มอบบ้าน ให้ยายพลทหาร ป.พัน 13 เหตุเสียชีวิตระงับเหตุวัยรุ่นตีกัน งานสงกรานต์ ที่ จ.หนองคาย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ บ้านเลขที่ 20 บ้านเหล่าเกวียนหัก หมู่ 5 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ.อ.ปิยะพณห์ ฐิตวัฒนานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 (ผบ.ป.3) เป็นประธานพิธีส่งมอบบ้านตามโครงการ “ทบ.ซ่อมบ้านทั่วไทย เทิดไท้ ปีมหามงคล ” ให้กับนางมารีสุทธา ซึ่งเป็นผู้ปกครองอุปการะเลี้ยงดู พลทหารพลนิกร ยศมาร สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ซึ่งได้รับมอบหมายจากหน่วยเหนือในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ในห้วงวันหยุดสงกรานต์ ในวันที่ 14 เมษายน 62 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุกลุ่มรุ่นทะเลาะวิวาทแต่พลาดพลั้ง ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ซึ่งถือได้ว่า ได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
โดยมีนายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นอภ.เมืองขอนแก่น พ.ท.ทรงศักดิ์ สิมพะรักษ์ ผบ.ป.3 พัน.8 พ.ท.ภาษิต ประภาพักตร์ ผบ.ป.3 พัน 13 พร้อมด้วยนายทหาร ในสังกัด ปลัดเทศบาลเมืองบ้านทุ่ม ปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านทุ่ม , ผู้อำนวยการ รร.บ้านทุ่ม หัวหน้าส่วนราชการกำนัน-ผญบ.และชาวบ้าน ร่วมพิธีรับมอบในครั้งนี้
พ.อ.ปิยะพณห์ ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 (ผบ.ป.3) กล่าวว่าโครงการ“ทบ.ซ่อมแซม บ้านทั่วไทย เทิดไท้ ปีมหามงคล” ในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกในการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร รัชการที่ ๙ รวมทั้งเพื่อถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ ๑๐
พ.อ.ปิยะพณห์ ฐิตวัฒนานนท์
พ.อ.ปิยะพณห์ กล่าวอีกว่ากองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ร่วมกับ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3, เทศบาลเมืองบ้านทุ่ม ,โรงเรียนบ้านทุ่ม และ ประชาชนจิตอาสา ร่วมกันดำเนินการมอบบ้านให้กับนางมาลี สุดชา ซึ่งเป็นคุณยายของ ส.อ.พลนิกร ยศมาร ที่ได้รับการซ่อมแซมบ้านให้มีสภาพที่ดีขึ้นขอให้มีกำลังใจในการดำรงชีวิต เป็นราษฎรที่มีความขยันหมั่นเพียรมีความสุข ความเจริญ มีความจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ไทย สืบไป สำหรับโครงการนี้จะสำเร็จไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน
พ.ท.ภาษิต ประภาพักตร์
ด้านพ.ท.ภาษิต ผบ.ป.3 พัน 13 กล่าวว่าได้ดำเนินการซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับ นางมาลี สุดชา บ้านเลขที่ 20 หมู่ 5 บ้านเหล่าเกวียน ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่นซึ่งเป็นผู้ปกครองอุปการะเลี้ยงดู พลทหารพลนิกร ยศมาร (ชั้นยศในขณะนั้นก่อนปูนบำเหน็จ)โดยได้รับผลกระทบจากการเสียชีวิตของ กำลังพลของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ซึ่งได้รับมอบหมายจากหน่วยเหนือในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยห้วงวันหยุดสงกรานต์ ที่ผ่านมาสิบเอกพลนิกร ฯ ได้เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ กลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาท ในวันที่ 14 เม.ย. 62 แต่พลาดพลั้งถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างการ จนเสียชีวิต
พ.ท.ภาษิต กล่าวอีกว่าพลทหารนิกร ยศมารที่ได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ กองทัพบกได้ให้ความสำคัญกับความเสียสละของพลทหารพลนิกร ยศมาร จึงได้พิจารณาปูนบำเหน็จ และเลื่อนชั้นยศเป็น สิบเอกพลนิกร ยศมาร และดูแลสิทธิให้กับสิบเอกพลนิกร พร้อมเงินช่วยเหลือดูแลครอบครัวสิบเอกพลนิกร เป็นอย่างดียิ่ง นอกเหนือจากสิทธิ และการช่วยเหลือตามที่กองทัพบก และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือแล้ว กองทัพภาคที่ 2 โดย พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ดำริห์ให้หน่วยต้นสังกัดช่วยเหลือผู้ปกครองซึ่งอุปการะเลี้ยงดูสิบเอกพลนิกร ฯ ซึ้งมีฐานะยากจน ดำเนินการซ่อมแซมบ้านพักด้านที่อยู่อาศัย ให้ได้รับชีวิตความเป็นอยุ่ที่ดีขึ้นตอบแทนความเสียสละยิ่ง
พ.ท.ภาษิต กล่าวด้วยว่ากองพันทหารปืนใหญที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ในฐานะหน่วยต้นสังกัดที่รับผิดชอบในการจัดกำลังรักษาความสงบเรียบ จึงได้จัดชุดช่างร่วมกับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 กรมทหารปืนใหญ่ 3,เทศบาลเมืองบ้านทุ่ม ,ประชาชนจิตอาสา เข้าดำเนินการซ่อมแซมปรับปรุง โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 24 เม.ย. – 13 พ.ค. 62 โดยใช้งบประมาณในการซ่อมแซมทั้งสิ้น 56,400 บาท (ห้าหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน) บัดนี้การดำเนินการได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยสมบูรณ์ทุกอย่าง
นางมารี สุทธา
นางมาลี คุณยายของ ส.อ.พลนิกร ยศมาร กล่าวว่า การจากไปของหลานชายในครั้ง เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ตนแทบไร้ที่พึ่ง แต่ในความโชคร้ายต่อชะตากรรม ก็ยังมีคงามโชคดีหลงเหลือไว้ให้ โดยกองทัพได้เข้ามาดูแล เยียวยาความรู้สึก เข้ามาซ่อมแซมบ้านซึ่งก่อนหน้านี้ค่อนข้างทรุดโทรม หลังคามีรอยรั่วหลายจุด ทางกองทัพหยิบยื่นความช่วยเหลือดังที่กล่าวมาข้างต้น ตนก็มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไม่เดียวดาย ถึงแม้การที่กองทัพเข้ามาช่วยเหลือครั้งนี้จะเป็นยอดเงินที่ไม่สูงด้านวัตถุ แต่เทียบถึงการได้รับมันมีคุณค่าด้านจิตใจเป็นอย่างมาก ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือตนในยามที่ตกยาก จนตนมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง นับพระมหากรุณาธิคุณ อย่างล้นพ้นของ ร.10 ที่มีต่อผสกนิกร ของพระองค์ท่าน.