“ชาวบ้านดอนบม ขอนแก่น” เร่ง!เปิดรับนักศึกษา ม.ราชภัฏเลย

“ชาวบ้านดอนบม ขอนแก่น” เร่ง!เปิดรับนักศึกษา ม.ราชภัฏเลย

เมื่อวันที่ 8 พ.ย.นายโกเมศ ทีฆธนานนท์ อดีต ส.ว.ขอนแก่น ลงช่วยชาวบ้านดอนบม เปิดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อหาข้อมูลเบื้องต้น แก้ปัญหาการขอเปิด ม.ราชภัฏเลย วิทยาเขตขอนแก่น ที่ บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น ก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น.ณ ท่าวังมนต์ ริมฝั่งลำน้ำชี บ้านดอนบม โดยจะรวบรวมปัญหานำเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ต่อไป

นายโกเมศ  ทีฆธนานนท์

   นายโกเมศ ทีฆธนานนท์ อดีต สว.ขอนแก่น และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า กล่าวภายหลังรับหนังสือและเอกสารจากประชาชนพื้นที่ตำบลเมืองเก่า ว่า  จากรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ประชาชน ผู้นำชุมชน ในพื้นที่บ้านดอนบม ตำบลเมืองเก่า เข้ามาขอความช่วยเหลือ ทวงคืนที่ดินจำนวน 89 ไร่ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยจังหวัดขอนแก่นนั้น  หลังทราบเรื่องก็ได้ไปดูพื้นที่จริง ซึ่งก็พบว่า มีอาคารใหญ่ 3 หลัง แต่ไม่มีการเรียน การสอน มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรยาม เฝ้าสถานที่ดังกล่าวเท่านั้น และรับเรื่องไว้พร้อมทั้งได้ประสานกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยแล้วว่าจะเข้าพบ หารือในเรื่องดังกล่าว และหากได้คำตอบที่ชัดเจนว่า จะไม่มีการรับนักศึกษา จะไม่มีการเรียน การสอนแล้ว ก็ขอคืนพื้นที่ให้ประชาชน นำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่นให้มหาวิทยาลัยอื่นๆที่สนใจ มาดำเนินการใช้พื้นที่ต่อไป ดีกว่าปล่อยให้รกร้าง ไร้ประโยชน์

หลังการยื่นหนังสือ และเอกสารต่างๆต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เกี่ยวกับการแก้ปัญหาการขอเปิด ม.ราชภัฏเลย วิทยาเขตขอนแก่น บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น และที่เกี่ยวข้องกับการทวงคืนที่ดินสาธารณประโยชน์ ว่าจุดที่ตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จังหวัดขอนแก่น นั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านดอนบม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เนื้อที่ 89 ไร่ เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ ประชาชนเห็นชอบให้ตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เพื่อทำการเรียน การสอนให้บุตรหลาน มีความเจริญเติบโตทางการศึกษา ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา ไม่เคยมีปัญหา     ต่อมาในปี 2561 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ศูนย์จังหวัดขอนแก่น งดรับนักศึกษาประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่
มีการสอบถาม และขอคำตอบถึงการงดรับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยมาอย่างต่อเนื่อง

เพราะหลายคนต่างมีการลงทุนทำหอพัก เปิดร้านจำหน่ายสินค้าและอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่มีการกู้เงินมาทำทั้งนั้น เมื่อไม่มีการรับนักศึกษา ธุรกิจต่างๆที่ประชาชนลงทุนก็เกิดการปิดตัว เพราะค้าขายไม่ได้ หอพักก็ร้าง เพราะไม่มีคนเช่า ผู้นำชุมชน และประชาชน
   จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังมหาวิทยาลัย และมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย 3 ครั้งคือ ฝ่ายชุมชน ฝ่ายท้องถิ่น และมหาวิทยาลัย แต่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเพราะมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากกระทรวงศึกษาธิการ แต่ในความเป็นจริงมหาวิทยาลัยราชภัฏไม่ได้ขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ แต่ขึ้นตรงกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม     “การที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลยอ้างมาจึงไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม ประชาชนและผู้นำชุมชนในพื้นที่ จึงหารือกันในเรื่องที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในกรณีที่งดรับนักศึกษา ไม่มีการเรียน การสอนแล้ว ก็จะขอพื้นที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวคืนกลับมา เพื่อส่งต่อให้มหาวิทยาลัยอื่นๆ มีการบริหารจัดการ ในเรื่องการเรียน การสอน เพื่ออนาคตที่ดีของเยาวชน.