ขอนแก่น มีเฮ!ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์(อีกครั้ง)
ขอนแก่นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์ หลังผลตรวจยืนยันล่าสุดรายที่ 5 และ 6 ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ขอนแก่น ไม่พบการติดเชื้อ ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้ารับการกักตัว กลับไปปฎิบัติหน้าที่ตามเดิมแล้วหลังครบกำหนดการกักตัว 14 วันทุกคน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 เม.ย.ที่ โรงแรม กรีน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันปรบมือให้กับบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลขอนแก่น และโรงพยาบาลน้ำพอง 54 คน จากทั้งหมด 88 คนที่ถูกกักกันตัว 14 วัน เนื่องจากเป็นผู้ที่ดูแลใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 รายที่ 5 ของจังหวัดขอนแก่น ในพิธีขวัญเอ้ย ขวัญมา กลับบ้านเฮาเด้อ ซึ่งบรรยากาศเปี่ยมล้นไปด้วยการส่งกำลังใจเป็นดอกกุหลาบและคำพูดจากผู้ที่มาร่วมรับขวัญทีมแพทย์และบุคลากรทั้ง 54 คนที่กลับไปปฎิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ
ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในวันนี้จังหวัดได้ร่วมกันจัดพิธีขวัญเอ้ย ขวัญมา กลับบ้านเฮาเด้อ เพื่อเป็นการให้กำลังใจและต้อนรับทีมแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ 54 คน จากทั้งหมด 88 คน โดยที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของ รพ.ขอนแก่นจำนวน 36 คน และ รพ.น้ำพอง 18 คน ได้เดินทางกลับจากสถานที่กักตัวหลังครบกำหนด 14 วัน และในวันพรุ่งนี้จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มารับการรักษาตัวที่ รพ.ฯ ในความรับผิดชอบตามปกติ
ดร.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่าซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนได้เดินทางกลับบ้านไปแล้ว 34 คน โดยทั้งหมดผลการตรวจไม่มีการติดเชื้อหรือแสดงอาการใดๆ และก็หมายความว่าทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดขอนแก่นมีการป้องกักตัวเองเป็นอย่างดี
ดร.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนอาการล่าสุดของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 รายที่ 5 และ 6 นั้น ล่าสุดตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่จะต้องอยู่พักรักษาตัวที่ รพ.ขอนแก่นต่ออีก เนื่องจากในรายที่ 5 นั้น มีโรคประจำตัวคือความดันและเบาหวาน ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาต่อเนื่องจนสภาพร่างกายเป็นปกติจึงจะให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้ป่วยรายที่ 6 นั้น ไม่แสดงอาการตั้งแต่เข้ารับการรักษาเนื่องจากพบว่ามีเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกาย แต่ต้องให้อยู่ที่ รพ.ฯต่ออีกสักพัก เช่นกัน เพื่อให้ทางอำเภอน้ำพอง ได้ลงพื้นที่ไปทำความเช้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ไม่ให้เกิดการรังเกียจหรือต่อต้านผู้ป่วยทั้ง 2 ราย จึงจะให้กลับบ้านไปใช้ชีวิตปกติตามเดิมได้ต่อไปในอนาคต.
