วันจันทร์ 6 พฤษภาคม 2024

“ม.ขอนแก่น” ร่วมมือ มิส ลิลลี่ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชัน ต้านโควิด

“ม.ขอนแก่น” ร่วมมือ มิส ลิลลี่ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชัน  ต้านโควิด
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

“ม.ขอนแก่น” ร่วมมือ มิส ลิลลี่ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชัน
ต้านโควิด 


มหาวิทยาลัยขอนแก่น จับมือมิส ลิลลี่ (Miss Lily) คิดค้นเทคโนโลยีแอนโดรกราโฟไลด์ นาโน อิมัลชัน (Andrographolide Nano Emulsion) ได้เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์สำคัญในฟ้าทะลายโจร ใช้สำหรับต้านไวรัสโควิด พร้อมเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่ายเร็วๆ นี้


     เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มีนาคม 2565 ที่ห้องประชุมสารสิน ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น  รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวเรื่องการวิจัยสาร Andrographolide ในรูปแบบ Nano Emulsion โดยมี ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ดร.นพรัตน์ อินทร์วิเศษ หัวหน้าทีมวิจัย บริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด  ทีมนักวิจัย คณาจารย์ นักศึกษา และสื่อมวลชน ร่วมงาน


   รศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล

รศ.นพ.ชาญชัย  พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของโรคโควิด ทำให้ชื่อของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกลายเป็นความหวังในการบรรเทาอาการของผู้ป่วย เพราะมีสรรพคุณที่ป้องกัน รักษาอาการหวัด และยังยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส โดยสารสำคัญในฟ้าทะลายโจรที่ให้ฤทธิ์ป้องกันและยับยั้งเชื้อโควิดได้ก็คือ ‘แอนโดรกร  โฟไลด์’ (Andrographolide) ซึ่งทุกวันนี้ สารนี้ได้รับความสนใจในระดับสากล มีการนำมาพัฒนามากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ และมีงานวิจัยข้อมูลทางการแพทย์มากมายในต่างประเทศ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเอง โดยฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษาก็ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสารดังกล่าวมาโดยตลอด จนล่าสุดประสบความสำเร็จในการคิดค้นแนวทางการนำสารแอนโดรกราโฟไลด์มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอยู่ในรูปแบบนาโนอิมัลชัน (nano-emulsion) ”


    ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา

ด้าน ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมเผยถึงข้อมูลวิจัยว่า “แอนโดรกราโฟไลด์ที่เป็นสารในกลุ่มไดเทอร์ปีนแลคโตน (Diterpene Lactone) เป็นสารออกฤทธิ์สำคัญที่พบในสมุนไพรฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculate) ที่มีรายงานทางวิชาการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศว่า มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านการอักเสบ และต้านเชื้อไวรัส เป็นสารที่ให้รสขม ปัจจุบันมีการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรจากใบ หรือส่วนอื่นๆ หรือสารสกัดหยาบในรูปยาผงแบบอัดเม็ดและแคปซูล อย่างแพร่หลายในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการใช้ในรูปแคปซูลดังกล่าว จะมีแอนโดรกราโฟไลด์ที่เป็นสารสำคัญอยู่ประมาณ 1.38-3.21% ขึ้นกับสถานที่ปลูก และเนื่องด้วยเป็นสารที่ไม่ละลายในน้ำ จึงทำให้สารแอนโดรกราโฟไลด์ถูกดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้เพียง 2.67% จึงทำให้ต้องรับประทานครั้งละ 4 แคปซูล และต่อเนื่องวันละ 4 ครั้ง รวม 12 แคปซูล/วัน หรือให้ได้ปริมาณผงยา 6,000  มิลลิกรัม/วัน ซึ่งเทียบเท่ากับสารแอนโดรกราโฟไลด์ 60 มิลลิกรัม/วัน”


    “โดยทางทีมงานได้ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แอนโดรกราโฟไลด์บริสุทธ์ (>98%) ด้วยเทคโนโลยีนาโนอิมัลชันเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมขึ้นอีกหลายเท่า เทคโนโลยีนาโนอิมัลชันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมได้ดีมากขึ้นถึง 6 เท่า ทำให้ใช้ปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่นำไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ลดความเสี่ยงของการรับประทานสมุนไพรในรูปปกติในปริมาณมากเกินขนาด (over dose) เป็นการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากงานวิจัยมาใช้ประโยชน์และต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ในการดูแลสุขภาพของคนไทยในสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างแท้จริง”


   ดร.นพรัตน์  อินทร์วิเศษ

ดร.นพรัตน์  อินทร์วิเศษ หัวหน้าทีมวิจัย บริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด กล่าวว่า “เทคโนโลยีนาโนอิมัลชันถูกใช้ในหลายผลิตภัณฑ์มาเป็นเวลานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอางค์ และยารักษาโรค แต่ยังไม่มีการนำสารแอนโดรกราโฟไลด์มาพัฒนาในรูปแบบนี้ ซึ่งงานวิจัยเกือบทั้งหมดเป็นการศึกษาประโยชน์ทางยาของสารแอนโดรกราโฟไลด์ในรูปแบบผง แม้การทำนาโนอิมัลชันในห้องปฏิบัติการเองก็ยังประสบกับปัญหาหลายอย่าง เช่น การทำให้อนุภาคมีขนาดเล็กกว่า 100 นาโนเมตรมีความสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ความคงตัว (stability) ของสารละลายก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเช่นกัน ในการทดลองต้องหาชนิดสารและปริมาณที่เหมาะสม และต้องปรับความเป็นกรดด่างเพื่อให้สารไม่เกิดการออกซิเดชัน และไม่เป็นกรดมากจนเป็นอันตราย รวมถึงต้องปรุงแต่งรสชาติเพื่อลดความขมของสารแอนโดรกราโฟไลด์ และมีรสชาติที่ใช้ได้กับทุกวัย”


    “ที่ยากยิ่งกว่านี้คือการแปลงกระบวนการผลิตในห้องปฏิบัติการไปสู่โรงงานผลิต ซึ่งพบอุปสรรคหลายอย่างเนื่องจากเครื่องมือในห้องปฏิบัติการมีความทันสมัย และมีความคล่องตัวในการทำงานสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง high speed homogenizer หรือเครื่อง ultrasonic ที่สามารถปรับความเร็วรอบที่สูงถึง 10,000 รอบ/นาที ซึ่งทำให้การผลิตในห้องปฏิบัติการมีคุณภาพที่ดีและสม่ำเสมอ ในขณะที่เครื่องจักรในโรงงานผลิตส่วนใหญ่ในประเทศไทย ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ทางมิส ลิลลี่จึงจำเป็นต้องส่งทีมวิศวกร เข้ามารับการถ่ายทอดกระบวนการผลิตจากห้องปฏิบัติการไปสู่โรงงานผลิต โดยเข้าไปให้โรงงานดัดแปลงเครื่องจักรให้สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ นี่คือสิ่งที่ยากส่วนหนึ่งของการทำงานวิจัยออกไปสู่ตลาด เพราะขาดความเชื่อมโยงงานวิจัยจากห้องปฏิบัติการไปสู่กระบวนการผลิตในโรงงาน”
   จากนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะเดินหน้าความร่วมมือกับบริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด บริษัทอีคอมเมิร์ซด้านดอกไม้แห่งแรกของประเทศไทย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพออกสู่ตลาด โดยมุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ด้านสุขภาพให้กับผู้บริโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะพัฒนาขึ้นมานั้นจะสอดคล้องกับทิศทางความต้องการของการอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ จะมีการแถลงข่าวในโอกาสต่อไป.

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads