วันเสาร์, 19 เมษายน, 2025

HeaderAD
HeaderAD
HeaderAD
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ติดตามผลโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพฯ นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) จ.ขอนแก่น

ผู้ตรวจการแผ่นดิน ติดตามผลโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพฯ นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) จ.ขอนแก่น

HeaderAD
HeaderAD
HeaderAD

ผู้ตรวจการแผ่นดิน ติดตามผลโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพฯ นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) จ.ขอนแก่น

ผู้ตรวจการแผ่นดินติดตามผลโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพฯนักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) จังหวัดขอนแก่น ชูจุดเด่น เรียนฟรี พักฟรี การันตีมีงานทำ มีเงินใช้และให้ครอบครัวระหว่างเรียน เน้นย้ำนำนักเรียนที่หลุดระบบไม่มีโอกาสเรียนให้ได้รับการฝึกฝนทักษะก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมืออาชีพ


วันนี้ 11 ธันวาคม 2567 ที่ ห้องประชุมสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 6 ขอนแก่น ขอนแก่น  นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายชวลิต ธูปตาก้อง ที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ,นางขนิษฐนันท์ อภิหรรษากร รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ลงพื้นที่ประชุมติดตามการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) ของจังหวัดขอนแก่น โดยมี นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ พร้อมรายงานข้อมูลโครงการฯ และมีนายเกษม สมสมัย รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 6 ขอนแก่น ตลอดจนผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม


นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ เป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนจบการศึกษาภาคบังคับแต่ขาดโอกาสในการศึกษาต่อ เป็นกลุ่มเปราะบางโดยมีความจำเป็นต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานทันทีเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัว ต้องหารายได้ช่วยเหลือจุนเจือทางบ้าน ซึ่งเด็กเหล่านี้มีสภาพเป็นแรงงานไร้ฝีมือถูกกดขี่ค่าจ้างได้ในอัตราแรงงานขั้นต่ำ โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพฯ นี้ เริ่มตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน กว่า 6 ปี แล้ว ที่ได้เข้ามาช่วยเด็ก ๆ ให้มีทักษะด้านอาชีพหลังจบการศึกษาภาคบังคับก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่ตลาดแรงงาน ให้เป็นแรงงานในฐานะ “แรงงานมีฝีมือ” กว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน และมีรายได้อัตราค่าจ้างที่สูงกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันที่กำหนดไว้ของแต่ละจังหวัด


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า จังหวัดขอนแก่นมีนักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อในระบบการศึกษาปีละหลายร้อยคน โดยในปี 2563 – 2567 มีนักเรียนเข้าร่วมอบรมในโครงการเพิ่มทักษะฯ รวม 147 คน ซึ่งจบหลักสูตรและมีงานทำแล้ว 92 คน ถือว่าประสบความสำเร็จต้องขอขอบคุณคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ อย่างไรก็ดี พบว่าผู้ที่เข้าฝึกอบรมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นส่วนใหญ่ไม่ใช่เด็กนักเรียนที่จบม.3 ในปีการศึกษานั้น ๆ เพียงแต่ยังอยู่ในเงื่อนไขอายุไม่เกิน 25 ปี
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น หน่วยงานในพื้นที่ต้องให้ความสำคัญกับเด็กที่จบล่าสุดแล้วหลุดออกจากระบบไปด้วยเหตุปัจจัยต่าง ๆ แล้วไม่มีโอกาสได้ฝึกทักษะอาชีพ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯได้นำเสนอแนวทางการเพิ่มจำนวนนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย โดยขอให้เพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์โครงการ ฯ ผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ กิจกรรมครูไปตรวจเยี่ยมบ้านนักเรียนในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี และการปรับรูปแบบการพานักเรียนกลุ่มเป้าหมายมาศึกษาดูงาน ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งนักเรียนกลุ่มเป้าหมายจะได้เห็นสถานที่ฝึกอบรมจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้าร่วมโครงการ ฯ ต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้ปกครองที่มีบุตรหลานที่จะจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ไม่สามารถส่งบุตรหลานเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไปได้ว่า ก่อนที่จะให้บุตรหลานเข้าสู่ตลาดแรงงาน อยากให้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเพื่อให้โครงการนี้ได้เข้าถึงทุกพื้นที่ผู้ปกครองได้เล็งเห็นและรับทราบประโยชน์ที่จะเกิดกับตัวเด็กทั้งเรียนฟรี พักฟรี การันตีมีงานทำ มีเงินใช้และให้ครอบครัวระหว่างเรียนอีกด้วย
ด้านนายเกษม สมสมัย รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 6 ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรการอบรมฯ ในปี 2568 นี้มีจำนวน 4 หลักสูตร ได้แก่ ช่างเย็บจักรอุตสาหกรรม (ผ้า) ช่างซ่อมและบำรุงรักษารถจักรยานยนต์ ช่างเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก และช่างไฟฟ้าในอาคาร ขณะนี้อยู่ขั้นตอนที่ 5 คือ ระหว่างการสำรวจและจำแนกนักเรียนกลุ่มเป้าหมายโดยหน่วยงานต้นสังกัดสถานศึกษาและโรงเรียน ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2568 แล้วจะเปิดอบรมหลักสูตรระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน 2568 นอกจากนี้ ยังมีมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนในพระบรมราชินูปถัมภ์ มอบทุนช่วยเหลือจำนวน 120 ทุนๆละ 4,500 บาทอีกด้วย.

3bb-ad
3bb-ad

About The Author

Related posts

HeaderAD
HeaderAD
HeaderAD