จบ! คดีแจ้งจับพระบุกรุกที่ป่าช้า พิพากษา”รอกำหนดโทษ 2 ปี”
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 มี.ค. ที่ ห้องพิจารณาคดี 4 ชั้น 2 ศาลจังหวัดชุมแพ ถ.มะลิวัลย์ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาล จ.ชุมแพ ได้อ่านคำพิพากษา คดีสืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้ที่ฟ้องร้อง ดำเนินคดีกับพระอาจารย์ชัยชนะ ภูริญาโณ เจ้าอาวาส สำนักปฏิบัติธรรมบ้านดอนหันโนน หินแห่ ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ในข้อหา1.ทำเมรุเผาศพ 2.สร้าง ศาลาพักศพ 3. จัดสร้างห้องน้ำและ 4 ทำเล้าไก่ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือ ซึ่งโจทย์ประกอบไปด้วย นายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอหนองเรือ , นายกฤษฏิ์ หาญวงษ์ษา นายกเทศบาลตำบลโนนสะอาด และนายสมัย พั้วทา ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอน หันหมู่ 9โดยมีนายสมบูรณ์ จินดาวิชชุ เป็นทนายความว่าความคดี และชาวบ้าน น่าเลื่อมใส ในตัวพระชัยชนะ กว่า 2,000 คนร่วมให้กำลังใจ
จากการที่ทางพนักงานอัยการ จังหวัดชุมแพ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลชุมแพ เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1625/2561 ในข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณะด้วยการเข้าไปตั้งสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจากับฝ่ายโจทก์ที่เข้าแจ้งความให้เอาผิดกับ พระชัยชนะหรือนายชัยชนะ ภูริญาโณ หรือศรีเมืองแก่น ลงวันที่ 3 เดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นจำเลยฐานความผิด บุกรุก เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์
ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือได้สอบแล้ว ข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายนพ.ศ 2557 วันและเวลาใดไม่ปรากฏชัดจนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ต่อเนื่องกันตลอดมาจำเลยได้บังอาจบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้างป่าเบญจพรรณในที่ดินและแปลงตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเลขที่ 46506 ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านดอนหันหมู่ที่ 9 ตำบลโนนสะอาดอำเภอหนองเรือจังหวัดขอนแก่น อันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภท พลเมืองหรือประชาชนใช้ร่วมกันและเป็นที่ดินของรัฐซึ่งอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลโนนสะอาด
โดยจำเลยได้ยึดถือครอบครองปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างจำนวนหลายรายการเช่นอาคารชนิดถาวรขึ้นเป็นศาลาการเปรียญโรงครัว,ห้องน้ำ,ลานพระประธาน,โรงทานและอาคารปฏิบัติธรรม ศาลากุฏิสงฆ์และโรงเลี้ยงไก่ ในที่ดินดังกล่าว คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่โดยจำเลยมิได้มีสิทธิ์ครอบครองและมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกทั้งนายกเทศมนตรีตำบลโนนสะอาด ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ดูแลที่ดินแปลงดังกล่าว
นายสมบูรณ์ จินดาวิชชุ
นายสมบูรณ์ จินดาวิชชุ เป็นทนายความฝ่ายจำเลย(พระชัยชนะ) กล่าวทางศาลจังหวัดชุมแพ ได้นัดฟังคำพิพาษาศาลทั้งของโจทก์และจำเลย ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกว่านัดฟังคำตัดสินของศาล ในวันที่19มี.ค.สืบเนื่องจากนัดที่แล้วเมื่อ 14 ก.พ.ทางพระอาจารย์ชัยชนะ ได้ให้การเป็นรับสารภาพไปแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสืบพยานโจทก์ และพยานจำเลย อีกศาลก็เลยนัดฟังคำพิพากษาวันนี้เวลา 10:00 น.ส่วนผลการตัดสินจะออกมาเป็นยังไง ก็ต้องรับผลดุลพิจาราณาพินิจของศาล สรุปว่าในวันนี้คือ 19 มี.ค. 2562 ผู้พากษาท่านได้มีคำพิพากษาว่าเนื่องจากเห็นพระอาจารย์ชัยชนะทำคุณงามความดีให้กับชาวบ้านทำกับเสียสละเพื่อชุมชน เพื่อประชาชนทั่วไป ทั้งบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยร้ายแรงต่สงๆพร้อมทั้งพัฒนาวัดแห่งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มาเข้าปฏิบัติธรรม ดังนั้นจากการสร้างคุณงามความดีของอาจารย์ ท่านผู้พิพากษาเลยโปรดมีคำพิพากษาให้กับรอกรรมรอการกำหนดโทษ
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่าซึ่งในวันนี้ศาลไม่ได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษ แต่เป็นการรอการกำหนดโทษไว้เป็นระยะเวลา 2 ปีรอการกำหนดโทษก็คือหมายถึงว่าภายใน 2 ปีนี้จะห้ามกระทำความผิดอาญาใดๆ เพราะหากถ้าในวันข้างหน้า หากมีความกระทำความผิดอาญาใดๆก็จะยกคดีนี้ขึ้นมาเพื่อมาพิพากษาลงโทษอีกที เป็นการรอกำหนดโทษ 2 ปี แล้วก็ไม่มีคำพิพากษาให้ปรับลงโทษปรับ ลงท้ายคำพิพากษาว่าให้รื้อถอนทรัพย์สินขนย้ายออกในวันไหนนั้นซึ่งท่านผู้พิพากษาท่านไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเมื่อไหร่อะไรยังไง ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลสรุปวันนี้ไม่มีการพิพากษาลงโทษจำคุก และไม่เป็นรอโทษจำคุก รอการกำหนดโทษ
พระอาจารย์ชัยชนะ ภูริญาโณ
พระอาจารย์ชัยชนะ ภูริญาโณ กล่าวว่าการมาศาลจังหวัดชุมแพ ในวันนี้เพื่อมารับฟังคำพิพากษาในคดีบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ ซึ่งศาลท่านได้อ่านคำพิพาพากษา ให้รอกำหนดโทษ เป็นเวลา 2 ปี ในระหว่างนี้ห้าม
กระทำความผิดในคดีใดๆอีก พระอาจารย์คิดว่าพระอาจารย์ได้ทำหน้าที่แทนพระภิกษุสงฆ์ทั่วประเทศ ในการสร้างความดีช่วยเหลือสังคม เพราะจะเป็นแนวทางที่ได้ช่วยเป็นเกราะกำบัง ให้พ้นจากภัยพิบัติทั่งปวง ด้วยศาลท่านเห็นว่าคดีนี้มันเกี่ยวพันทางจิตใจของญาติติธรรม และก็ชื่อเสียงของ ศาสนาพุทธ ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ศาลท่านจึงนัดตัดสินคดีในวันนี้ เพื่อที่จะให้มันจบลงโดยเร็วเพราะว่ายังมีคดีที่สำคัญๆยังอยู่ในศาลอีกมาก
นางสำเหนียง เมืองซ้าย
นางสำเหนียง เมืองซ้าย อายุ54 ปี อาชีพค้าขาย อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น กล่าวกับสื่อมวลชนว่าที่มาในวันนี้มาเพื่อให้กำลังใจ พระอาจารย์ชัยชนะ ที่ศาล จ.ชุมแพ โดยตนมาเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งวันนี้รู้สึกดีใจมาก ที่คำพิพากษาว่าท่านพระอาจารย์ชัยชนะไม่ผิด เพราะตนนั้นเลื่อมใสในตัวพระชัยชนะ ภูริปัญโญ ซึ่ง เป็นพระที่มีจริยวัตรอันดีงาม น่าเคารพเลื่อมใส เพราะนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ที่ท่านได้เข้ามานั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตลอดจนตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นบนพื้นที่ป่าช้าบ้านดอนหันแห่งนี้ ได้มีการพัฒนาถนนหนทาง น้ำ-ไฟฟ้าและสาธารณูปโภค สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างต่อเนื่อง เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน ทุกครัวเรือน ดังนั้นรู้สึกดีใจที่ท่านไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุก เพราะท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชุมชน เป็นอย่างมาก.
