“อนุศาสตร์”แจง!คดียักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวน 431 ล้านบาทเศษ
นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้โพสต์ ข้อความคืบหน้าเคลื่อนไหวในคดียักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวน 431 ล้านบาทเศษ ใหม่ล่าสุดบนแอป TikTokตามที่สมาชิกส่วนหนึ่งได้สอบถามความเคลื่อนไหวในคดียักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวน 431 ล้านบาทเศษ
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่า ต่อกรณีที่ นายอนุศาสตร์ สอนศิลป์พงศ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ คณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้โพสต์ ข้อความคืบหน้าเคลื่อนไหวในคดียักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวน 431 ล้านบาทเศษ ใหม่ล่าสุดบนแอป TikTok ซึ่งสามารถ นำมาเรียบเรียง ใจความ ได้ดังนี้
เรียน พี่เพื่อน้องสมาชิกครอบครัวสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ที่รักและเคารพทุกท่าน ตามที่สมาชิกส่วนหนึ่งได้สอบถามความเคลื่อนไหวในคดียักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวน 431 ล้านบาทเศษ นั้น
กระผมนายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจในคดีดังกล่าวจนคดีจะถึงที่สุด ขอนำเรียนความเคลื่อนไหวให้สมาชิกทราบดังนี้
ตามที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นเป็นโจทก์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นโจทก์ร่วมได้ดำเนินคดี คดียักยอกทรัพย์เงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จำนวน 431 ล้านบาท กระผมขอนำเรียนมวลสมาชิก แยกเป็น 2 คดีดังนี้ คดี อ.89/2564 คดี อ. 258/2564 ในส่วนคดี อ.89/2564 จำเลยประกอบไปด้วย 1.นายนพรัตน์ สร้างนานอก 2.นายสมศักดิ์ โคตวงศ์ 3.นายนิวัฒร นิราศสูงเนิน 4.นางวราพร ธรณี ศาลได้มีคำพิพากษา ในวันที่ 29 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มีคำพิพากษายกฟ้อง
กระผมมิอาจก้าวร่วงคำพิพากษาดังกล่าว แต่ขออนุญาตสรุปสั้นๆว่า ศาลมองว่าการเบิกขอเงินจากบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ที่หายไปนั้นไม่มีเส้นทาง ทางการเงินที่โอนเข้าบัญชีบุคคลดังกล่าวศาลเลยยกฟ้อง เพราะเมื่อมีการเบิกถอนเงินแล้ว ได้โอนเข้าบัญชีนายเอกราช ช่างเหลา เพียงคนเดียว ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็ได้รับสารภาพ ต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงแม้ว่าศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องในส่วนของคดีแพ่ง ส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญานั้น ศาลก็มองว่าบุคคลดังกล่าว ต้องรับผิดในส่วนคดีแพ่ง อาจรับผิดในส่วนของคดีแพ่ง
เพราะฉะนั้นในตรงนี้ก็ขอเรียนว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ฟ้องคดีแพ่งตามคดี พฎ1/2564ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ประชุมครั้งที่ 22 /2566 ในวันที่ 20 ตุลาคม 2566 ได้มีมติรับทราบคำพิพากษาของศาล และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้รายงานนายทะเบียนทราบให้แจ้งทนายความ ซึ่งเป็นโจทย์ร่วมดำเนินการในทางคดีโดยการอุทธรณ์ หรือดำเนินการจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และได้มอบให้นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายได้ติดตาม ควบคุม กำกับ อย่างใกล้ชิด อันนี้ก็ได้กราบเรียนว่ากระผมได้ติดต่อประสานงานกับทีมทนายความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ในส่วนคดี อ 258/2564 จำเลยคือนายเอกราช ช่างเหลา ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็ได้รับสารภาพ ต่อศาลทุกข้อกล่าวหา และต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลก็คือ คืนเงินต้น และดอกเบี้ยให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี ในแต่ละปีต้องคืนเงินให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด อย่างน้อย 50 ล้านบาท บุคคลดังกล่าวในปี 2565 ได้คืนเงิน ให้กับสหกรณ์ฯแล้ว 50 ล้านบาทเศษ แต่บังเอิญว่าเป็นในช่วงปลายปีของสหกรณ์ เพราะฉะนั้นเงินก็มาเป็นกำไรของปี 66 เพราะฉะนั้นปี 66 ในปลายเดือนธันวาคมนี้ ถ้าบุคคลดังกล่าวได้มาชำระ คืนเงินให้กับสหกรณ์ฯอย่างต่ำ 50 ล้านบาท ให้อยู่ในปีเดือนธันวาคมของสหกรณ์ฯ ปี 66 ก็คงจะรวมเป็นรายได้ของสหกรณ์ฯ แต่ถ้าเงินเข้าบัญชี เดือนมกราคม 2567 ก็คงจะเป็นรายได้ในปี 67 จะเป็นรายได้ของปีไหนก็ไม่สำคัญขอให้เราได้รับเงินของเราคืน กลับสู่ระบบของสหกรณ์ฯ
เพราะฉะนั้นก็ขอให้มีความเชื่อมั่น ให้สมาชิกได้มีความเชื่อใจ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย เราต้องไม่เสียประโยชน์ ถ้ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร จะนำเรียนให้มวลสมาชิกได้ทราบต่อไป ก็กราบเรียนให้ท่านได้เพื่อจะได้หายข้อสงสัย ไม่ได้สอบถามเข้ามาอีก และวันที่ 18 มกราคม 2567 ศาลก็นัดฟังผลชำระเงิน และมีคำพิพากษา ในวันนั้น ในเวลา 9:00 น. เพราะฉะนั้นก็รอดูผลการชำระเงิน ภายในเดือนธันวาคม 2566 อย่างต่ำ 50 ล้านบาท ก็นำเรียนให้พี่น้องมวลสมาชิกได้รับทราบตรงกัน.
