“รื่นวดี”หน.ผู้ตรวจสำนักนายกฯ ชม ก.ธ.จ.ขอนแก่น ลุยสอดส่อง 90 โครงการ มากที่สุดของประเทศ
ดร.สมยงค์ ตลอดจนคณะกรรมการ และที่ปรึกษา ได้ลงพื้นที่สอดส่องตรวจทั้ง 90 โครงการ ก.ธ.จ.ขอนแก่นบริหารจัดการด้วยการแบ่งเป็นโซน และเป็นทีมเชื่อมั่นว่าข้อร้องเรียน ข้อเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ก.ธ.จ.ขอนแก่น อย่างครบถ้วน เพราะการลงพื้นที่สอดส่อง โครงการแล้วนั่นคือการลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปด้วย
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่า นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 12 ประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ร่วมกับ ก.ธ.จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามสอดส่องโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ทางหลวงท้องถิ่น ขก.ถ. 44 – 050 สายหนองเฒ่าตุ้ย บ้านหนองหญ้ารังกา หมู่ที่ 5 ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 1,910 เมตร หนา 0.15 เมตร หรือมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 9,550 ตารางเมตรตำบลโพธิ์ไชย อำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น งบประมาณ 5,290,000 บาท หน่วยงาน เทศบาลตำบลโพธิ์ไชย อำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น ต่อจากนั้นมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 2/2528 ที่ ห้องประชุมเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย อำเภอโคกโพธิ์ชัย จังหวัดขอนแก่น โดยมี นางทรงศิริ แก้วคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่,นายบุญรอด ขาวเขาอ้อ นายอำเภอโคกโพธิ์ไชย,นายเสาวฤทธิ์ คามกะสก นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์ไชย ตลอดจน ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ รองประธาน และคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น ร่วมลงพื้นที่สอดส่องและร่วมประชุม
เกี่ยวกับการมาครั้งนี้ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคลหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 12 ประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ลงพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ไชย ตามภารกิจ ก.ธ.จ.ขอนแก่น ครบถ้วนกฎหมายบริหารบ้านเมืองที่ดี เพราะความรู้ของพวกท่านคงเกินเต็มร้อยพลังบวกด้วยซ้ำ ที่จะประสานงานกับ ก.ธ.จ.ขอนแก่น หน้าที่ของเราคือลงพื้นที่สอดส่อง ซึ่งตนคนเดียวไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้การทำงานโดยทีมของท่านดร.สมยงค์ รองประธานฯ และที่ปรึกษาทั้ง 3 ท่าน ทำให้การใช้งบประมาณของจังหวัดขอนแก่น นี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะท่านดร.สมยงค์ ตลอดจนคณะกรรมการ และที่ปรึกษา ได้ลงพื้นที่สอดส่องตรวจทั้ง 90 โครงการ ซึ่งตนคิดว่าไม่มีที่ไหนหรือปรากฏอยู่ที่ไหน เพราะตนเคย พูดในที่ประชุมของสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าทาง ก.ธ.จ.ขอนแก่นบริหารจัดการด้วยการแบ่งเป็นโซน และเป็นทีมตนก็ไปเล่า แลกเปลี่ยนประสบการณ์ดีๆแบบนี้ และแนวปฏิบัติดีๆให้เขตจังหวัดอื่นที่ตนลงพื้นที่ได้ทราบ เพราะตนดูแลทั้งเขต 6 เขต 7 ด้วย โดยที่ตนดูแลครอบคลุมเท่าๆกันทุกเขต ดังนั้นตนก็เชื่อมั่นว่าข้อร้องเรียน ข้อเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ ก.ธ.จ.ขอนแก่น อย่างครบถ้วนต่างๆ เพราะลงพื้นที่สอดส่อง โครงการแล้วนั่นคือการลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปด้วย
จึงเป็นที่มาในการสนับสนุนโครงการงบประมาณต่างๆไม่ว่าจะเป็น งบประมาณท้องถิ่นเอง หรือแม้แต่งบของจังหวัดเองก็ตาม เริ่มต้นด้วยการได้ไปดูจังหวัดขอนแก่น และหลายๆโครงการ ขอชื่นชมจังหวัดขอนแก่น มีความสวยงามอยู่หลายโครงการ และในวันนี้ตนได้ลงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้งด้วยการร่วมมือ MOU กับ 4 หน่วยงานหลัก คือ ป.ป.ช. ,ปปท. ,สตง. และDSI เพราะฉะนั้นมติของ ก.ธ.จ.ขอนแก่น ที่ท่านเห็นว่าไม่สมควร ไม่เหมาะสม ก็ส่งกลับได้ ซึ่งในการทำหน้าที่ของตน ก็ได้ส่งเรื่องไปให้ทั้ง 4 หน่วยงานอยู่ ประมาณ 2-3 เรื่องแล้ว ซึ่งก็เดินหน้าไปด้วยกันได้
ตนเชื่อว่าภายใต้กรรมาธิการจังหวัด ต้องบอกว่าหัวหน้าหน่วยรวมทั้ง สำนักนายกรัฐมนตรี ทางท่านปลัดก็ให้นโยบายมาแล้วว่าด้วยต้องทบทวน MOU ใหม่ เพื่อให้สอดรับกับบริบทปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ท่านปลัดก็ให้ร่างกำหนดการ เพราะต้องกราบเรียนเชิญท่านภูมิธรรม เป็นประธานลงนาม เดี๋ยวรอวันที่ท่านว่าง ที่สำคัญต้องรอให้ท่านว่างด้วย เพราะท่านภูมิธรรม จะมาด้วย แล้วจะแจ้งมาอีกครั้งหนึ่งโดยผ่านท่าน ดร.สมยงค์
ตามที่ว่า ก.ธ.จ.นั้นจะมีหน้าที่ ตามหลักก็คือสอดส่อง และเสนอแนะ และอีกอย่างที่ท่านปลัด ได้เน้นย้ำ ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งท่านก็บอกว่า ก.ธ.จ.นั้นมีส่วนช่วยได้ และก็ช่วยได้จริงๆเพราะทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ทำโครงการนั้นโครงการนี้ ก็มาจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และช่องทางที่พี่น้องประชาชน มายื่นคำร้องเรียน เราก็พิจารณาในระเบียบที่มี จะนัดสอดส่องเอง หรือจะส่งต่อ เพราะก.ธ.จ.นั้นช่วยแบ่งเบาภาระ หน้าที่ในจังหวัดนั้นๆได้ ก็ต้องขอขอบพระคุณท่านนายอำเภอ ,ท่านนายกเทศมนตรี ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี.