สถานศึกษาของเมืองไทย
สถานศึกษาทุกแห่งในประเทศไทย เป็นเบ้าหล่อหลอมกุลบุตร กุลธิดาให้มีความรู้ เป็นเลิศทางวิชาการ เพียบพร้อมด้วยจริยธรรมอันงดงาม และแข็งแกร่งทางด้านกิจกรรมและการกีฬา เตรียมตัวให้เด็กๆได้ก้าวไปสู่โลกกว้างและไต่เต้าไปสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น เพื่อเขาเหล่านั้นจะได้จบออกมาเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ พร้อมพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง
ปฐมบทของโรงเรียนในอุดมคติของผู้ปกครอง
โรงเรียนเพ็ญบุรี ตั้งอยู่ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เปิดทำการเรียนการสอนเมื่อปีพ.ศ.2558โดยเป็นโรงเรียนที่เน้นความเข้มข้นทางวิชาการโดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เข้มข้นทั้ง 4 ทักษะ (ฟัง, พูด, อ่าน, เขียน)คณิตศาสตร์มีการนำหลักสูตรจินตคณิตเข้ามาใช้ในการเรียนการสอน โดยเน้นการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้เด็กๆได้เรียนอย่างสนุกสนาน พร้อมกับเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาโจทย์ให้ง่าย นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมเสริมพัฒนาการต่างๆที่น่าสนใจ อาทิเช่น ดนตรีห้องบอล ห้องทรายรวมทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย มีกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพสร้างความแข็งแรงของนักเรียน เช่น บัลเล่ต์ เทควันโด ว่ายน้ำ ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้รับการสนับสนุนในด้านวิชาการจาก “เซนต์จอห์นกรุงเทพมหานคร” โดยดร. ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉายในช่วงที่ผ่านมาเด็กนักเรียนมีผลงานจากการเข้าร่วมการแข่งขันในหลายๆด้าน เช่น ในด้านคณิตศาสตร์ นักเรียนได้รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศ การแข่งขันคณิตศาสตร์และคณิตคิดเร็วระดับนานาชาติ ประจำปี 2562รางวัลเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ในการแข่งขัน International Singapore Math Competition (ISMC) 2019 ในด้านภาษาอังกฤษ นักเรียนได้รางวัลชนะเลิศเหรียญทองและเหรียญเงิน รายการแข่งขัน Impromptu Speech ในการแข่งขันทักษะวิชาการโรงเรียนเอกชนระดับภาคอีสาน ประจำปีการศึกษา 2561 และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย
เหตุสะเทือนใจที่ไม่คาดฝัน
หลังจากที่เปิดการเรียนการสอนมาได้ 4 ปี โรงเรียนเพ็ญบุรีมีเด็กนักเรียน 400 กว่าคน ซึ่งการขยายตัวของจำนวนนักเรียนที่รวดเร็วเกิดจากผู้ปกครองนักเรียนบอกกันปากต่อปากถึงประสิทธิภาพในการเรียนการสอนที่ดีของโรงเรียน แต่…เมื่อประมาณปลายเดือน เมษายน 2562 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจและไม่คาดคิดอุบัติขึ้น โดยมีพายุฤดูร้อนอย่างรุนแรงเข้าถล่มเมืองขอนแก่น ทำให้เกิดพายุหมุนลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรง และฝนตกลงมาอย่างหนัก พายุหมุนได้พัดผ่านเป็นแนวยาวจากบึงหนองโคตรผ่านหมู่บ้านสีวลีทำให้รั้วของหมู่บ้านพังทลายลงเป็นแถบ พายุหมุนพุ่งตรงต่อมาที่โรงเรียนเพ็ญบุรี ลอดผ่านช่องว่างหลังคาที่ต่างระดับกัน กระแทกเข้าที่ผนังชั้นบน ทำให้ผนังแตกและหล่นลงมา จากนั้นพายุได้พัดพุ่งไปยังสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ทำให้หลังคา ผนังและประตูกระจกของสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านเป็ดเสียหายเป็นอย่างมากและมีสถานที่อื่นๆอีกหลายแห่งที่ได้รับความเสียหายจากพายุในเวลาใกล้เคียงกันและในขณะเดียวกันนั้นที่โรงเรียนเพ็ญบุรีได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นคือผนังชั้นบนที่แตกและหล่นลงมา บังเอิญตกลงมาโดนนักเรียนที่
