อดีต ส.ส.ขอนแก่น แห่!สมัครเข้าพรรคเพื่อไทย
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ คิงคอง ไรซ์ (KING KONG RICE)ถนน เลี่ยงเมืองสาย ขอนแก่น – นครราชสีมา บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น คุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน อาทิเช่น นายโพคิณ พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา นายอดิศร เพียงเกษ ได้เดินทาง เพื่อพบปะชาวขอนแก่น พร้อมเปิดสถานที่รับสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่มีอดีต ส.ส. ในพื้นที่ภาคอีสานมาต้อนรับ อาทิ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, นายอดิศร เพียงเกษ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสุรชัย เบ้าจรรยา อดีต ส.ส. เขต 1, นายจตุพร เจริญเชื้อ อดีต ส.ส. ขอนแก่น เขต 3, นางมุกดา พงษ์สมบัติ อดีต ส.ส. เขต 4, นางดวงแข อรรณนพพร อดีต ส.ส. เขต 8, นายธนิก มาสีพิทักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยคนรุ่นใหม่ นายภาควัต ศรีสุรพล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5 แทนพ่อ นายสุชาย ศรีสุรพล และนายวันนิวัติ สมบูรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 9 แทนลูกพี่ลูกน้อง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส่วนเขต 2 นางอรอนงค์ สาระผล ภรรยานายภูมิ สาระผล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แทน, เขต 6 เขต 7 เขต 10 จุดแรกที่รับสมัครสมาชิกพรรค คือ ตลาดสปอตเกษตรกร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีประชาชนมาต้อนรับและสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยกว่า 300 คน
และมีพระนักเทศน์ชื่อดังคือ พระครูสมุห์ทองล้วน สิริจนโท รองเจ้าอาวาสวัดศรีพิมล ต.บ้านโต้น อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ได้เดินทางมาเพื่อนำเอาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) มามอบให้นางสุดารัตน์ และบรรดาผูที่จะลงสมัคร ส.ส.ด้วย โดยอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จและได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เข้ามาบริหารชาติบ้านเมืองต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าการที่ได้ประกาศใช้ ม.44 เพื่อแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เป็นบันไดอีกขั้นหนึ่ง ที่ผู้มีอำนาจต้องการเข้าสู่อำนาจอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ขณะที่นายโพคินมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายแต่รัฐบาลกลัวความผิด จึงใช้ ม.44 มารองรับเพื่อให้ตนพ้นผิด
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่ากรณีใช้ ม.44 แบ่งเขตการเลือกตั้งว่า เป็นบันไดอีกขั้นหนึ่ง หรือเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ผู้มีอำนาจต้องการเข้าสู่อำนาจอีกครั้งหลังการเลือกตั้งได้ เพราะจริงๆ แล้วเขตเลือกตั้งก็แบ่งเรียบร้อยแล้ว รอเพียง กกต.ลงนาม ท้ายที่สุดก็มีการประกาศใช้ ม.44 ขึ้นมา ตนอยากเตือนว่าการทำอะไรที่ฝืนหลักความจริง ฝืนความรู้สึกของประชาชน และฝืนกฎหมาย จริงๆ คือการฝืนกฎหมายและมีความผิดตามกฏหมาย ซึ่งมันไม่ควรจะเกิดขึ้น ณ เวลานี้ เพราะเกิดขึ้นในขณะที่เราเองออกไปประกาศทั่วโลกว่าเรากำลังจะคืนประชาธิปไตยกลับสู่ประเทศ ดังนั้นวิธีการนี้ก็คือวิธีการสร้างความมั่นใจให้กับผู้มีอำนาจเองว่าตัวเองจะสามารถกลับสู่อำนาจได้อีกครั้ง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่าสิ่งที่น่าห่วงตอนนี้คือทำอย่างไรจะสามารรถทำให้การเลือกตั้งเกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรมจริง ๆ ไม่ใช่การเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐมากที่สุด หรือใช้เงินซื้อเสียงมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่องค์กรกลางอย่าง กกต.จะตั้งปฏิบัติหน้าที่อย่างแข้มแข็ง และจะต้องพิสูจน์ให้ประชาชนทั่วไปได้มีความมั่นใจในผลของการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งมันจะส่งผลแน่นอนต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากผลการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ปล่อยให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และใช้อำนาจรัฐมาก ๆ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคต เพราะนานาชาติหรือสังคมโลกจะไม่ยอมรับประเทศไทย และไม่กล้าเข้ามาลงทุน
ด้านนายโพคิน พลกุล กล่าวเสริมว่ตนมองว่าการที่ผู้มีอำนาจประกาศใช้ ม.44 ออกมาในขณะนี้คือประเด็นมีอยู่ว่า รธน.ฉบับนี้กำหนดไว้ว่าการใช้ ม.44 ถือว่าชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วย รธน.หมด สรุปแม้จะใช้ไม่ชอบผิดหลักนิติธรรม ผิดหลักยุติธรรมอะไรก็ตามให้ถือว่าใช้ได้หมด ดังนั้นก็เพื่อนำมาใช้ตอบโจทย์อันนี้เท่านั้นเอง คือไม่ว่าฉันจะทำผิดอะไรก็ตามแต่กฎหมายที่มารับรองฉันฉบับนี้คือให้ถูก ประเด็นแบบนี้ถามว่าผู้คนเขารับได้ไหม มันฝืนจิตใจเขานะ ซึ่งความจริงไม่ว่าใครก็ตามต้องยึดความที่ถูกในความเป็นจริง และถูกกฎหมายในความเป็นสากล ไม่ใช่ถูกเพราะผู้มีอำนาจบอกว่าสิ่งที่ฉันทำผิดนี้ให้บอกว่าถูก.
