วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน, 2024

HeaderAD
HeaderAD
HeaderAD
ศาลจังหวัดขอนแก่น ตีตก!”เอกราช”ยื่นขอ กลับคำให้การ นัดอ่านคำพิพากษา 18 ธ.ค.67 นี้

ศาลจังหวัดขอนแก่น ตีตก!”เอกราช”ยื่นขอ กลับคำให้การ นัดอ่านคำพิพากษา 18 ธ.ค.67 นี้

HeaderAD
HeaderAD
HeaderAD

ศาลจังหวัดขอนแก่น ตีตก!”เอกราช”ยื่นขอ กลับคำให้การ นัดอ่านคำพิพากษา 18 ธ.ค.67 นี้

ชะตากรรมทางการเมือง “นายเอกราช ช่างเหลา” ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 4 จังหวัดขอนแก่น ที่ปฏิเสธในคดีอาญา แต่ในส่วนของคดีแพ่ง คดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ฯครูขอนแก่น กว่า 431 ล้านบาท ยินยอมที่จะชดใช้ แต่ให้ขายที่ จำนวน 3 แปลง ให้แล้วเสร็จ ซึ่งอีก 1 แปลง ตกลงกันยังไม่ได้ แต่ศาลจังหวัดขอนแก่น ตีตกตามคำขอของจำเลย นัดอ่านคำพิพากษา ด้วยว่าจำเลยเคยรับสารภาพ ว่าได้เอาเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น มาจริง และชำระเงินมาแล้วบางส่วน ให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นมาแล้ว ศาล วิเคราะห์แล้ว จึงนัดอ่านคำพิพากษา 18 ธันวาคม 2567


เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ที่ ศาลจังหวัดขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา สส.พรรคภูมิใจไทย (จำเลย) ได้เดินทาง ด้วยรถตู้ Toyota Alphard ทะเบียน กพ 500 สีดำมาฟังคำพิพากษาตัดสินคดีในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นกว่า 431 ล้านบาท หลังก่อนนี้ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูล ส.ส.บัญชีรายชื่อรายนี้ของพรรคภูมิใจไทยฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงกรณีถูกฟ้องคดีอาญาโกงสหกรณ์ครูฯ คดียังคาอยู่ที่ศาลฎีการอการวินิจฉัยตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งการมาในครั้งนี้ เพื่อที่จะให้ทางทนายความคนใหม่ ยื่นขอกลับคำให้การภายหลังจากทนายความคนเดิม ให้รับสารภาพจนมีหลายหน่วยงาน เข้ามาตรวจสอบด้านจริยธรรม ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยมี อัยการ พร้อมด้วย ทนายสุธน สอนคำแก้ว ,นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด, นายสุพรรณ  ประพาศพงศ์, นายศุภกิจ สานุสัตย์ ,นายพัฒนา ยอดสะอึ รองประธานฯ นายปิโยรส ถนอมดำรงศักดิ์ เลขานุการฯ, นายสมยศ ศรีกงพาน นางเพ็ญศรี คะมานิคม,นายทองสุก ศรีใส ,นางเยาวเรศ บู่แก้ว,นางวลัยลักษณ์ อินนอก กรรมการ,นางอารยา ศรีเมืองช้าง รักษาการผู้จัดการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น  จำกัด, นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลอดจนผู้ตรวจสอบบัญชี ในฐานะโจทก์ร่วม เข้าร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษา โดยเริ่มกันมาตั้งแต่เวลาประมาณ 14.30 น. ถึง 18.00 น.

นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์
  นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังลงจากห้องพิจารณาคดีว่า ผลการพิจารณาของศาลวันนี้เป็นที่พอใจของฝ่ายโจทก์ ซึ่งการฟ้องร้องเอาผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญานี้เป็นมติของที่ประชุมใหญ่ฯ ตั้งแต่แรก โดยกระบวนการของศาลในวันนี้ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจากฝ่ายจำเลย ได้กลับคำให้การ โดยได้ยื่นคำให้การขอปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง จากที่จำเลยจะเคยให้การรับสารภาพไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะต่อสู้คดี
ในส่วนของเงินจำเลยยังยินยอมที่จะรับผิดชอบในทางคดีแพ่ง แต่ทางอัยการฝ่ายโจทก์และโจทก์ร่วมไม่ยอม จึงคัดค้านคำร้องของจำเลย ทำให้ศาลต้องใช้เวลาในการพิจารณา จนกระทั้งมีคำสั่งไม่รับคำร้องของฝ่ายจำเลย เนื่องจากศาลเห็นว่า จำเลยได้ให้การรับสารภาพมาแล้ว รวมทั้งจำเลยได้มีการชำระเงินให้กับฝ่ายโจทก์มาแล้วในช่วงปี 2565 – 2566 จึงไม่มีเหตุอันควรในการอนุญาตให้มาดำเนินการต่อสู้ในคดีอาญา
โดยในกระบวนการของศาลวันนี้ ทางจำเลยได้มีการหยิบยกเรื่องของการขายที่ดินของ ป.ป.ง. เพื่อที่จะนำเงินมาชดใช้คืนให้กับทางสหกรณ์ฯ ซึ่งกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสหกรณ์ เป็นเพียงการกล่าวอ่างว่าจะมีเงินมาคืนให้กับทางสหกรณ์เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ยอดนี้ที่จำเลยยังติดค้างสหกรณ์ฯ อยู่ เป็นเงินกว่า 350 ล้านบาท ทั้งนี้ ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 ธ.ค.2567 เวลา 09.00 น. ตามเดิม


สำหรับการเดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดให้ฝ่ายโจทก์และจำเลยได้เดินทางมารับฟังคำตัดสินแล้วครั้งหนึ่ง แต่เนื่องจากก่อนที่ผู้พิพากษาจะขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี ทนายฝ่ายจำเลย ได้เจรจากับทนายโจทก์และโจทก์ร่วม โดยแจ้งว่า ฝ่ายจำเลยได้นำเงิน 40 ล้านบาท เป็นแคชเชียร์เช็ค มาวางที่ศาล เพื่อชำระหนี้ค่าเสียหายตามฟ้อง ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องชำระเงินทั้งหมดคืน ภายใน 5 ปี โดยชำระปีละอย่างน้อย 50 ล้านบาท เริ่มปีแรก พ.ศ.2565 จำเลย ชำระ 50 ล้านบาทเศษ
แต่ปี 2566 จำเลยนำเงินมาวางศาลเพียง 10 ล้านบาท ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ยังไม่ติดต่อขอรับเพราะผิดเงื่อนไข และในการเจรจาครั้งนั้นทนายฝ่ายจำเลย ได้ขอเลื่อนการฟังคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ซึ่งในวันดังกล่าว นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ขอให้เพิ่มหลักทรัพย์ค้ำประกันอีก 130 ล้านบาท โดยให้นำหลักทรัพย์ที่มูลค่าดังกล่าวมาวาง ภายในเดือนกรกฎาคม 2567


ส่วนการชำระหนี้รายปี หรือหากเป็นเงินสด จะต้องเป็นเงินสด จำนวน 100 ล้านบาท กำหนดภายในเดือนกรกฎาคมนี้เช่นกัน ส่วนการชำระหนี้รายปีเป็นไปตามข้อตกลงเดิม 50 ล้านบาท โดยต้องนำมาชำระภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน ซึ่งฝ่ายจำเลยเห็นชอบตามนี้ กระทั่งถึงกำหนดวันที่จำเลย คือ นายเอกราช ช่างเหลา จะต้องนำหลักทรัพย์มูลค่า 130 ล้านบาท มาวางประกันหรือนำเงินจำนวน 100 ล้านบาท ชำระค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ฯ ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 ปรากฏว่า กลับไม่ได้ดำเนินการตามที่ตกลงกับฝ่ายโจทก์เอาไว้ ศาลจังหวัดขอนแก่น จึงได้มีการนัดฝ่ายโจทก์และจำเลยมากันในวันนี้.

3bb-ad
3bb-ad

About The Author

Related posts

HeaderAD
HeaderAD
HeaderAD