“ยอดยิ่ง จันทนพิมพ์” ลงนายก ทม. ศิลา สานงานเดิม ผลักดันงานใหม่ เพื่อพัฒนาบ้านเกิดของเรา
ดร.ยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ อดีตนายกฯศิลา 6 สมัย รวม 25 ปี เปิดใจ ลงสมัครนายกเทศมนตรีเมืองศิลา กลุ่มรักพัฒนาเมืองศิลา เพื่อชาวศิลา สานงานเดิม ผลักดันงานใหม่ เพื่อพัฒนาบ้านเกิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.พ. ที่ทำการกลุ่มรักพัฒนาเมืองศิลา 242/35 ถนนเลี่ยงเมือง -กาฬสินธุ์ ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ดร.ยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองศิลา ได้ทำการเปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่นในการ ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นนายกเทศบาลเมืองศิลาเป็นสมัยที่ 7 ว่า ตนเองเริ่มเข้าสู่การเมืองตั้งแต่พ.ศ 2539 ซึ่งในครั้งนั้นได้รับเลือกให้เป็น ประธานบริหารตำบลศิลาต่อมาเรื่อยๆ เสร็จแล้วจึงเลื่อนมาเป็นนายก อบต. แล้วยกฐานะมาเป็นนายกเทศบาลเมือง แห่งแรกของเมืองขอนแก่น และแห่งแรกของประเทศไทย การเลือกตั้ง ในครั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะลงสมัครผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองศิลา เพราะที่ผ่านมาเป็นนายกฯของตำบลศิลา มา 6 สมัย รวมรักษาการแทนฯ 1 สมัย รวมแล้วกว่า 25 ปี ซึ่งในครั้งนี้ขออาสา ลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีเมืองศิลา ต่อเป็นสมัยที่ 7 ในนามกลุ่มรักพัฒนาเมืองศิลา
ดร.ยอดยิ่ง กล่าวว่าต้องกราบเรียนว่าผลงานที่ผมได้ทำมาตั้งแต่ปี 2539 นั้น เดิมทีริเริ่มจากตอนที่เป็นสภาตำบล ได้ ส่งเสริมให้ชาวบ้านทำเรื่องไม้ดอกไม้ประดับ บ้านศิลา ของตำบลศิลา จนทุกวันนี้มีดอกไม้อยู่ทั่วสารทิศ ที่ร้อยเป็นมาลัยจนเต็มบ้านศิลาไปหมด จากนั้นเข้ามาดูแลแนะนำเรื่องการใช้ยาฆ่าแมลงในนาข้าวและแปลงดอกไม้ ไม้ประดับ ที่ชาวบ้านใช้แบบผิดๆ ให้ใช้อย่างถูกวิธี ตลอดจนการริเริ่มโครงการศิลาโฮมสเตย์ ติดลำน้ำพอง ซึ่งดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง และอีกเรื่องนึงก็คือเรื่องที่เกิดเพราะลำน้ำพอง กระแสน้ำทำให้ตลิ่งพังมากมายมหาศาล โดยได้ประสานทางกรมเจ้าท่า พร้อมทั้งประสานไปยังท่านผู้ว่าฯ มาหลายๆท่านเดี๋ยวนี้ก็ได้รับอนุมัติ การก่อสร้างแพงกั้นน้ำ ไม่ให้ตลิ่งพังอีกต่อไป
ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของพุทธมณฑล หนองอิเลิง ซึ่ง นโยบายของชาวบ้าน และของตัวเอง ตั้งแต่แรกว่า ต้องใช้พื้นที่บางส่วนทำเป็นแก้มลิง เพื่อรับน้ำที่จะเข้าท่วมเมืองขอนแก่น และรับน้ำเอาไว้เพื่อการเกษตรในที่นา ของเกษตรกรในตำบลศิลา และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนพัฒนาบ่อน้ำสาธารณะหนองสองแมว บ้านโกทา ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ให้เป็นปอด แห่งใหม่ของชุมชน
ดร.ยอดยิ่ง กล่าวอีกว่าสิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุดที่ได้ทำให้ชาวบ้าน ตำบลศิลา นั้นก็คือเรื่องพุทธมณฑลอีสาน ซึ่งสามารถคุยได้เลยว่าเป็นผู้คิดริเริ่มกับ หลวงปู่เจ้าคณะจังหวัด พระเทพกิตติรังษี ที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว ร่วมกับพี่น้องชาวตำบลศิลา และพี่น้องชาวจังหวัดขอนแก่น ทุกอำเภอ จนสำเร็จ ขณะนี้ถือว่าการก่อสร้างแล้วเสร็จ ไปประมาณเกือบ 100%
อีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจที่สุดก็คือเรื่องที่คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น พร้อมด้วย ตัวแทนชาวจังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา ศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณ เครือญาติหลวงพ่อคูณ ได้ประชุมที่ ม.ขอนแก่น วันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่องการเตรียมการจัดพิธีพระราชทานเพลิง หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพราะหลวงพ่อคูณได้มอบสรีรสังขารให้กับภาควิชากายวิภาคศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศึกษาหาความรู้ในร่างของท่าน และพินัยกรรมระบุไว้ว่าให้บำเพ็ญกุศลเมื่อสิ้นสุดการศึกษาค้นคว้าโดยให้จัดการอย่างเรียบง่าย ละเว้นการพิธีสมโภชใดๆ ห้ามมิให้ขอพระราชทานเพลิงศพ สรุปแล้วในที่ประชุมได้พิจารณาสถานที่ในการถวายเพลิงหลวงพ่อคูณ ในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งได้เลือกพื้นที่ดิน 350 ไร่ บริเวณใกล้กับพุทธมณฑลอีสาน บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งตนเองเป็นคนหาพื้นที่ให้
ส่วนนโยบาย ของกลุ่มรักพัฒนาเมืองศิลา สู้ทุกเมื่อเพื่อชาวศิลา สานงานเดิมผลักดันงานใหม่เพื่อพัฒนาบ้านเกิดของเรา น้ำไหลไฟสว่างทางดีมีงานทำนำการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม บ้านวัดโรงเรียนปรับปรุงพื้นที่สาธารณะให้เป็นประวัติของเทศบาลเมืองศรีราชาแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนเพิ่มมูลค่าทางการเกษตร พร้อมให้ความร่วมมือต่อการขับเคลื่อน เพื่อให้มีโรงพยาบาลศรีนครินทร์แห่งที่ 2 ในเขตตำบลศิลา อันเป็นประโยชน์สูงสุด ต่อพี่น้องประชาชน ที่มีภูมิลำเนาที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งได้ทำตามขั้นตอนประชาคมแล้ว และผ่านสภาของทางเทศบาลเมืองศิลาเป็นที่เรียบร้อย อีกอย่าง จ.ขอนแก่นเป็นเมือง Smart City ซึ่งมีผมคนเดียวที่เป็นแกนหลัก ใน 5 เทศบาล ทำให้เกิดแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนของจังหวัดขอนแก่นขึ้นมา เป็นรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) ของเมืองขอนแก่น จำนวน 5 สาย พาดผ่านพื้นที่ 5 เขตเทศบาล โดยรัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามอนุมัติให้จัดทำสายท่าพระ-สำราญ เป็นเส้นทางแรก
“ผมเป็นคนชอบสร้างวัดสร้างวา กับภรรยาผม พุทธมณฑลเราก็ร่วมสร้าง โดยใช่เป็นเงินส่วนตัว จึงต้องขัดเกลาด้วยพระพุทธศาสนา ต.ศิลาเราถึงอยู่อย่างมีความสุข ถ้าใครจะเปลี่ยนก็ไปเปลี่ยนที่อื่นเถอะ เพราะต.ศิลา นั้นผมพัฒนายังไม่เสร็จ จึงขอพัฒนาอีกต่อไป อายุเป็นเพียงตัวเลข ดูอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี เป็นคนมีอายุทั้งนั้น” ดร.ยอดยิ่งกล่าว. 
สำหรับการสมัครนายกเทศมนตรี และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลเมืองศิลา ปรากฏว่านายยอดยิ่ง จันทนพิมพ์ ในนามกลุ่มรักพัฒนาเมืองศิลา ได้หมายเลข 1 ขณะที่ นายไพรัช ทวีวาร ในนามกลุ่มศิลาพัฒนา ได้หมายเลข 2 ขณะที่ผู้สมัครรับการเลือกตั้งในส่วนของสมาชิกสภาเทศบาลฯทั้ง 3 เขต มีผู้สมัครรับการเลือกตั้งทั้งในนามของกลุ่มศิลาพัฒนา,กลุ่มรักพัฒนาเมืองศิลา และสมัครในนามอิสระ มาลงสมัครกันจำนวนมาก.
