วันพุธ 22 ตุลาคม 2025

มข.เปิดตัวโครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0

มข.เปิดตัวโครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0

มข.เปิดตัวโครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0

ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจและสังคม คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มข.จัดอบรมโครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด 12 ชุมชน ถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบการจัดการผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์รวมไปถึงการแปรรูปผลผลิตที่เกิดจากพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบ และเข้าใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์ , สิ่งที่จะต้องร่วมมือกันพัฒนา


เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 10 ก.ย.ที่ห้องภูพาน ชั้น 2 โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล อ.เมือง จ.ขอนแก่น รศ. ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณะบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ม.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีวิทยากร จาก ม.ขอน แก่น ส่วนราชการ สื่อมวลชนทุกแขนง สมาชิกกลุ่มชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0 คณะกรรมการดำเนินโครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0และผู้มีเกียรติกว่า 500 คน ร่วมกิจกรรม

รศ. ดร.เพ็ญศรี  เจริญวานิช
รศ. ดร.เพ็ญศรี คณะบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี ม.ขอนแก่น กล่าวว่าการดำเนินกิจกรรมจัดสัมมนาสรุปผล โครงการชุมชนต้นแบบสินค้าเกษตรอินทรีย์ยุค 4.0 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด 12 ชุมชน โดยศูนย์บ่มเพาะธุรกิจและสังคม คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิยาลัยขอนแก่น ได้เห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสานที่ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตยุค 4.0 โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในวิถีชีวิตของเรามากขึ้น ดังนั้นเกษตรเองที่ยังไม่เข้าถึงเทคโนโลยีจะได้รับทั้งความรู้ตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูป และการตลาดโดยทีมงานที่มีทั้งความสามารถและประสิทธิภาพที่จะสามารถพาพี่น้องเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์และสร้างรายได้ที่ดีขึ้น

รศ. ดร.เพ็ญศรี กล่าวอีกว่ารู้สึกยินดี ที่ได้เห็นความร่วมมือ ร่วมใจของทุกๆ ฝ่าย ที่ตั้งใจและมุ่งมั่น จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบการจัดการผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์รวมไปถึงการแปรรูปผลผลิตที่เกิดจากพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบ และเข้าใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์ , สิ่งที่จะต้องร่วมมือกันพัฒนา และอื่นๆ อีกมากมาย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

ที่จะเกิดความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่จะมีส่วนในการผลักดันเพื่อยกระดับขีดความสามารถการพัฒนาเกษตรกรและผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรอินทรีย์ นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด 12 ชุมชน ครั้งนี้ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะมีการพัฒนาและต่อยอดไปสู่พื้นที่ชุมชนอื่น ได้ในอนาคต

นายมงคล  บึกสันเที๊ย อายุ 48 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 10 ต.เลิงใต้ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่าตนเองอยู่ในกลุ่มของศูนย์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านน้อย ทำในเรื่องเกษตรอินทรีย์ และทำเรื่องการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพนำไปสู่ชุมชนที่พัฒนา สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการต่อยอดเพื่อให้เกษตรกรมีสินค้าที่มีคุณภาพ นำไปสู่เกษตรกรมีรายได้ และอาชีพที่มั่นคง ดังนั้นขอขอบคุณโครงการนี้ ซึ่งตอนนี้ทางกลุ่มได้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ เรื่องปลูกข้าวส่งโรงพยาบาลในรูปของข้าวสาร และเป็นข้าวกล้อง ซึ่งเป็นข้าวอินทรีย์ ที่มีการทำสัญญา
(Electronic Bidding : e-bidding)
ทั้งปี

โดยทางกลุ่มเกษตรกรส่งผลผลิตข้าวกล้องส่งไปที่โรงพยาบาลมหาสารคาม อีกทั้งในส่วนของพืชผักอินทรีย์ เราก็มีสัญญาคู่ค้าโรงพยาบาลทั้งปี มีผลผลิตมวลรวมของกลุ่ม เป็นตัวเงิน ตกเดือนละกว่าแสนบาท สรุปเมื่อเกษตรกรรวมกันทำโครงการนี้ 4.0 จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้อาชีพในอนาคตข้างหน้าของลูกหลานที่จะเกิดขึ้นไม่ต้องไปทำงานไกลบ้าน และมีอาชีพในการต่อยอดในการทำการเกษตร มีผลผลิตในการเกษตรที่มีรายได้สูงและมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ.

 

About The Author

Related posts

pgs78
dv188
ptgacor77
jps77
dontoto
kimciltoto
dubaispin168
horse188
shabu39
bs505
acaaca188
paila2000
3mbola
cabe202
bobaslot77
markasbet88
taxi777
bogo77
winslot777
kingmpo77
gokil456
webini33
hype168
laskar288
olxbet200
betseru
harta500
lady188
dubaispin168
bigsloTO777
budaya303
tyara88
vibes168
kingmahazeus
mahazeus
padukaraja
popay88
bancibet
piala2000
pragmaslot
wiki777dot
ty303
ganas567
tokohoki168
pati4d
tokyo787
sultanwin89
rajahoki88
biropay28
prada555
byon777
situs969
evos128
surgawon
agendunia55
qristoto88
1ybet
awan169
apel288
vipslot789
kelastoto
ratugacor777
pgs88
pektoto
habanero88
gacor12