วันจันทร์ 29 เมษายน 2024

คนขอนแก่นปลื้ม! ร่วมพัฒนาพลังงานไฟฟ้าสะอาด

คนขอนแก่นปลื้ม! ร่วมพัฒนาพลังงานไฟฟ้าสะอาด
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

คนขอนแก่นปลื้ม! ร่วมพัฒนาพลังงานไฟฟ้าสะอาด

ประชาชนอำเภออุบลรัตน์ ร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นเต็มที่ เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด (COT) ขอบคุณคนขอนแก่นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังและนำเสนอความคิดเห็น ในการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่มีเสถียรภาพ ร่วมเดินหน้าประเทศสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน


   เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่ หอประชุมที่ว่าการอำเภออุบลรัตน์ ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การศึกษาและจัดทำรายงานประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) และรายงานเกี่ยวกับการศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (ESA)  โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580  ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev. 1)  โดยมีผู้บริหาร กฟผ.ส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น  องค์กรเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และ ประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมรับฟังกว่า 300 คน

นายสุเทพ มณีโชติ
    นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า โครงการฯนี้ เป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เป็นพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับพลังน้ำจากเขื่อน จะเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดขอนแก่น ช่วยเสริมความมั่นคงทางไฟฟ้าระดับภูมิภาค ที่สำคัญคือช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ต้นเหตุของการเกิดสภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นวาระสาคัญระดับชาติ

นายธวัชชัย สำราญวานิช

   ด้านนายธวัชชัย สำราญวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า กฟผ. ขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ให้ความสนใจร่วมแสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและจัดทำรายงาน CoP และ ESA เพื่อกำหนดมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยของโครงการ รวมถึงแนวทางการพัฒนาโครงการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาโครงการที่ยั่งยืนต่อไป

การประชุมครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียได้มีส่วนร่วมศึกษาและจัดทำรายงานฯ โดยมีนางสาวดวงกมล พรหมสุวรรณ ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อมจากบริษัท COT เป็นผู้ถ่ายทอดรายละเอียดของโครงการ ทั้งการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการป้องกันแก้ไขและติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงการฯ  และเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียได้แสดงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนข้อวิตกกังวลต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงให้การศึกษาฯ มีความครบถ้วนสมบูรณ์

โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำกับพลังน้ำ พร้อมทั้งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) เพื่อเสริมให้ระบบผลิตไฟฟ้ามีเสถียรภาพ มีกำลังการผลิตสุทธิ 24 เมกะวัตต์ (MWAC)   รองรับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่นและภูมิภาคที่มีการขยายตัว และเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน นอกจากนี้ยังช่วยลดการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นการใช้พื้นที่อ่างเก็บน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในปี 2566


   ประชาชนผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ได้จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2565 โดยส่งข้อคิดเห็นผ่านช่องทางต่างๆ เช่น จดหมายธุรกิจตอบรับที่แจกในวันประชุมรับฟังฯ หรือคุณจีรภัทร์ ประเสริฐสุวรรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชน โทรศัพท์ : 02-934-3233 ต่อ 513 หรือ 091-4539154 และอีเมล : cheerapat.cot@gmail.com

นายสมร แก้วประดิษฐ์
    ส่วนนายสมร แก้วประดิษฐ์ ผู้แทนประชาชน (กำนันตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านเขื่อนอุบลรัตน์) กล่าวว่า ตนได้พาชาวบ้านอำเภออุบลรัตน์ ไปดูงานทุ่นลอยน้ำที่จังหวัดอุบลราชธานีมาแล้ว ส่วนผลประโยชน์ที่ชาวบ้านอำเภออุบลรัตน์จะได้รับ นั้นมีจำนวนมาก เพราะว่าอนาคตอำเภออุบลรัตน์จะเป็นเมืองท่องเที่ยว อีกส่วนหนึ่งผลประโยชน์ของทุ่นลอยน้ำที่ประชาชนจะได้รับมีประโยชน์สูงสุด ถามว่าถ้าได้มาสร้างทุ่นลอยน้ำที่อำเภออุบลรัตน์ชาวบ้านจะได้ประโยชน์มหาศาล เนื่องจากว่าการทำตรงนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะตามมาคือเป็นแหล่งท่องเที่ยวในส่วนที่เราผลิตไฟฟ้า และ กองทุนที่อยู่บริเวณนี้ เงินทุนเราก็จะได้ช่วยกันบริหารร่วมกัน ให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนของเรา และในด้านที่พี่น้องประชาชน จะมาท่องเที่ยว มาอยู่มากิน จะทำให้พี่น้องประชาชนนั้นเกิดมีรายได้เพิ่ม ในชุมชนของเรา.

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads