ชาวบ้าน ขก.กว่า1,000 แห่มอบดอกไม้ให้กำลังใจพระ “คดีรุกที่ป่าช้า”
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ก.พ. ที่ ศาลจังหวัดชุมแพ ถ.มะลิวัลย์ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จากกรณี ที่ศาลจังหวัดชุมแพ ได้นัดปรองดองไกล่เกลี่ยในคดีที่มีผู้ที่ฟ้องร้อง ดำเนินคดีกับพระอาจารย์ชัยชนะ ภูริญาโณ เจ้าอาวาส สำนักปฏิบัติธรรมบ้านดอนหันโนน หินแห่ ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ในข้อหา1.ทำเมรุเผาศพ 2.สร้าง ศาลาพักศพ 3. จัดสร้างห้องน้ำและ 4 ทำเล้าไก่ บนพื้นที่สาธารณประโยชน์ ป่าช้าบ้านดอนหัน ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือ ส่งสำนวนคดีให้อัยการ จ.ชุมแพ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลชุมแพ เป็นคดีหมายเลขดำ ลงวันที่ 3 เดือนธันวาคม 2561 โดยมีนายประจวบ รักแพทย์ นายอำเภอหนองเรือ , พ.จ.อ.กฤษฏิ์ หาญวงษ์ษา นายกเทศบาลตำบลโนนสะอาด และ นายสมัย พั้วทา ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอน หันหมู่ 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร่วมเข้าประชุมปรองดองไกล่เกลี่ยในคดีดังกล่าว พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ จินดาวิชชุ เป็นทนายความว่าความคดี และมีคณะศิษย์ยานุศิษย์ สาธุชน และชาวบ้านกว่า 1,000 คนร่วมให้กำลังใจ และมอบดอกไม้แก่พระอาจารย์ชัยชนะ ภูริญาโณ
พระชัยชนะ ภูริญาโน
พระชัยชนะ ภูริญาโน เจ้าสำนักสงฆ์ศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านดอนหัน กล่าวว่าการมาศาลจังหวัดชุมแพ ในวันนี้เพื่อมารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ที่ท่านนายอำเภอหนองเรือ พร้อมด้วยนายกเทศบาลตำบลโนนสะอาด และผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนหัน หมู่9 ที่เป็นโจทก์ร่วม ได้แจ้งความเรื่องสร้างเมรุเผาศพ สร้างศาลาพักศพ และก่อสร้างห้องน้ำ บนบนพื้นที่สาธารณประโยชน์ ป่าช้าบ้านดอนหัน ซึ่งศาลท่านนัดตัดสินคดีครั้งสุดท้าย อีกคือวันที่ 19 มีนาคม 2562 ซึ่งก็แล้วแต่ดุลพินิจของศาลท่านในการตัดสิน ซึ่งตัวพระอาจารย์เป็นจำเลย โดยที่ทุกคนจะยอมรับการตัดสินของศาลจังหวัดชุมแพ ในวันดังกล่าว
พระชัยชนะ กล่าวอีกว่า ถ้าขืนยังต่อสู้คดีต่อไปอีก เรื่องมันคงจะยืดยาวต่อไป พระอาจารย์เลยรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ต่อจากนั้นจึงรอการวินิจฉัยของศาลตัดสินคดีในครั้งต่อไป คือวันที่ 19 มี.ค.62 จึงฝากให้ญาติธรรมและอุบาสกอุบาสิกา ทั้งประเทศ ได้มารอฟังตัดสินวินิจฉัยของศาลอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายฝากถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกคนให้มาช่วยกันพิจารณาช่วยคิด ตรึกตรองหาทางออกให้ดีที่สุด แต่พระอาจารย์ได้คุยกับท่านนายอำเภอแล้ว ให้หาทางออกให้ ดีที่สุดเพราะว่ามันเกี่ยวกับการสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชนและพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ตัวอย่างเช่นการสร้างเมรุเผาศพ สร้างศาลาพักศพ และการสร้างห้องน้ำ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนเมรุเผาศพป่าช้าบ้านดอนหัน นั้นได้ทำการก่อสร้างจากชาวบ้านจากโครงการ(SML.)มาตั้งแต่ ปี 2555 แต่ตัวพระอาจารย์ ฯกลับเข้ามาอยู่จำวัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมบ้านดอนหันโนน หินแห่ ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ในปี 2557 แต่ไม่รู้ว่าจะผิดกฎหมาย จะนำความเดือดร้อนไปถึงท่านนายอำเภอหนองเรือ ส่วนเรื่องการสร้างเมรุเผาศพ ศาลาพักศพ และเล้าไก่ ได้มาจากการทอดผ้าป่าของลูกหลานคณะศิษย์ยานุศิษย์ ที่อยู่กรุงเทพฯ รวบรวมจัตุปัจจัยในการสร้าง แต่มันก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี ตัวพระอาจารย์วันนี้เลยรับสารภาพ ดังนั้นขอฝากให้ทุกคนมาฟังคำวินิจฉัยของศาลคือวันที่ 19 มีนาคม 62 อีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
