ท่วมท้น !ยกมือโหวต ผ่านมติประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด
จากผลการดำเนินงานในปีบัญชี 2567 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด มีรายได้จำนวน 1,809 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 จำนวน 104 ล้านบาท เนื่องมาจากสหกรณ์ฯ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงจาก 5.90 บาท เหลือเพียง 4.95 บาท ทำให้รายได้ลดลง 104 ล้านบาท ถึงอย่างไรก็ตาม สหกรณ์ยังมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจและมีกำไรกลับคืบคืนสู่สมาชิกจำนวน1,089 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมา 53.95 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 มกราคม 2568 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) จังหวัดขอนแก่น ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นประธานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พร้อมรายงานประจำปี 2567 โดยมี นายสุพรรณ ศรีตะวัน,นายบุญมีเชาระกำ ,นายศุภกิจ สานุสัตย์,นายสุพรรณ ประพาศพงษ์,นายพัฒนา ยอดสะอึก รองประธานกรรมการฯ, นายปิโยรสถนอมดำรงศักดิ์ เลขานุการฯ, พร้อมทั้งฝ่ายจัดการ นางอารยาศรีเมืองช้าง รองผู้จัดการ รักษาการผู้จัดการฯ,นางพรทิพย์ เหล่าวีระ รองผู้จัดการ ฯ,นายทนงศักดิ์วังสงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการฯ, นายเสถียร เคนชมภู ที่ปรึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ,นายชูศักดิ์ ช่วยชู ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ,นายฉลวย หล่องบุศรี ประธานผู้ตรวจสอบกิจการ ,นายภิญโญ รัศมาวี ผู้ตรวจสอบกิจการ ,นายไพฑูรย์ พิมพ์ทอง ผู้ตรวจสอบกิจการ ,นางสาวสงกรานต์ ไกยวงษ์ ผู้ตรวจสอบกิจการ ,นางสาวกรณิกา หมวกยอด ผู้ตรวจสอบกิจการ ,คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 62 ประจำปี 2567 , ผู้แทนกรรมการเขตบริการที่ 1, ผู้แทนกรรมการเขตบริการที่ 2, ผู้แทนกรรมการเขตบริการที่ 3,ผู้แทนกรรมการเขตบริการที่ 4 ,ผู้แทนกรรมการเขตบริการที่ 5 ,ผู้แทนกรรมการเขตบริการที่ 6 และมวลสมาชิก ร่วมรับฟัง
ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่า ตามที่มวลสมาชิกได้มอบความไว้วางใจให้ผมและคณะกรรมการชุดที่ 62 เป็นผู้แทนนิติบุคคลใน
บริหารจัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ในปีบัญชีสหกรณ์ปี 2567 ผลการดำเนินงานคณะกรรมการได้ตระหนักและดำเนินการให้เป็นไปตามอุดมการณ์สหกรณ์ให้สมาชิกได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อนำไปสู่การกินดี อยู่ดี มีความเป็นธรรมและสันติสุขในสังคม รัฐบาลมีนโยบายการแก้ปัญหาหนี้สิน และขอความร่วมมือให้ทุกสหกรณ์ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสมาชิก คณะกรรมการได้ตระหนัก และเห็นความสำคัญดังกล่าวจึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากร้อยละ 5.90 คงเหลือร้อยละ 4.95 ถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเหลือมวลสมาชิกตามแนวทางอุดมการณ์สหกรณ์ ซึ่งถึงถือว่าเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าทุกสหกรณ์ออมพรัพย์ครูในภาคอีสาน ยกเว้นสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุดรธานี จำกัด อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.80 จากความตั้งใจและความมุ่งมั่นของคณะกรรมการ ฝ่ายจัดการประกอบด้วยผู้จัดการ รองผู้จัดการ หัวหน้าฝ่าย เจ้าหน้าที่ทุกคนได้ทุ่มเทเสียสละทำงานอย่างเต็มที่ทำให้สหกรณ์เรามีกำไร 1,089 ล้านบาทเศษ ดังเอกสารในวาระประชุมได้รับเงินปันผลร้อยละ 5 ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และได้รับเฉลี่ยคืนร้อยละ 11 ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา
ขอแสดงความยินดีกับมวลสมาชิกทุกท่านในโอกาสนี้กระผมในนามคณะกรรมการดำเนินการ ขอขอขอบคุณมวลสมาชิกทุกท่าน ผู้แทนสมาชิก ที่ปรึกษา ผู้ตรวจสอบกิจการ ผู้สอบบัญชี ฝ่ายจัดการ ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการสหกรณ์ให้เป็นที่พึ่งของมวลสมาชิก “สหกรณ์มั่นคง สมาชิกมีความสุข”
ดร.อนุศาสตร์ ได้ชี้แจงในคดีของนายเอกราช ช่างเหลา ว่าในวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น.ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดี หมายเลขดำที่ อ258/2584 (คดีกรณีผู้ทำเงินสดขาดบัญชี) นัดฟังคำพิพากษาวันนี้ โจทก์ โจทก์ร่วม ทนายโจทก์ร่วม ทนายจำเลยนายวิชัย อ่อนเบ้า นายอุดม สงวนชม สมาชิกสหกรณ์ฯ มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา
ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่า ปัจจุบันจำเลยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น จำเลยติดประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งนัดไว้ก่อนแล้วจึงไม่อาจมาฟังคำพิพากษาได้ ขอให้นัดฟังคำพิพากษา
ไปหลังจากปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 คือ วันที่ 10 เมษายน 25668
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 125 วรรคสี่ บัญญัติว่า “ในกรณีที่มีการฟ้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในคดีอาญา ไม่ว่าจะได้ฟ้องนอกหรือในสมัยประชุมศาลจะพิจารณาคดีนั้นในระหว่างสมัยประชุมก็ได้ แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่สมาชิกผู้นั้นจะมาประชุมสภา”
ดังนั้นแม้จำเลยจะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและขณะนี้อยู่ระหว่างสมัยประชุมก็ตาม แต่ศาลก็สามามารอนัดฟังคำพิพากษาได้ในวันที่ไม่มีการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพราะไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่จำเลยจะไปประชุมสภาตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงเห็นควรเลือนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา09.00น.โดยทนายจำเลยแถลงรับว่าในวันดังกล่าวไม่ตรงกับวันที่มีการจัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร
โดยรายละเอียดตามเอกสารกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อ258/2564
ด้าน นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่าจากผลการดำเนินงานในปีบัญชี 2567 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด มีรายได้จำนวน 1,809 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 จำนวน 104 ล้านบาท เนื่องมาจากสหกรณ์ฯ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงจาก 5.90 บาท เหลือเพียง 4.95 บาท ทำให้รายได้ลดลง 104 ล้านบาท ถึงอย่างไรก็ตาม สหกรณ์ยังมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจและมีกำไรกลับคืบคืนสู่สมาชิกจำนวน1,089 ล้านบาท มากกว่าปีที่ผ่านมา 53.95 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสหกรณ์ฯ ได้ติดตามการชำระหนี้ของสมาชิกอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ และที่สำคัญการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ในรอบปีบัญชี 2567 ได้รับการประเมินจากผู้สอบบัญชีทุกตัวชี้วัด อยู่ใน “ระดับดีมาก”
“ในนามฝ่ายจัดการขอขอบคุณคณะกรรมการดำดำเนินการ ผู้ตรวจสอบกิจการ ที่ปรึกษา เจ้าหน้าที่ผู้แทนสมาชิก รวมทั้งสมาชิกที่เป็นเจ้าของกิจการแห่งนี้ ที่มีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เจริญก้าวหน้า พร้อมที่จะเป็นสถาบันสหกรณ์ให้สมาชิกได้พึ่งพาตนเอง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สู่สังคมสันติสุข ต่อไป”นายทนงศักดิ์ กล่าว.
