“รายงานพิเศษ”
เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน 3 แผ่นดิน ขอนแก่นพบกับเรื่องราวการเดินทาง วิถีชีวิต ธุรกิจ ธุรกิจเก่าแก่ ‘รากจีน-เวียดนาม ในย่านเศรษฐกิจศรีจันทร์’ตำนาน ศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่า ธุรกิจเก่าแก่ ในย่านเศรษฐกิจศรีจันทร์ เศรษฐกิจดั่งเดิม ของ จ.ขอนแก่น
ต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปี 2568 ขอเชิญ พบกับเรื่องราวการเดินทาง วิถีชีวิต ธุรกิจ’รากจีน-เวียดนาม ในย่านเศรษฐกิจศรีจันทร์’จากย่านเศรษฐกิจแห่งแรกของขอนแก่น สู่ศูนย์กลางธุรกิจสร้างสรรค์และความบันเทิง กับการจัดงานตรุษจีน สามแผ่นดิน จังหวัดขอนแก่น โดย หอการค้าจังหวัดขอนแก่น และ YEC Khon Kaen ที่จะพาคุณย้อนเวลาไปสำรวจรากของชาวจีน – เวียดนามที่อพยพมายังขอนแก่น พร้อมสร้างฐานธุรกิจใน ย่านเศรษฐกิจศรีจันทร์
ถนนศรีจันทร์ ถนนสายสำคัญใจกลางเมืองขอนแก่น ที่ทอดยาวพร้อมประวัติศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงของเมืองมาอย่างยาวนาน นี่คือจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยธุรกิจที่ก่อตั้งโดยชาวจีน-เวียดนามอพยพ ย่านแห่งนี้จึงเป็นศูนย์รวมของเรื่องราวที่สะท้อนถึงความพยายาม ความหวัง และวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ที่จะมาเปิดเผยเบื้องหลังความสำเร็จ วิถีชีวิต และประวัติความเป็นมาของการตั้งร้านในย่านเศรษฐกิจศรีจันทร์ ตลอดเดือนนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล ตรุษจีนสามแผ่นดิน ไทย – จีน – เวียดนาม การรวมตัวของพหุวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีในขอนแก่นและสามารถรับชมนิทรรศการ รากจีน-เวียดนาม ในเทศกาลตรุษจีน 3 แผ่นดินขอนแก่น พร้อมงานเสวนาเล่าเรื่องราว และการสาธิตอาหารดั้งเดิม ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2568 ณ ศาลหลักเมืองจังหวัดขอนแก่น
แฟรี่ พลาซ่า ‘ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ประจำเมือง สถานที่เติมเต็มทุกมิติการใช้ชีวิต’จากต้นตระกูลแซ่โง้ว เริ่มต้นจากอากง ชาวจีนผู้เดินทางอพยพจากเมืองซัวเถา ประเทศจีน เดินทางโดยเรือสำเภามายังประเทศไทยอากงมีลูก 5 คน หนึ่งในนั้นคืออาป๊า คุณวรพงษ์ พัฒนพีระเดช ซึ่งเกิดที่ขอนแก่น แล้วกลับไปเรียนเมืองจีน จากนั้นกลับมาไทยอีกครั้งระหว่างที่แวะพักที่ จ.นครราชสีมา ที่ร้านโชว์ห่วยเจ้าใหญ่ชื่อ “หน่ำเฮง” แหล่งชุมชนชาวจีนที่ใครจะมาหรือไปต้องแวะที่นี่ ได้พบกับคุณซิว ภรรยา แล้วย้ายมาที่ขอนแก่น ในปี พ.ศ.2491
จ.ขอนแก่น ตอนนั้นเป็นเมืองที่เรียบง่าย ไม่คึกคักเท่าที่ควร อาป๊าเริ่มต้นด้วยจักรเย็บผ้าหลังเดียว ใช้การเซ็นผ้านำมาเย็บกางเกงส่งขาย และได้ช่วยงานที่ร้านของพี่สาวในห้างห้องแถว “เหล่าเตียงเฮง” ต่อมามีเถ้าแก่มาเซ้งร้าน โดยว่าจ้างให้อาป๊าเป็นหลงจู๊ดูแลร้าน “กิมฮง” และเริ่มต้นทำธุรกิจเองในชื่อร้าน “ฮั่วหลี”
ซึ่งมีคุณซิวภรรยาเป็นผู้ดูแล ในปี พ.ศ.2506 ให้กำเนิดพี่ชายคนโตคุณพีระพล ได้ขยายร้านใหญ่ขึ้น จึงต้องกลับมาช่วยดูแลกิจการ จึงปิดฮั่วหลีและไปเช่าที่จากร้านกิมฮงเปิดเป็น “แฟรี่ศรีจันทร์” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ.2509 เมื่อเปิดกิจการไป ได้ดีจนเพิ่มเป็น 3 ห้องต่อกันมีทั้งการขายส่งและขายปลีก ก่อนขยายสาขาเปิด “นิวแฟรี่” เพื่อขายรองเท้า BATA
ซึ่งมีคุณโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ เป็นผู้ดูแล ต่อมาในปี พ.ศ.2521 ได้เปิด “แฟรี่ทาวน์” บนถ.รื่นรมย์ เป็นห้างที่สมบูรณ์มีแผนก มีชุดยูนิฟอร์ม มีแคชเชียร์เป็นครั้งแรก ต่อมาปีพ.ศ.2527 ได้ขยาย“แฟรี่ศรีจันทร์” เป็น“จูวีไนล์” และได้เปิดห้างใหม่ในชื่อ “แฟรี่พลาซ่า” ที่ ถ.ศรีจันทร์ปีพ.ศ.2531
ซึ่งเป็นห้างแรกในอีสานที่มีบันไดเลื่อน ซึ่งในช่วงแรกยังไปได้ไม่ดี แต่เมื่อกิจการเติบโตขึ้นได้ขยายห้างใหม่โครงการ 2 ปีพ.ศ.2535 ใหญ่เป็น 2 เท่าลูกทุกคนจึง ได้ออกจากงานประจำมาช่วย และปรับแฟรี่ทาวน์เป็น “แฟรี่ไนท์บาซ่า” จากนั้นไม่นานจุดเปลี่ยนคือ เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ พ.ศ.2538
ซึ่งตอนนั้นผูกสัญญาเป็น CRC ขอนแก่นกับทางโรบินสันแล้ว ห้างเสียหายจนต้องย้ายของไปเช่าโกดังเปิด “แฟรี่มะลิวัลย์” ก่อนจะเริ่มสร้าง “แฟรี่พลาซ่าโครงการ 3” หรือ“แฟรี่กลางเมือง” พ.ศ. 2539 โดยมีทีมโรบินสันช่วยสร้างใช้เวลาเพียง 150 วัน จึงเป็นแฟรี่หลักในปัจจุบัน
จากนั้นพ.ศ. 2555 ได้เปิด “ตลาดต้นตาล” ที่ร่วมหุ้นกับวราสิริ และเปิดศูนย์ค้าส่งอู้ฟู่ ในเวลาต่อ ปัจจุบันได้ร่วมดูแลโดยทายาทรุ่นที่ 3 คุณณิชกานต์ พัฒนพีระเดช แฟรี่พลาซ่านั้นจึงมีบทบาทสำคัญต่อวงการห้างสรรพสินค้าภูธรที่รู้จักเรียนรู้ ปรับตัว มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ที่พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงศูนย์สรรพสินค้าแฟรี่ พลาซ่า บริหารงานโดยนางโฉมสุดา วโนทยาโรจน์ และนางสาวณิชกานต์ พัฒนพีระเดช ก่อตั้ง เมื่อพ.ศ. 2509.
นายชูไทย วงศ์บุญมี /รายงาน/นางสาวอุมาพร โพธิ์สุดตา /พิมพ์/ข้อมูล