นายสมานจิตต์ ผุยชา
นายสมานจิตต์ ผุยชา อายุ 75 ปี อาชีพค้าขายชาวบ้านดอนหัน ศิษย์ยานุศิษย์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า โดยความเป็นจริงแล้วตัวพระชัยชนะ ภูริปัญโญ เป็นพระที่มีจริยวัตรอันดีงาม น่าเคารพเลื่อมใส เพราะนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ที่ท่านได้เข้ามานั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตลอดจนตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นบนพื้นที่ป่าช้าบ้านดอนหันแห่งนี้ ได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดระยะเวลา 5 ปี ช่วยเหลือราชการเอกชน งานมูลนิธิและโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิเช่นภัยน้ำท่วมประเทศเนปาล น้ำท่วมที่สปป.ลาว ช่วยเหลือ รพ.สต.กว่า100 แห่ง ตลอดจนช่วยเหลือมอบผ้าห่มต้านภัยหนาวมากกว่า 2000 ผืน มอบชุดนักเรียนมากกว่า 1,000 ชุด มอบทุนการศึกษา 1,000 ทุน ช่วยเหลือมูลนิธิคนตาบอดคนพิการที่ยากจน ผู้สูงอายุผู้ป่วยติดเตียงจำนวนกว่า 500 คน มอบถุงยังชีพแก่คนยากไร้คนพิการขาดแคลนมากกว่า 3,000 ชุด มอบปุ๋ยพันธุ์ข้าวข้าวสารอาหารแห้งเพื่อประกอบสัมมาชีพจำนวน 300 ครอบครัว เพื่อนำไปใช้อย่างครอบครัวในชุมชน และกลุ่มแม่บ้านกว่า 150 กลุ่ม มาโดยตลอดระยะเวลา 5 ปี ตลอดจนได้ก่อสร้างบูรณะวัด และโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สถานีอนามัย มอบเครื่องมือแพทย์ และช่วยเหลือสังคมอีกมากมาย ที่สำคัญท่านเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจคณะศิษย์ยานุศิษย์ สาธุชน และชุมชน เป็นอย่างมาก
นายประจวบ รักแพทย์
ด้านนายประจวบ นอภ.หนองเรือ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการไกล่เกลี่ยหาทางออกที่ดีที่สุด คือการตัดสินของศาลท่าน ที่ใช้หลักการของนิติศาสตร์กับทุกฝ่าย โดยทุกฝ่ายได้เห็นพ้องต้องกัน ว่าควรที่จะหลังจากที่ศาลตัดสินแล้ว คงจะยึดหลักของพี่น้องทุกฝ่ายในหมู่บ้าน ในชุมชน ในเขตตำบล มาดูกันว่าพื้นที่ได้มีการใช้ประโยชน์ไปแล้วนั้น ต้องมาดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆเพื่อเพื่อดำเนินการใช้ประโยชน์ต่อไป ต้องมาดูข้อกฎหมายว่าจะมีช่องทางใด ทำได้ด้วยบ้าง เมื่อเห็นพ้องต้องกันเราก็จะทำเป็นกิจกรรมที่ดีเพื่อให้เด็กและเยาวชนมาเรียนรู้ในพื้นที่ตรงนี้ต่อไป
นายประจวบ กล่าวอีกว่าซึ่งทราบว่าทางท่านพระชัยชนะ ท่านได้ตั้งใจดีที่สร้างหุ่นขี้ผึ้งสร้างรูปภาพต่างๆซึ่งเหมาะสมที่จะให้ เด็กหรือเยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้เข้ามาเรียนรู้ ซึ่งในการก่อสร้างนั้นก็เกิดมาจากจิตศรัทธาของคนหลายคนให้ ซึ่งการบริจาคเงินแล้วมาสร้าง ก็ต้องมาดู ช่องทางที่กฎหมายที่เปิดช่องให้ทำได้ เราก็จะเดินตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ โดยจะใช้กิจกรรมนี้สร้างความปรองดองของคนในพื้นที่. ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะมีพี่น้องไม่เข้าใจกันในบางจุด ขั้นตอนต่อไปก็คือให้พี่น้องทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน แล้วก็ร่วมกันใช้พื้นที่นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งโดยหลักการเดิมที่เคยทำไว้ก็คือเรื่องสร้างความปรองดองของประชาชนในพื้นที่เพราะทุกคนทุกฝ่ายก็เราเป็นเมืองพุทธ ก็ต้อง ยึดถือของสถาบันชาติ ศาสนา และกษัตริย์ในเมื่อพระสงฆ์อยู่ในพื้นที่ เราก็ต้องช่วยกันดูแลพระสงฆ์ในพื้นที่ ซึ่งเราจะไม่พูดถึงความไม่เข้าใจกันที่ผ่านมา ก็ขอให้จบลงได้ด้วยดี ซึ่งต่อไปนี้ทางไปบ้านเมือง ทั้งทางอำเภอ พร้อมทั้งฝ่ายเทศบาลหรือฝ่ายชาวบ้านก็ต้องมาประชุมกันปรึกษาหารือกันหาทางออกที่ดี เพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ต่อไป.
