เฉลิมฉลองครบรอบ 79 ปี วันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ปัจจุบันมีคนไทยเชื้อสายเวียดนามเป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงจังหวัดอุบลราชธานี ,ขอนแก่น,มุกดาหาร และหลายจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งประชาชนชาวไทยและเวียดนามต่างอยู่ร่วมกันในผืนแผ่นดินไทยด้วยวัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกันอย่างมีความสุข และเนื่องจากวันที่ 2 กันยายน เป็นวันที่มีความหมายอย่างยิงสำหรับคนเวียดนาม เพราะเป็นทั้ง วันชาติ และวันรำลึกถึงการจากไปของ “โฮจิมินห์” บิดาแห่งเอกราช โดยในปีนี้เป็นวันครบรอบ 79 ปี วันเอกราชประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ห้องมงกุฎเพชรแกรนด์บอลรูม โรงแรมโฆษะขอนแก่น นายจิรศักดิ์ สีหามามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานกล่าวต้อนรับเนื่องในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองครบรอบ 79 ปี วันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี,นายณฐพล วิถี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี , นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์,
ท่าน จาง แทง จรุง ผู้แทนกงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม จังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นประธานในพิธี โดยมี ท่าน บุ่ย ที แร๊ รองหัวหน้าสถานฑูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำประเทศไทย, ท่านสมศักดิ์ วิไลทอน กงสุลใหญ่สาธารณัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว,ท่าน หยาง หนิง รองกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น ,รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มหาวิทยาัลยขอนแก่น พร้อมด้วย ผศ.ดร.อัจฉราวรรณ โตภาคงาม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ และ ผศ. ดร.ขวัญเกศ กนิษฐานนท์ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ ผู้แทนคณาจารย์จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และกองการต่างประเทศ,ผู้บริหาร ผู้นำองค์กรหรือตัวแทนจากหลายภาคส่วนในภาคอีสาน,นายกสมาคมชาวไทยเชื้อสายเวียดนามจังหวัด ,ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม และแขกผู้มีเกียรติร่วมงานในครั้งนี้
นายจิรศักดิ์ สีหามามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าโดยในวันที่ 2 กันยายนของทุกปี เป็นวันที่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับคนเวียดนาม เพราะเป็นทั้ง วันชาติ และวันรำลึกถึงการจากไปของ “โฮจิมินห์” บิดาแห่งเอกราช สำหรับงานเลี้ยงฉลองในครั้งนี้เป็นวันครบรอบ 79 ปี วันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามมีมาอย่างยาวนาน ทั้งในด้านวัฒนธรรมและสังคม ชาวเวียดนามได้อพยพเข้ามาประกอบอาชีพและอาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นจำนวนมากด้วยวิถีชีวิต และการดำเนินชีวิตที่ใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดความเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง และอยู่ร่วมกันอย่างผสมผสานกลมกลืนตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ประชาชนชาวไทย และชาวเวียดนามมีความสัมพันธ์ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน
นายจิรศักดิ์ กล่าวอีกว่าปัจจุบันมีคนไทยเชื้อสายเวียดนามเป็นจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย รวมถึงจังหวัดอุบลราชธานี ,ขอนแก่น,มุกดาหาร และหลายจังหวัดในภาคอีสานซึ่งประชาชนชาวไทยและเวียดนามต่างอยู่ร่วมกันในผืนแผ่นดินไทยด้วยวัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกันอย่างมีความสุข และเนื่องจากวันที่ 2 กันยายน เป็นวันที่มีความหมายอย่างยิงสำหรับคนเวียดนาม เพราะเป็นทั้ง วันชาติ และวันรำลึกถึงการจากไปของ “โฮจิมินห์” บิดาแห่งเอกราช โดยในปีนี้เป็นวันครบรอบ 79 ปี วันเอกราชประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
นายจิรศักดิ์ กล่าวด้วยว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของกงสุลใหญ่ฯ ประจำจังหวัดขอนแก่น ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิด ทั้งระดับจังหวัด ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และศิลปวัฒนธรรรมในโอกาสที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น จัดงานเลี้ยงฉลอง ครบรอบ 79 ปี วันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในนามของประชาชน ชาวจังหวัดอุบลราชธานี ขออวยพรให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เวียดนาม มีความเจริญรุ่งเรือง มั่นคง ประสบความสำเร็จในการพัฒนาความร่วมมือกันในทุกๆด้าน อย่างยั่งยืนตลอดไป
นาย Tran Thanh Trung รับผิดชอบสถานกงสุลใหญ่เวียดนาม ณ ขอนแก่น ประเทศไทย
ในงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันชาติครบรอบ 79 ปี ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
(2 กันยายน พ.ศ. 2488 – 2 กันยายน พ.ศ. 2567)
คอนเคน 26 กันยายน 2567
เรียนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
เรียน ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับคุณอย่างอบอุ่นในเย็นวันนี้เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติที่ 79 ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
เราขอขอบคุณอย่างจริงใจต่อการปรากฏตัวของ:
– นายจิราซัก ซีฮามาต รองผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นตัวแทนของ อบจ.
– นางสาวหยาง หนิง รองกงสุลใหญ่ ผู้แทนสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น
– นายสมศักดิ์ วิทยกุล กงสุลใหญ่ สปป.ลาว ประจำจังหวัดขอนแก่น
– นายศุภสิทธิ์ คเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
– (นายชัยภาชน) นายชัยพจน์ ชาลุนวงศ์ – ผู้ว่าราชการจังหวัดลอย
– (นายอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ) นายอา ดิ ซัก น้อย ซู วัน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ
– ปู่…. ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
– นายซารัต ซู วัน มา หัวหน้าผู้พิพากษาภาค 4
– นายสรายุทธ สงวนโภไคย พล.ต.อ.ภาค 4:
– นายกิตติพงศ์ น้อยชมภู พล.ต. ผู้บัญชาการกองพลที่ 23
– ผู้นำเป็นตัวแทนจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ผู้นำหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยในจังหวัดขอนแก่น
– นายเหงียน หง็อก ทิน ประธานสมาคมเวียดนาม-ไทย และผู้นำในคณะกรรมการบริหารสมาคมทั่วไป ประธานสมาคมไทย-เวียดนาม และสมาคมเวียดนาม
พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ซึ่งข้าพเจ้าไม่สามารถระบุชื่อได้ มาร่วมงานเลี้ยงในวันนี้
เรียนแขกชาวไทย เวียดนาม และชาวต่างประเทศ!
เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 ที่จัตุรัส Ba Dinh กรุงฮานอย ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านคำประกาศเอกราชซึ่งให้กำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันคือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในช่วง 79 ปีที่ผ่านมา พรรค รัฐ และประชาชนเวียดนามได้ต่อสู้อย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องเอกราชและรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวตามจิตวิญญาณแห่งอุดมการณ์ของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ “ไม่มีอะไรมีค่ามากกว่าอิสรภาพ เสรีภาพ” และประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจมากมายในการก่อสร้าง และการพัฒนา
เวียดนามหลุดพ้นจากการเป็นประเทศที่ถูกทำลายล้างด้วยสงคราม ถูกล้อมรอบ ถูกคว่ำบาตร ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่จำกัด… ด้วยการดำเนินนโยบายการปฏิรูป เศรษฐกิจของเวียดนามจึงเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราที่ค่อนข้างสูงในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ขนาดของ GDP กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าประมาณ 430 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 กลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ในอาเซียน และอันดับที่ 35 ในบรรดา 40 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก GDP ต่อหัวเพิ่มขึ้น 58 เท่าเป็นประมาณ 4,300 เหรียญสหรัฐในปี 2566 การต่างประเทศและกิจกรรมบูรณาการระหว่างประเทศได้รับการดำเนินการพร้อมกันและครอบคลุม เวียดนามเป็นมิตร เป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ และเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ
24 ปีหลังจากอ่านคำประกาศเอกราชซึ่งให้กำเนิดสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2512 ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ซึ่งเป็นที่รักของชาวเวียดนามถึงแก่กรรม ก่อนที่จะจากไป เขาได้ทิ้งเจตจำนงอันศักดิ์สิทธิ์ไว้แก่พรรค ประชาชนทั้งหมด และกองทัพเวียดนามทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งตกผลึกความคิด วัฒนธรรม ภูมิปัญญา คุณธรรม และจริยธรรม การเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 2 กันยายนปีนี้ ยังเป็นโอกาสสำหรับรัฐและประชาชนเวียดนามในการเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปีการดำเนินการตามเจตจำนงของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ และวันครบรอบ 55 ปีการเสียชีวิตของเขา
55 ปีที่ผ่านมา พินัยกรรมของประธานโฮจิมินห์เป็นธงที่รวบรวมความเข้มแข็งแห่งความสามัคคีในชาติมาโดยตลอด และจะทำให้ชาวเวียดนามมีความมุ่งมั่นและตั้งใจมากขึ้น พลังอันยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม พลังแห่งความยุติธรรม และความจริง “ไม่มีอะไรมีค่าไปกว่าอิสรภาพและเสรีภาพ” ที่จะร่วมมือกันสร้างประเทศเวียดนามที่ “เหมาะสม” ให้ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น และสวยงามยิ่งขึ้น” ในฐานะประธานาธิบดีที่รักของเรา โฮจิมินห์ มิ้นคาดหวังเสมอ
เวียดนามตระหนักดีว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่เวียดนามได้รับในวันนี้นั้นประทับด้วยความรู้สึกที่ดี การสนับสนุน ความเป็นมิตร และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันจากประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมด ดังนั้นเราจึงจดจำและชื่นชมการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพและมีคุณค่าจากหลายประเทศ เพื่อนฝูง และประชาคมระหว่างประเทศที่คุณหลายคนนำเสนอในวันนี้
เรียนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
เรารู้สึกยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่าในปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามและไทยยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความลึก คุณภาพ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน ความไว้วางใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน . ความสัมพันธ์ทางการเมืองและการต่างประเทศยังคงพัฒนาไปด้วยดีด้วยความไว้วางใจและความผูกพันในระดับสูงสุด โดยมีผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศมาเยือนอย่างเป็นทางการและทำงานหลายครั้ง
ประเทศไทยเป็นมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเวียดนามในภูมิภาคและทั่วโลก ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่สร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับเวียดนาม และยังเป็นประเทศเดียวที่เวียดนามมีกลไกการประชุม “คณะรัฐมนตรีร่วม”
หลังจากเกือบครึ่งศตวรรษของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูต (พ.ศ. 2519 – 2567) ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – ไทยมีความใกล้ชิดและน่าเชื่อถือมากขึ้น การพัฒนาที่ครอบคลุม แข็งแกร่ง และเป็นรูปธรรมในทุกสาขา นำผลประโยชน์มาสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างอนาคตร่วมกันของสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคและโลก
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนบรรลุผลสำเร็จที่โดดเด่นและกลายเป็นจุดสว่างในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ปัจจุบันในอาเซียน ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดและเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 9 จาก 140 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม ด้วยทุนจดทะเบียนรวมเกือบ 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การศึกษา – การฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน… ได้พัฒนาอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ชุมชนชาวเวียดนามในประเทศไทยซึ่งมีประชากรมากกว่า 100,000 คนได้รับการสนับสนุนและสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยจากรัฐบาลไทย ซึ่งมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศไทยอย่างแข็งขัน และเป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมระหว่างประชาชนทั้งสองคน ภายในสิ้นปี 2566 ในจังหวัดอุดรธานี จะมีการเปิดเมืองเวียดนามแห่งแรกในประเทศไทยและทั่วโลก กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศและประชาชนของทั้งสองประเทศ
ปัจจุบัน เวียดนามและไทยต่างเผชิญกับโอกาสใหม่และเกี่ยวพันกัน เราเชื่อว่าทั้งสองประเทศจะใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์ เอาชนะความท้าทาย และยังคงบรรลุความสำเร็จใหม่ๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่าในกระบวนการปฏิรูป ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น มีส่วนสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในประเทศอย่างแข็งขัน ภูมิภาคและโลก
เรียนแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
ในการกล่าวปิดท้ายนี้ เนื่องในโอกาสวันหยุดสำคัญนี้ เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี สมาชิกราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนชาวไทย ได้แบ่งปันและช่วยเหลือเวียดนามตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์เวียดนาม-ไทยมาโดยตลอด ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในคืนนี้ ทีมงานสถานกงสุลใหญ่ พนักงานโรงแรมโฆษะ ญาติชาวไทย-เวียดนาม และเพื่อนๆ ทุกท่านที่ได้ช่วยเหลือสถานกงสุลใหญ่ฯ จัดงานอันแสนวิเศษนี้
– ขออวยพรให้โลกของเรามีสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรือง ความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือที่ดีระหว่างเวียดนามกับประเทศอื่น ๆ องค์กร และเพื่อนต่างชาติกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ
– ขออวยพรให้ผู้นำไทยและแขกผู้มีเกียรติทุกท่านมาร่วมงานในวันนี้ มีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข และประสบความสำเร็จ
ขอบคุณมาก!
