“สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด” จัดประชุมใหญ่วิสามัญปี 2568
เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบการเบิกเงินสหกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ที่ประชุม ผู้แทนสมาชิกฯ ยกมือ ท่วมท้น ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ยื่นฟ้อง ต่อศาล เองในกรณีที่ตำรวจสรุปสำนวน คดีที่ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัดเกิดความเสียหาย ส่งอัยการและศาลไม่ทันตามข้อกำหนดเกรงว่าจะขาดอายุความ ต่อยอดให้คณะกรรมการดำเนินการชุดต่อไป ดำเนินความคดีความอาญาและคดีแพ่งให้ถึงที่สุด
เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ 15 มีนาคม 2568ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นประธานประชุมใหญ่วิสามัญ ปี 2568 เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบการเบิกเงินสหกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โดยมี นายศักดา ชัยภัย ผอ.สพม.ขอนแก่น ตลอดจนตัวแทน ผอ. สพป. ขอนแก่น เขต 1-5 ,นายเสถียร เคนชมภู ที่ปรึกษาด้านสหกรณ์,นายเอนก ทิพย์บรรจง ที่ปรึกษาด้านการเงิน ตลอดจนคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 63 ได้แก่ 1. นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการ 2. นายสุพรรณ ศรีตะวัน รองประธานกรรมการ,นายบุญมี เชาระกำ รองประธานกรรมการ, นายศุภกิจ สานุสัตย์ รองประธานกรรมการ, นายสุพรรณ ประพาศพงษ์ รองประธานกรรมการ,นายพัฒนา ยอดสะอึ รองประธานกรรมการ,นายปิโยรส ถนอมดำรงศักดิ์ เลขานุการ,นายบดินทร์ บุญลือ เหรัญญิก ,นายเพ็ชรัตน์ อ่างยาน กรรมการ, นายสุเทพจินดา สีแก้วรัตนะ กรรมการ, นางวลัยลักษณ์ อินนอก กรรมการ, นายบัญชา มณีจันทร์ กรรมการ,นางเยาวเรศ บู่แก้ว กรรมการ,นายสมบูรณ์ อริย์โรจน์พิพัฒน์ กรรมการ,นายกีระพงศ์ ผาภูมิ กรรมการ ตลอดจนฝ่ายจัดการ อันมี นางอารยา ศรีเมืองช้าง ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด, นางพรทิพย์ เหล่าวีระ รองผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด และนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ซึ่งมีจำนวนผู้แทนสมาชิกเข้าประชุมใหญ่วิสามัญ ปี 2568 ผู้แทนสมาชิกจำนวน 506 คน มีผู้แทนสมาชิกที่มาประชุมจำนวน 416 คน ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนร่วมทำข่าว
นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เปิดเผยว่าที่ประชุมมีมติให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ ปี2568 เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบการเบิกเงินสหกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ซึ่งข้อเสนอที่ประชุมเพื่อโปรดพิจารณา 1.รับทราบผลการตรวจสอบ 2.พิจารณาให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการดำเนินการ เพื่อมิให้สหกรณ์ฯเกิดความเสียหาย พร้อมมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คณะกรรมการดำเนินการ ชุดต่อไปฟัองร้องดำเนินคดีทั้ง คดีความอาญา และคดีแพ่ง กับนายเอกราช ช่างเหลาและพวก รวม 14 คน และบุคคลอื่นหากปรากฏพบในข้อหาความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ และลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้างตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 มาตรา 334 และมาตรา 335 (11)จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ที่ประชุมพิจารณา ยกมือรับหลักการ เป็นมติเอกฉันท์
ดังระเบียบวาระการประชุมใหญ่วิสามัญ ดังนี้ระเบียบวาระที่ 1. เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ 1.1 แนะนำผู้เข้าร่วมประชุม ระเบียบวาระที่ 2. เรื่องรับรองรายงานการประชุมครั้งที่แล้ว (ไม่มี) ระเบียบวาระที่ 3. เรื่องเสนอให้ที่ประชุมทราบ3.1 รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 คดีหมายเลขดำที่ อ258/2564, คดีหมายเลขแดงที่ อ1148/25663.2 แนวทางปฏิบัติตามประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินดอกเบี้ยกองทุนสวัสดีการเดิม ก.ส.ส. 1-6 และ กสช. 1-3 ระเบียบวาระที่ 4. เรื่องเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 4.1 พิจารณาผลการตรวจสอบการเบิกเงินสหกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดระเบียบวาระที่ 5. เรื่องอื่น ๆ และระเบียบวาระที่ 6. เรื่องทบทวนและรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญ
เกี่ยวกับการประชุมในครั้งนี้ นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่าด้วยคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เห็นควรให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบการเบิกเงินสหกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารงานของสหกรณ์อมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จึงขอเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ
อาศัยอำนาจตามความในข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พ.ศ.2566 หมวด 7 การประชุมใหญ่ ข้อ 63 (1) การประชุมใหญ่วิสามัญ คณะกรรมการดำเนินการจะเรียกประชุมใหญ่เมื่อใดก็สุดแต่เห็นสนสมควร ข้อ 64 การประชุมใหญ่โดยผู้แทนสมาชิก สหกรณ์ที่มีสมาชิกมากกว่า 500 คน ให้ประชุมโดยผู้แทนสมาชิกเท่านั้นประกอบกับมติคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 63 ในคราวประชุมครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ จึงขอเชิญผู้แทนสมาชิกเข้าประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 3568 เวลา 09.00 น.ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
ซึ่งในระเบียบวาระที่ 3. เรื่องเสนอให้ที่ประชุมทราบ 3.1 รายงานกระบวนพิจารณา ศาลจังหวัดขอนแก่น วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 คดีหมายเลขดำที่ อ258/2564, คดีหมายเลขแดงที่ อ1148/2566 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น.ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดี หมายเลขดำที่ อ258/2564, คดีหมายเลขแดงที่ อ1148/255566 นัดฟังคำพิพากษาวันนี้ โจทก์โจทก์ร่วม ทนายโจทก์ร่วม ทนายจำเลยนายวิชัย อ่อนเบ้า นายอุดม สงวนชม สมาชิกสหกรณ์ฯ มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา
ทนายจำเลยยืนคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่า ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลือนคดีอ้างว่า ทนายจำเลยได้รับแจ้งจากจำเลยว่าเจ็บป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ และกรตไหลย้อน ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาโท 2 กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ในวันนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล ความละเอียดแจ้งแล้วนั้นศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามใบรับรองแพทย์ฉบับลงวันที่วันนี้ พญ.จามรี โสธนะพันธ์ แพทย์โรงพยาบาบาลพญาไท 2 มีความเห็นว่า “เห็นสมควรให้เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลนี้จริง ระหว่าง 10 กุมภาพันธ์ ถึง…” และมีความเห็นในข้ออื่นๆว่า “ผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุไปรับการรักษาที่คลินิกได้ยาอาการไม่ดีขึ้น มีภาวะขาดน้ำไอเสมหะไม่ออก ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากต้องให้นำเกลือ ให้ยาปฏิชีวนะ และให้ยาพ่นขยายหลอดลม” แสดงว่าแพทย์มีความเห็นในทำนองยืนยันยันว่า อาการป่วยของจำเลยต้องเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วย
ภายในโรงพยาบาล ทำให้วันนี้จำเลยไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ โดยแพทย์ก็มีได้ระบุระยะเวลาการรักษาว่าว่าจำเลยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเท่าใด น่าเชื่อได้ว่าจำเลยป่วยถึงกับจะมาศาลไม่ได้ กรณีมีเหตสมควรตามคำร้อง จึงอนุญาตให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันวันที่ 17 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. กำชับจำเลยหากในนัดหน้ามีการขอเลื่อนอีก ศาลจะพิจารณาสั่งอย่างเคร่งครัด โดยรายละเอียดตามรายงานกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อ258/2564 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568
ส่วน ระเบียบวาระการประชุมที่ 3.2 แนวทางปฏิบัติตามประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการจ่ายเงินดอกเบี้ยกองทุนสวัสดิการเดิมก.ส.ส. 1-6 และ กสช. 1-3 อ้างถึงประกาศสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ จ่ายเงินดอกเบี้ยกองทุนสวัสดิการ เดิม ก.ส.ส.1-6 และ กสช.1-3ตามมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมมีมมีมติอนุมัติแนวปฏิบัติในการจ่ายคืนเงินดอกเบี้ยกองทุนสวัสดิการเดิม ก.ส.ส.1-6 และ กสช.1-3 อันเกิดจากการยกเลิกกองทุนดังกล่าว ตามคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ที่ 43/2564 โดยยึดแนวทางตามคำพิพากษาศาศาลฎีกาที่99/2566 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ให้สหกรณ์ดำเนินการจ่ายคืนเงินดอกเบี้ยตามอัตราเวลาที่ศาลกำหนด เพื่อให้ข้อพิพาทยุติลง สร้างความเป็นธรรมแก่สมาชิก และรักษาความมั่นคงของการดำเนินการสหกรณ์ฯ
ได้กำหนดมาตรฐานในการแก้ไขปัญหา เยียวยา และชดเชยแก่สมาชิกที่ำด้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน โดยยึดหลักการปฏิบัติที่เสมอภาคและเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ว่าด้วย การดำเนินงานและการกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนียน พ.ศ. 2564 ข้อ 20 ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการแผนงานและงบประมาณสอดคล้องกับแผนพัฒนาการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ประจำปี 2568-2570 รวมทั้งการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของสหกรณ์ตามกฎกระทรวง ว่าด้วย การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของสหกรณ์ พ.ศ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจตามข้อบังคับสหกรณ์ พ.พ.ศ. 2566 ประกอบกับมติคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ชุดที่ 63ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ การจ่ายเงินดอกเบี้ยกองทุนสวัสดิการเดิม ก.ส.ส.1-6 และ กสช.1-3 กรณี ยกเลิก กองทุนสวัสดิการ ก.ส.ส.1-6 และ กสช.1-3 ดังนี้ 1. หลักเกณฑ์การจ่ายเงินดอกเบี้ยการดำเนินการจ่ายเงินดอกเบี้ยกองทุนสวัสดิการเดิม ก.ส.ส.1-6 และ กสช.1-3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายให้กับสมาชิก โดยจะดำเนินการจ่ายให้กับผู้มีสิทธิ์ภายในระยะเวลา 3ปี แบ่งจ่ายคืนเป็นรายปี ในจำนวนที่เท่าๆ กันตามกำหนดการ ดังนี้งวดที่ 1 : ปี พ.ศ. 2568,งวดที่ 2 : ปี พ.ศ. 2569 งวดที่ 3 : ปี พ.ศ. 2570
และระเบียบวาระที่ 4. เรื่องเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 4.1 พิจารณาผลการตรวจสอบการเบิกเงินสหกรณ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เนื่องด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) มีคำสั่งให้ถ้อยคำตามหนังสือ(ลับ) ด่วนที่สุดที่ ปช 0028/0200 ลงวันที่ 23 มกราคม 2568 ขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการจุดซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาเพื่อจำหน่ายและอำนาจหน้าที่ในโครงการดังกล่าวของนายเอกราช ช่างเหลา ในฐานะผู้จัดการสหกรณ์ฯ ขณะนั้น รวมทั้งขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายการฝากเงินหรือโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคาร ชื่อบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เข้าบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เข้าบัญชีเงินฝากธชื่อบัญชี นายเอกราช ช่างเหลา ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
ในคราวประชุมคณะกรรมการดำเป็นการชุดที่ 63 ครั้งที่ 1/2568 วันที่ 29 มกราคม 2568 อนุมัติเป็นเอกฉันท์ 1.รับทราบข้อมูลหนังสือ ที่ ปช 0028/0200 ลงวันที่ 23 มกราคม พ.ศ.2568 จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ในวันนี้วันที่ 29 มกราคม 256666 2.เพื่อให้เกิดความรอบคอบเป็นประโยชน์สูงสุดกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด จึงขอเลื่อนการส่งบุคคล เพื่อที่จะให้ถ้อยคำต่อพนักงานไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) และ3.อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และแจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ป.ช.ต่อไป
สหกรณ์ฯตั้งคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงที่ 6/2568 ลงวันที่ 29 มกราคม 2568 ตรวจสอบจากพยานหลักฐานได้แก่ รายงานประจำปี หมวดงบประมาณรายจ่ายประจำปี วาระกรรมการก่อนที่จะมีการเบิกจ่าย ต้นขั้วเช็คทะเบียนจ่ายเช็ค เอกสารการจ่ายประจำวัน รายการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคาร และได้รายงานผลต่อคณะกรรมการในคราวประชุมคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 63 ครั้งที่ 3/2568 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ในระเบียบวาระที่ 4.1 พิจารณารายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ที่ 6/2568 ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2568 ซึ่งการตรวจสอบได้พบความผิดปกติของ การเบิกจ่ายฯรายการดังกล่าว.