กำลังหลบฝนอยู่ในอาคารเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวน 1 รายเหตุวาตภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้สร้างความเศร้าเสียใจให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ปกครองและครอบครัวของน้องที่เสียชีวิต เพื่อนนักเรียนที่ร่วมโรงเรียนและผู้ปกครองคนอื่นๆทางผู้บริหารของโรงเรียนตลอดจนครูอาจารย์ในโรงเรียนทุกคนต่างรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
ท้อแท้
เหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนเสียชีวิตในครั้งนั้น ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับทุกฝ่าย ผู้บริหารของโรงเรียนเพ็ญบุรีและครอบครัวทั้งท้อแท้และเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งบั่นทอนความฝันที่ทางผู้บริหารโรงเรียนเพ็ญบุรีตั้งใจจะสร้างเด็กนักเรียนให้เก่งด้วยหลักสูตรและการเรียนการสอนที่ดีมีการพัฒนาอยู่เสมอ ส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนมีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และต้องการสร้างบ่มเพาะให้นักเรียนโตไปเป็นเด็กที่ดีของสังคม ถึงกับปรารภให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น หากรู้ว่าถ้าเปิดโรงเรียนแล้วจะทำให้มีเด็กเสียชีวิตแบบนี้ จะไม่เปิดโรงเรียนอย่างแน่นอน” เพื่อชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนเพ็ญบุรีได้ส่งบุคลากรทั้งหมดกว่า 40 คนทุ่มเทเวลาในการช่วยดูแลงานศพ ณ วัดกลาง อย่างเต็มที่ โดยเข้าไปช่วยงานในทุกส่วน เป็นเวลา 5วัน จนเสร็จสิ้นงาน รวมถึงช่วยดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆในงาน และช่วยเหลือเงินเบื้องต้น เบ็ดเสร็จเป็นเงินประมาณ 2 แสน 7 หมื่นบาท
ความรู้สึกเสียใจ ท้อแท้ ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่อยากดำเนินกิจการโรงเรียนต่อ ทำให้ในช่วงเวลาที่ช่วยดูแลงานศพนั้น ทางผู้บริหารโรงเรียนเพ็ญบุรีไม่ได้คิดดำเนินการหาสถานที่ชั่วคราวให้กับนักเรียนที่เหลืออยู่เลย ในขณะเดียวกันสถานการณ์ดังกล่าวก็ได้สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจ ความรู้สึกสับสนให้กับผู้ปกครองเด็กอีกกว่า400 ครอบครัว ที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้ปกครองบางส่วนได้ขอเงินคืนเพื่อย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ทางโรงเรียนฯก็ได้ดำเนินการคืนให้ทั้งหมดในขณะที่ทางโรงเรียนได้เตรียมการ จ้างคุณครู สั่งหนังสือ เพื่อจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียน 400 กว่าคน ไว้พร้อมหมดแล้ว
กำลังใจและความเมตตาที่เหมือนสายฝนชโลมใจ
เหตุการณ์ที่โรงเรียนถูกวาตภัยพัดผนังอาคารพังเสียหายทำให้โรงเรียนเพ็ญบุรีไม่สามารถจัดการเรียนการสอนให้เด็กนักเรียนได้ ทั้งยังใกล้ที่จะเปิดเทอมของเด็กนักเรียนแล้ว ในระหว่างที่ยังสับสนอลหม่านอย่างกับผึ้งแตกรังอยู่นั้นผู้ปกครองส่วนที่เหลือและเชื่อมั่นในระบบการเรียนการสอนของโรงเรียนได้มีการปรึกษาหารือหาทางช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยได้วางแนวทางว่าจะช่วยกันหาสถานที่ในการจัดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อให้โรงเรียนสามารถดำเนินการในการจัดการเรียนการสอนต่อไปได้เพื่อลูกหลานจะได้เรียนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งผู้ปกครองได้ไปเจออาคารเรียนที่มีความพร้อมและเหมาะสมที่จะใช้ในการจัดการเรียนการสอนชั่วคราวอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยอาคารเรียนดังกล่าวมีห้องเรียนที่ยังไม่ได้ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในระหว่างปิดภาคการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียนจึงได้ร่วมกันให้กำลังใจแก่ทางผู้บริหารของโรงเรียนเพ็ญบุรีและร้องขอให้ทางโรงเรียนเพ็ญบุรีจัดการเรียนการสอนให้เด็กนักเรียนที่เหลือ 300 คนต่อไป เมื่อผู้บริหารของโรงเรียนเพ็ญบุรีได้รับกำลังใจจากผู้ปกครอง กอร์ปกับความรับผิดชอบต่อเด็กนักเรียนอีกหลายครอบครัว รวมทั้งคุณครูและบุคลากรอีก 50 กว่าชีวิตที่ยังรออยู่ทางโรงเรียนเพ็ญบุรีจึงตัดสินใจเข้าไปดูสถานที่เรียนชั่วคราวที่ผู้ปกครองเสนอมาให้ และได้ทำหนังสือประสานงานขอความอนุเคราะห์ ขอใช้สถานที่ชั่วคราวของมหาวิทยาลัยขอนแก่นถึง รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อใช้สถานที่ชั่วคราว ซึ่งท่านอธิการบดีได้ให้ความเมตตาให้ความอนุเคราะห์แบ่งปันห้องเรียนบางส่วนให้แก่ทางโรงเรียนเพ็ญบุรี นับเป็นน้ำใจและความเมตตาที่เหมือนสายฝนที่ชโลมใจ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองและนักเรียนกว่า 300 ครอบครัวที่ยังเชื่อมั่น และไว้วางใจในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนเพ็ญบุรีทำให้โรงเรียนเปิดสอนและนักเรียนได้เรียนอย่างต่อเนื่องมาตลอด
การซ่อมแซมผนังอาคารเรียน
แม้ว่าจะมีอาคารเรียนชั่วคราวที่ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครองและนักเรียนในเบื้องต้นไปแล้วนั้น ทางโรงเรียนเพ็ญบุรีก็ยังมีความจำเป็นที่ต้องซ่อมแซมผนังอาคารเรียนที่เสียหายจากเหตุการณ์วาตภัยดังกล่าว ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองและนักเรียนกว่า 300 ครอบครัว
หลังเกิดเหตุได้มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยตัวแทนจากหน่วยงานกลางได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญจากสภาวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้เชี่ยวชาญจากเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ดเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองขอนแก่น ได้เข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุร่วมกันพบว่าอาคารของโรงเรียนมีความมั่นคงแข็งแรง แต่เนื่องจากพายุที่รุนแรงมีแรงลมบีบอัดเข้ามาทางช่องว่างหลังคาที่ต่างระดับจึงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ต่อมาหน่วยงานกลางได้ให้คำแนะนำในการซ่อมแซมว่า ให้ปิดช่องว่างหลังคาที่ต่างระดับกันที่เป็นช่องลมให้พายุเข้ามาได้ และเปลี่ยนผนังอาคารชั้น 3 ให้เป็นโครงเคร่าเหล็กรูปพรรณผนังเบา
ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ ทางโรงเรียนได้รับความอนุเคราะห์จาก รศ.รังษี นันทสาร วุฒิวิศวกร เลขที่ วย 696 อดีตคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเข้ามาร่วมตรวจสอบโครงสร้างอาคารเรียน พบว่าโครงสร้างอาคารเรียนเดิมแข็งแรงอยู่แล้ว และได้เขียนแบบแก้ไขผนังอาคารเรียนให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่อาจมีลมแรงแบบนี้เกิดขึ้นอีก โดยได้ปิดช่องหลังคาต่างระดับดังกล่าวซึ่งเป็นช่องว่างที่ทำให้ลมถูกบีบอัดเข้ามาปะทะกำแพง เปลี่ยนผนังกำแพงอิฐชั้น 3 โดยเพิ่มเหล็กเป็นโครงสร้างผนังและทำเป็นผนังเบา ในส่วนของชั้น 2 ที่มีลักษณะของผนังที่ใกล้เคียงกันทางโรงเรียนได้รื้อและซ่อมแซมเสริมเหล็กและเอ็นใหม่เพื่อให้แข็งแรงขึ้น ในระหว่างการดำเนินการซ่อมแซม มีวิศวกรคุมงานคอยดูแลงานตลอดเวลาเป็นจำนวน 3คน อีกทั้งทาง รศ. รังษี นันทสาร วุฒิวิศวกร ได้เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยของงานซ่อมแซมเป็นระยะเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครอง
ในส่วนของโครงสร้างหลัก รศ.รังษี นันทสาร วุฒิวิศวกร ได้ทำการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า อาคารเรียนซึ่งได้สร้างแบบไม่มีเสาเพราะการมีเสากลางอาคารเป็นเสาลอยไม่มีผนัง อาจมีเด็กนักเรียนวิ่งชนเสาทำให้เกิดอันตรายได้โดยทางโรงเรียนได้มีการเพิ่มขนาดคาน และจำนวนเหล็กเสริมคอนกรีตที่อยู่ในคาน รวมถึงเพิ่มความลึกของโครงหลังคา ไว้เผื่อแล้ว โครงสร้างสามารถรับน้ำหนักได้และโครงหลังคาจะไม่เกิดการแอ่นตัวเกินจากค่าตามทฤษฎี ดังนั้นโครงสร้างหลักของอาคารเรียนดังกล่าวมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้ตามปกติและปลอดภัย
ความรู้สึกของผู้ปกครอง
ด้านคุณแม่ ด.ญ.ปริญ นันทิยะกุล นักเรียนระดับชั้นป.1 กล่าวถึงโรงเรียนเพ็ญบุรีว่า การจัดการเรียนการสอนที่นี่ดีมากค่ะ ทางโรงเรียนมีการปูเนื้อหาวิชาการสำหรับเด็กอนุบาลเพื่อเรียนในชั้นประถมได้อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกันก็มีกิจกรรมให้เด็กๆได้ผ่อนคลาย แล้วยังมีสอนบัลเล่ต์ ดนตรี เทควันโด ว่ายน้ำ เรียกได้ว่าเรียนที่นี่มีให้ครบแทบทุกอย่าง ทีเชอร์ไทยให้ความสนใจดูแลเด็กเป็นอย่างดี ทีเชอร์ต่างชาติก็ใส่ใจบอกข้อดี ข้อเสีย ข้อควรปรับปรุง มีการบ้านให้เด็กๆได้กลับมาทบทวนที่บ้าน ทำให้ลูกได้ฝึกความรับผิดชอบและความมีวินัยตั้งแต่ยังเด็กถ้าโรงเรียนซ่อมแซมผนังที่เกิดเหตุเสร็จจะกลับไปเรียนต่อที่อาคารเรียนโรงเรียนเพ็ญบุรีหรือไม่รอที่จะกลับไปเรียนที่อาคารเรียนโรงเรียนเพ็ญบุรีอยู่ทุกวันค่ะ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำไมยังเรียนต่อที่นี่: ดิฉันเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนะคะ เราสงสารทุกฝ่ายค่ะ เราเองก็มีลูกคนเดียวเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่ค่ะ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นไม่มีใครอยากสร้างโรงเรียนแล้วทำให้เด็กเป็นอะไรหรอกค่ะ ทีนี้เราตัดสินใจเรียนที่นี่ต่อเนื่องจากว่าเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ทางโรงเรียนได้พยายามแก้ปัญหา ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่เราเห็นและสัมผัสถึงความพยายาม ความจริงใจ และความเสียใจของเค้าต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ข่าวด้านลบต่างๆ มันยิ่งทำให้เราอยากยืนเคียงข้างเค้าเพราะหลายเรื่องมันไม่เป็นความจริงเลย และเรามั่นใจว่าโรงเรียนจะต้องซ่อมแซมบ้านของเค้าให้แข็งแรงและดีมากกว่าเดิมได้ค่ะ
ส่วนคุณแม่ ด.ญ.อลิชา ทาสี ด.ญ. อลินดา ทาสี นักเรียนระดับชั้นเตรียมอนุบาล และ ด.ช. ชานนท์ ชาร์ป นักเรียนระดับชั้นป.1 กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อ โรงเรียนเพ็ญบุรีว่า หลักสูตรการเรียนการสอนที่นี่จะเข้มข้นมากกว่าที่อื่นพอสมควรผู้บริหารที่นี่จะใส่ใจกับนักเรียนและให้ฝ่ายธุรการช่วยเหลือเวลามีการสอบการแข่งขันของนักเรียนผู้ปกครองจะมีส่วนร่วมพอสมควรในการเรียนการสอนของเด็กๆ โดยครูจะคอยแจ้งรายละเอียดการบ้าน กิจกรรมทางไลน์ รวดเร็วดีคุณครูที่นี่ปฏิบัติตามนโยบายของผู้บริหารที่ได้วางแผนเอาไว้อย่างเคร่งครัดโดยส่วนตัวเห็นว่าผู้บริหารที่นี่มีความตั้งใจจริงและจริงใจที่จะทำให้นักเรียนได้รับความรู้ความสามารถไม่แพ้โรงเรียนอื่นอย่างแน่นอนหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำไมยังเรียนต่อที่นี่เพราะยังเชื่อมั่นว่าทั้งอาคารโดยรวมมีความปลอดภัยสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดจากภัยธรรมชาติเชื่อมั่นในหลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่ที่สุดผู้บริหารที่นี่รับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครองพอสมควรแล้วก็รักและผูกพันกับโรงเรียนถ้าโรงเรียนซ่อมแซมผนังที่เกิดเหตุเสร็จจะกลับไปเรียนต่อที่อาคารเรียนโรงเรียนเพ็ญบุรีหรือไม่ไม่ใช่แค่จะกลับไปเรียนอย่างเดียวแต่พวกเรานับวันรอว่าเมื่อไหร่ทางโรงเรียนจะซ่อมเสร็จสักที
ก้าวย่างสู่อนาคตหลังฝ่าคลื่นมรสุม
อย่างไรก็ตามแม้จะเกิดความเศร้าสะเทือนใจเกินคำบรรยาย ทางโรงเรียนก็ได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนตามอุดมการณ์และวิสัยทัศน์ต่อไป เริ่มจากนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ทางโรงเรียนมีการสอบวัดและประเมินผลความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษของนักเรียนทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ด้วยข้อสอบ Cambridge English Language Assessment จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ หรือที่เรียกว่า Cambridge Young Learners English Test : YLE โดยมีการสอบอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ระดับ คือ Starter, Mover, และ Flyer เพื่อเป็นการประเมินผลความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษในระดับสากล ให้นักเรียนได้ทราบระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของตนเอง และพร้อมที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษต่อไปในอนาคต โดยทุกระดับการเรียนการสอนจะได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ครูและบุคลากรมีความเป็นมืออาชีพ สามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมตามหลักธรรมาธิบาล
เพื่อชาวเมืองหมอแคน แดนหมอลำจะได้เห็นว่าโรงเรียนเพ็ญบุรี เป็นสถานศึกษาที่มีคุณภาพคับแก้ว ไม่แพ้ใคร!!!
