ควรส่งเสริมการเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจและการค้า นี่คือจุดเน้นและแรงผลักดันสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างอินเดียและเวียดนาม  ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องข้ามไปให้ได้กับความคิดในการปกป้องการค้า ส่งเสริมการค้าและการลงทุนการเปิดเสรี เชื่อมต่อโครงการพื้นฐานด้านการเดินเรือและการบินทั้งภายในกรอบทวิภาคีและในแผนการเชื่อมต่อภูมิภาคและพื้นที่เวียดนามสนับสนุนและประสานงานอย่างใกล้ชิดกับอินเดีย เพื่อทำให้อินเดียเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในแผนความร่วมมือของอาเซียนโดยรวมและร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจแบบครบวงจรในปี พ.ศ. 2561

ส่งเสริมความร่วมมือด้านทะเล ถือเป็นส่วนสำคัญที่ไม่เพียงแต่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อสันติภาพความมั่นคงและการพัฒนาในภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย – เอเชีย – แปซิฟิก ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แบ่งปันประสบการณ์สร้างศักยภาพในการจัดการกับปัญหาด้านความปลอดภัยทางทะเล ประสานงานในการพัฒนาเศรษฐกิจทะเลโดยอาศัยการเชื่อมต่อทางทะเล มีความร่วมมือด้านการท่าเรือการปกป้องสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน ความพยายามในการสร้างระเบียบในทะเล แก้ไขปัญหาข้อพิพาทโดยสันติบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล 1982 และส่งเสริมการเชื่อมต่อในการบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนในสองประเทศ

นอกจากนี้เราควรเสริมสร้างการเชื่อมต่ออย่างใกล้ชิดกับวาระการปฏิบัติงานของสหประชาชาติในปี 2030 ไปสู่กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคซึ่งรวมถึงกลไกการร่วมมือ Mekong – Ganga ซึ่งเวียดนามต้องการร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพกับอินเดียในด้านการเกษตรสีเขียวเทคโนโลยีสีเขียวพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนเทคโนโลยีสารสนเทศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังคงทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างโครงสร้างภูมิภาคใหม่ที่เปิดกว้าง.

 

About The Author

Related posts

pgs78
dv188
ptgacor77
jps77
dontoto
kimciltoto
dubaispin168
horse188
shabu39
bs505
acaaca188
paila2000
3mbola
cabe202
bobaslot77
markasbet88
taxi777
bogo77
winslot777
kingmpo77
gokil456
webini33
hype168
laskar288
olxbet200
betseru
harta500
lady188
dubaispin168
bigsloTO777
budaya303
tyara88
vibes168
kingmahazeus
mahazeus
padukaraja
popay88
bancibet
piala2000
pragmaslot
wiki777dot
ty303
ganas567
tokohoki168
pati4d
tokyo787
sultanwin89
rajahoki88
biropay28
prada555
byon777
situs969
evos128
surgawon
agendunia55
qristoto88
1ybet
awan169
apel288
vipslot789
kelastoto
ratugacor777
pgs88
pektoto
habanero88
gacor12