กระหึ่ม!โลกโซเชียล มข. ติดอันดับ1 มหาวิทยาลัยไทย
จากการที่“THE” หรือ Times Higher Education สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก จากประเทศอังกฤษ ประกาศผล“THE Social Impact Ranking 2019” หรือมหาวิทยาลัยที่ดำเนินภารกิจเพื่อสังคม พบว่า มข. ติดอันดับ1 มหาวิทยาลัยไทย
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่สำนักงานที่สำนักงานอธิการบดีชั้น6 ตึกสิริคุณากร มข. รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ในเรื่องที่สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 “THE” หรือ Times Higher Education สถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก จากประเทศอังกฤษ ที่ทุกมหาวิทยาลัยในประเทศไทยและทั่วโลกให้การยอมรับในการจัดอันดับ ได้ประกาศผลอันดับมหาวิทยาลัย จากการประกาศผล “THE Social Impact Ranking 2019” หรือมหาวิทยาลัยที่ดำเนินภารกิจเพื่อสังคม พบว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 101-200 ของโลก และอันดับ 1 ของประเทศไทย เกี่ยวกับรายละเอียดในเรื่องนี้
รศ.นพ.ชาญชัย. พานทองวิริยะกุล
รศ.นพ.ชาญชัย อธิการบดี มข.กล่าวว่าในปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกที่ Times Higher Education ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยด้าน Social Impact Ranking 2019 เพิ่มเข้ามาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งผลปรากฎว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย โดยครั้งนี้มีมหาวิทยาลัยทั่วโลกที่เข้ารับการจัดอันดับกว่าหนึ่งพันแห่ง ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีอุดมการณ์ที่ต้องทำตามนั้นก็คือเป็นมหาลัยแห่งการอุทิศเพื่อสังคมเพราะได้ทำโครงการต่างๆที่ไปช่วยเหลือชุมชนในภาคอีสาน อย่างน้อย 3 ด้านที่มีความชัดเจน เช่น1.ทางด้านการศึกษา มข.มีโครงการคณิตศาสตร์ศึกษา และโครงการ (Smart Learning ) ด้วยการเข้าไปช่วยโรงเรียนประถมและมัธยมในการยกระดับคุณภาพการศึกษา
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวด้วยว่า ในด้านทางสังคม ก็มีโครงการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านอาชีพและ ความเป็นอยู่ของประชาชนและบริการไปส่งเสริมอาชีพ เข้าไปช่วยเรื่องการเกษตรปลูกพืชที่เป็นอาหารปลอดภัยแล้วก็ทำให้ประชาชนครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้นจะต้องมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันนี้ ทาง มข.ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง การที่ THE (Time Higher Education) ซึ่งเป็นองค์กรการจัดอันดับระดับโลกที่สำคัญได้ประกาศผลการจัดอันดับให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นอยู่ในกลุ่มอันดับ 101-200 ของโลก และอยู่ในอันดับหนึ่งของประเทศไทยนั้น เกิดจากโครงการแก้จน ที่ประกอบไปด้วยโครงการย่อย 4 โครงการ 1.โครงการพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี โดยมี รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีแก้ว คณะแพทยศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ เข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัด ภาคเหนือ 8 จังหวัด และภาคตะวันออกอีก 1 จังหวัด นอกจากนี้ยังเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการคัดกรองผู้ป่วยใน สปป.ลาว 2.โครงการพัฒนาการคิดคณิตศาสตร์ขั้นสูง โดยมี รศ.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ คณะศึกษาศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ ได้มีการถ่ายทอดนวัตกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้กับครูและผู้บริหารของโรงเรียนต่าง ๆ ใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ภาคเหนือ 6 จังหวัด ภาคใต้อีก 2 จังหวัด3.โครงการแก้ปัญหาความยากจน โดยมี รศ.รังสรรค์ เนียมสนิท สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และประสานความร่วมมือในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นหัวหน้าโครงการำ ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรใน 4 จังหวัด ขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธ์ และมหาสารคาม และ4โครงการป้องกันและชะลอโรคไตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีรศ.พญ.ศิริรัตน์ อนุตระกูลชัย คณะแพทยศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ ในการให้ความรู้ที่เกี่ยวกับโรคไตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด และภาคใต้อีก 3 จังหวัด
รศ.นพ.ชาญชัย กล่าวอีกว่าทั้งนี้หลายคนคงทราบดีว่าตลอดหลายปีมานี้ มข.ขับเคลื่อนภารกิจต่างๆภายใต้ทิศทางมหาวิทยาลัยอุทิศเพื่อสังคม หรือ Social Devotion ซึ่งส่งผลให้ภาพของ Social Impact ของมข.ปรากฎผลชัดเจนและนำไปสู่การได้รับการจัดอันดับดังกล่าว การดำเนินภารกิจด้านการวิจัยก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักที่สำคัญของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่สร้างผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ เป็นเอกลักษณ์ในหลากหลายประเด็น ทั้งทางการแพทย์การสาธารณสุข และสุขภาพเขตร้อน ด้านอาหารและอาหารเพื่อสุขภาพ เรื่องการบริหารจัดการลุ่มน้ำแบบองค์รวม คณิตศาสตร์ศึกษาและวิทยาศาสตร์ศึกษา
ด้านพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพลุ่มน้ำโขง ศิลปะ วัฒนธรรม และสังคมอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ธุรกิจ เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหา พัฒนาได้ตรงจุด ตอบโจทย์ของชุมชน สังคม และ ภูมิภาคได้อย่างแท้จริง
“ซึ่งผลงานหลักๆที่ทำให้ได้คะแนนดี คือทีมงานคณะศึกษาศาสตร์ ของ รศ.ดร.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ ซึ่งได้ที่ 78 ของโลก
ส่วนอันอื่นที่ได้คะแนนดีคือ CASCAP, Paliative care ของท่าน รศ.นพ.ณรงค์ ขันตีและ รศ.พญ.ศรีเวียง ไพโรจน์กุล และสุดท้าย คือโครงการแก้จน หรือลดความเลื่อมล้ำของ รศ.ดร.รังสรรค์ เนียมสนิท และท่านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถสืบค้นแหล่งที่มาและดูผลการจัดอันดับได้ที่ https://www.timeshighereducation.com/rankings/impact/2019”รศ.นพ.ชาญชัย กล่าว.
