วันอังคาร 30 เมษายน 2024

สมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น วอน! “นายกฯเศรษฐา”ช่วยด้วยถูกไล่ที่ ขอเถอะที่ทำกินเลี้ยงชีพ

สมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น วอน! “นายกฯเศรษฐา”ช่วยด้วยถูกไล่ที่ ขอเถอะที่ทำกินเลี้ยงชีพ
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

สมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น วอน! “นายกฯเศรษฐา”ช่วยด้วยถูกไล่ที่ ขอเถอะที่ทำกินเลี้ยงชีพ

สมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น เดือดถูกตัดน้ำประปาและไฟฟ้า เดือด ถูกทุบหม้อข้าว หมดหนทางหากิน ร้อง นายกฯ เศรษฐา ถูกไล่ที่ ให้ช่วยขายของชั่วคราวพอตั้งตัวได้ ด้านพ่อเมืองขอนแก่น ตั้งโต๊ะ เจรจา 3 ฝ่าย ตัวแทนธกส. ตัวแทนธนารักษ์ และผู้ประกอบการ หาข้อสรุป หลังถูกฟ้องศาล ไปแล้วเมื่อวาน


เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 กันยายน 2566 ที่ ห้องประชุมแก่นภูมิ 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชั้น 4 (หลังใหม่) จังหวัดขอนแก่น นายไกรสร  กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานนั่งหัวโต๊ะ ประชุม 3 ฝ่าย ตัวแทนธกส.,ตัวแทนธนารักษ์ และผู้ประกอบการ หาข้อสรุปกรณีสมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น เดือดถูกตัดน้ำประปาและไฟฟ้า เดือด ถูกทุบหม้อข้าว หมดหนทางหากิน หลังถูก ธกส.ฟ้องศาล ไปแล้วเมื่อวาน โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น,นายรุจติศักดิ์ รังษี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น,น.ส.เบญจรัตน์ รัชฎามาศ ธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น,นายโสรัต โสพรรณรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, นายเอนก ทิพย์บรรจง ผู้จัดการสาขาตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น (ธ.ก.ส.) ผู้บริหาร ธกส. จังหวัดขอนแก่น ผู้บริหารธนารักษ์จังหวัดขอนแก่น ตัวแทนผู้ประกอบการสมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น และสื่อมวลชน ทุกแขนง ร่วมรับฟัง จนแน่นห้องประชุมแคบไปถนัดตา
จากการที่สมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้าที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น ถูกตัดน้ำประปาและไฟฟ้า ได้ทำหนังสือร้องเรียน นายกรัฐมนตรี พร้อมแนบสิ่งที่ส่งมาด้วย1) แถลงการณ์ ธ.ก.ส. ฉบับบที่ 1/2566 เรื่องแจ้งการงดจ่ายไฟฟ้าและน้ำประปา2) รูปถ่ายพื้นที่ร้านค้าที่ถูกธนาคารให้หยุดชายและขนย้ายออก 3) รูปถ่ายในขณะที่กลุ่มสมาชิกและร้านค้าถูกตัดน้ำและไฟฟ้า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2561 เมื่อครั้งที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจราชการ โดยเนื้อหา สรุปได้ดังนี้

ตามที่แถลงการณ์ ธ.ก.ส. ฉบับบที่ 1/2566 เรื่องแจ้งการงดจ่ายไฟฟ้าและน้ำประปา โดยทางธนาคารฯได้ส่งแถลงการณ์ มาให้สมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้า ซึ่งจะดำเนินการงดการจ่ายไฟฟ้าและน้ำประปา ในวันที่ 4 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้และร้านค้า ซึ่งเป็นผู้อาศัยอยู่บริเวณริมขอบพื้นที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาตลาดกลางสินค้าเกษตร ขอนแก่น จำนวน 41 ราย ขอเรียนชี้แจ้งและร้องขอความเป็นธรรม ต่อท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้ 1. ความเดิมเริ่มแรก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น ได้มาเชิญ ผู้ขายพันธุ์ไม้จากตลาดพันธุ์ไม้ในอุทยานเกษตรมหาวิทยาลัยขอนแก่น มาตั้งแต่ปี 2540 วัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวป้องกันฝุ่นละอองจากข้าวเปลือก เนื่องจากพื้นที่ใกล้เคียง เป็นโรงพยาบาล และเขตที่พักอาศัย ศูนย์การค้า ธนาคารฯ จึงต้องหาทางป้องกันการร้องเรียนจากผู้อาศัยข้างเคียง โดยธนาคารฯได้มีการเชิญผู้ขายพันธุ์ไม้และเรียกเก็บคำน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และค่าธรรมเนียมอื่นๆ จากสมาชิกพันธุ์ไม้และร้านค้า 2. ต่อมา ทางกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ อ้างว่า สมาชิกขมรมพันธุ์ไม้และร้านค้าทำไม่ถูกต้องตามสัญญาเนื่องจากพื้นที่ ที่ทำกินนี้ ทางธนาคาร ธกส.เช่าจากกรมธนารักษ์ และมีหนังสือแจ้งให้ทางธนาคาร ธกส. รื้อถอนร้านค้าของชมรมพันธุ์ไม้ออกไป ทำให้สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้ทุกคนได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องหารายได้มาจุนเจือครอบครัว และต้องชำระหนี้ ธกส. สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้ทุกคน หวังรายได้จากการขายสินค้า ทุกร้านมีภาระมีค่าใช้จ่ายอยู่ทุกวัน ที่ผ่านมาทั้งภาวะโรคระบาด เศรษฐกิจรากหญ้าก็แย่มากอยู่แล้ว บางคนต้องเลิกกิจการไป แต่พอเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นขึ้น ทางธนาคารฯกลับบีบบังคับให้สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้และร้านค้ารื้อถอนร้านค้าออกไปและทางธนาคารฯก็ใด้มีการสั่งการให้การไฟฟ้าเข้ามา ตัดไฟฟ้าร้านค้าและสั่งปิดน้ำประปา ในวันที่ 4 กันยายน 2566 ทั้งนี้สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้และร้านค้าจะเอาเงินทุนที่ไหนมาสร้างร้านใหม่ ทุกคนใด้รับความเดือตร้อน ด้วยเหตุที่หาที่อยู่ใหม่ยังไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะขนทรัพย์สินไปไว้ที่ไหน


ดังนั้น สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้และร้านค้า ขอความเมตตาจากท่านนายกรัฐมนตรี ได้โปรดพิจารณาให้มีการผ่อนผันชะลอการรื้อถอนร้านค้า ของทาง ธ.ก.ส.และ กรมธนารักษ์ ดังนี้1. ขอให้ธนาคารดำเนินการต่อน้ำและไฟฟ้ากลับมาเหมือนเดิม2 ขอผ่อนผันระยะเวลาการรื้อถอนร้านค้า ตามความเหมาะสม3. สมาชิกชมรมพันธุ์ไม้ทุกคน เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.อยู่ภายใต้การดำเนินงานของธ.ก.ส.จึงอยากให้ธนาคารช่วยพิจารณา จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมให้ชมรมฯด้วย ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง นางสาวบัวลอย เฮืองสอน ประธานชมรมพันธุ์ไม้และร้านค้าตลาดกลางสินค้าเกษตรขอนแก่น


ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ในที่ประชุมนายโสรัต โสพรรณรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 ได้ส่งเรื่อง ฟ้องศาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระบวนการ นับได้ว่าเริ่มนับหนึ่งใหม่ ในเรื่องที่ผู้ประกอบการจะขออยู่ต่อ จำนวน 15 เดือนนั้น ก็คงจะแล้วแต่ ศาลท่านจะพิจารณา ถามว่า ลำบากใจไหมในครั้งนี้ยอมรับว่าลำบากใจมากเพราะต้องทำตามกฎหมาย และเห็นใจผู้ประกอบการ ในส่วนของ น.ส.เบญจรัตน์ รัชฎามาศ ธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น ได้ชี้แจงต่อไปว่า ในส่วนของธนารักษ์ ได้รับ การมอบที่ดินผืนนี้จากเอกชน ซึ่งหากไม่ทำตามวัตถุประสงค์ เจ้าของที่ดิน ก็จะมีสิทธิ์เรียกร้องเอาที่ดินผืนนี้คืน ดังนั้นจึงต้องจำเป็นที่จะให้ธกส.ได้ดำเนินการฟ้อง ผู้ประกอบการ ต่อศาล ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งในเบื้องต้นที่ผ่านมาได้มีการปรึกษาหารือร่วมกันว่าจะหาพื้นที่ ที่เหมาะสม ในการย้ายออกในจากพื้นที่ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป

นางธราทิพย์ ลิมปิพัฒน์

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ช่วงมีการประชุม นางธราทิพย์ ลิมปิพัฒน์ อายุ 52 ปี ซึ่งมีบุตรกำลังศึกษา และพ่อที่แก่ชรา ได้พูดด้วยเสียงสั่นเครือ หลังทราบว่า ได้ถูกฟ้องศาล และยังไม่รู้ว่าอนาคต จะได้ประกอบกิจการต่อหรือไม่ เพราะตอนนี้ถูกตัดน้ำตัดไฟและให้ถูกย้ายออก พร้อมทั้งถูกข่มขู่จากทนาย จนนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้สั่งให้สงบสติอารมณ์พร้อมทั้ง ได้ตั้งประเด็นคำถาม ต่อทั้งธนารักษ์และ ธกส. อาทิ มีหนทางใดได้บ้างที่จะช่วยผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้เช่นหาสถานที่ หรือ เยียวยาค่าขนย้าย หรือ ขยายระยะเวลา ตามคำขอของผู้ประกอบการ คือ 15 เดือนออกไป

นายไกรสร กองฉลาด

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นหลังจากที่ประชุม 3 ฝ่ายเสร็จได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนคิดว่าชาวบ้านไม่ได้ทำผิดหรอก แต่ที่ดินตรงนี้เกิดจากมีคนบริจาคให้กรมธนารักษ์ โดยมีเงื่อนไขว่าให้เป็นตลาดกลางค้าข้าวเปลือกได้ หากเอาไปทำอย่างอื่นผิดวัตถุประสงค์ ผู้บริจาคสามารถเรียกที่ดินตรงนี้คืนได้ เรียกร้องกรรมสิทธิ์คืนได้ แต่ประเด็นก็คือว่า พอ ธกส.ได้ไปปุ๊บไม่ใช่ตลาดกลางขายข้าวเปลือกอย่างเดียว ก็จะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านขายต้นไม้เยอะแยะไปหมดเป็นงูกินหาง อยู่ดีๆมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่มีเฉพาะร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านขายต้นไม่ เพราะว่าไม่ใช่แค่ร้านสองร้าน ซึ่งมีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่าในยุคก่อนๆทาง ธกส.อยากให้ตรงนั้นคึกคัก ก็ไปชวนชาวบ้านมาขายต้นไม้ ประเด็นก็จะอยู่ตรงนี้ละก็เป็น 10 ปีแล้ว ตนก็ไม่ได้ว่าชาวบ้านผิด แต่ก็หมายความว่าเขาพยายามให้ชาวบ้านออก ก็มีการต่อลองกันมาเรื่อยๆ ทางตลาดกลางเขาก็กลัวว่าเจ้าของเดิมที่บริจาคเขาจะมาขอกรรมสิทธิ์ที่ดินคืน เพราะเขาอ้างว่าไปทำผิดวัตถุประสงค์ เป็นเรื่องที่ ธกส.ยื่นฟ้องชาวบ้าน คือตอนนี้ ธกส.ฟ้องชาวบ้านทั้ง 41 รายแล้ว
แต่ทั้งหลายทั้งปวงตนอยากให้เมตตา ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเพราะพี่น้องทั้งหมดที่เข้าไปค้าขายเป็นลูกค้า ธกส.เกือบทั้งหมด กู้เงิน ธกส.เพราะธกส.ให้กู้เงินต้องจ่ายดอกเบี้ย ธกส.อยู่ตลอด แต่ถ้าจะเอาผิด ก็ต้องไปเอาผิดกับ ธกส.รุ่นเก่าๆ แต่ไม่รู้รุ่นเก่าๆไปไหนแล้ว ก็ต้องไปเรื่องของธกส.ที่จะต้องตามไล่เบี้ยกันเอง


แต่ผู้บริหารปัจจุบันเขากลัวว่าเขาจะผิด ถ้าเกิดว่าเขาโดนไล่ที่คืน เขาเลยรีบฟ้องร้องตามสิทธิ์ เพื่อไม่ให้เกิดข้อกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติงานเขาเลยต้องทำ แต่ เท่าที่เจรจากัน ทางผู้บริหาร ธกส.พูดว่าเมื่อขบวนการเข้าสู่ศาลแล้ว ทุกอย่างในการเจรจา ไปเจรจาในศาล ตนก็รับปากชาวบ้านว่า เดี๋ยวจะลองหารือกับทางยุติธรรมจังหวัด ว่าจะมีกระบวนการผ่อนปรนผ่อนผัน ให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ก็เชื่อว่าถ้าเป็นคำสั่งศาล อย่างไรธกส.ก็ต้องยอม แต่ตอนนี้จะจริงใจอะไรก็ไม่ได้ ส่วนข้อเรียกร้องของชาวบ้านเขาบอกว่าให้ไปเจรจาที่ศาลเพราะเขาตอบไม่ได้ เพราะเขายื่นฟ้องศาลไปแล้วตนไม่สิทธิ์ตอบแทนเขา.

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads