วันจันทร์ 29 เมษายน 2024

 “สหกรณ์ฯครูขอนแก่น” มีมติไม่รับชำระค่าเสียหาย10 ล้านบาท คดีเอกราช กับพวก ยักยอกเงิน 431 ล้าน

 “สหกรณ์ฯครูขอนแก่น” มีมติไม่รับชำระค่าเสียหาย10 ล้านบาท คดีเอกราช กับพวก ยักยอกเงิน 431 ล้าน
Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

 “สหกรณ์ฯครูขอนแก่น” มีมติไม่รับชำระค่าเสียหาย10 ล้านบาท คดีเอกราช กับพวก ยักยอกเงิน 431 ล้าน

จำเลยผู้ชำระค่าเสียหายตามฟ้อง มีความประสงค์ขอชำระหนี้ค่าเสียหายตามฟ้องในคดีอาญาฯ ของศาลจังหวัดขอนแก่น เป็นจำนวนเงิน 10,539,818.78 บาท คณะกรรมการดำเนินการฯในการประชุมครั้งที่ 29/2565 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติไม่รับชำระค่าเสียหายตามหนังสือดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามรายงานกระบวนการพิจารณาคดี ศาลอนุญาตให้จำเลยชำระค่าเสียหายได้ตลอดแต่ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้ครบจำนวน50,000,000 บาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ส่วนวิธีการชำระให้นำเงินมาวางที่ศาล สรุปคือให้จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงในกระบวนการพิจารณาฉบับลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ข้อตกลงทั้ง 6 ข้อ


เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ต่อกรณีที่นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ผู้ได้รับอนุญาตจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ออกหนังสือชี้แจงรายงานการดำเนินคดีของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กรณียักยอกทรัพย์จากบัญชีงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)สาขาถนนดินแดง จำนวน 431 ล้านบาทเศษ
เรียน ครอบครัวสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัดที่รักและเคารพทุกท่าน

นายเอกราช ช่างเหลา
   สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 สำนักงานกฎหมาย ทิวา สิทธิชัยลงชื่อโดยนายเอกราช ช่างเหลา จำเลยผู้ชำระค่าเสียหายตามฟ้อง มีความประสงค์ขอชำระหนี้ค่าเสียหายตามฟ้องในคดีอาญาหมายเลขคำที่อ.258/2564 ของศาลจังหวัดขอนแก่น เป็นจำนวนเงิน 10,539,818.78 บาท คณะกรรมการดำเนินการในการประชุมครั้งที่ 29/2565 เมื่อวันที่ 18 ตุลากม 2565 มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติไม่รับชำระค่าเสียหายตามหนังสือดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามรายงานกระบวนการพิจารณา คดีหมายเลขดำ ที่ อ.258/2564 ศาลจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 และมีหนังสือแจ้งจำเลยทราบมติดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 หลังจากนั้นทนายความจำเลขจึงร้องศาลจังหวัดขอนแก่น และศาลจังหวัดขอนแก่น มีหมายศาลลงวันที่ 21ตุลาคม 2565 นัดคู่ความเพื่อวางเงินชำระค่าเสียหายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น.เมื่อได้รับหมายศาลคณะกรรมการดำเนินการจึงแจ้งให้ทนายของโจทก์ร่วมทั้ง 4 คน ประกอบด้วยนายสุธน สอนคำแก้ว นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว นายสุชาติ วันทะยา และนายธนบดี ตรีเดช มาประชุมในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 นายสุธน สอนคำแก้ว มาประชุม อีก 3 ท่านติดภารกิจ


    คณะกรรมการจึงมอบหมายให้ทนายสุธน สอนคำแก้ว ร่วมกันปรึกษาทีมทนายและให้ยื่นคำคัดค้านต่อศาลตามมติคณะกรรมการ โดยด่วน นายสุธน สอนคำแก้วได้ยื่นคำคัดค้านต่อศาล เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น. นายสนอง สุดสะอาด นายทนงศักดิ์ วังสงค์ นายเพชรรัตน์ อ่างยาน และนายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ผู้รับมอบอำนาจ พร้อมด้วยนายศักดา เชาว์พาณิช,นายสวัสดิ์ แก้วชนะ ,นายวิเชียร ไกรศรีวรรธนะ ตัวแทนคณะกรรมการดำเนินการได้เดินทางไปศาลจังหวัดขอนแก่น พร้อมทีมทนายโจทก์ร่วม นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว ทนายความโจทก์ร่วมได้ยื่นคำคัดค้านเพิ่มเติม ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีนี้เวลา 13.30 น.ศาลอนุญาตให้จำเลยชำระค่าเสียหายได้ตลอดแต่ขอให้จำเลยชำระค่าเสียหายให้ครบจำนวน 50,000,000 บาท ภายในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ส่วนวิธีการชำระให้นำเงินมาวางที่ศาล สรุปก็คือให้จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงในกระบวนการพิจารณาฉบับลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564
   ข้อตกลงทั้ง 6 ข้อประกอบด้วย 1.)จำเลยกับพวก จะร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินคืนโจทก์ร่วม ทั้งเงินต้น 431,862,070.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 จนกว่าจะชำระเสร็จ 2.)จำเลยกับพวกจะร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวนดังกล่าวตามข้อ 1 อย่างน้อยปีละ50,000,000 บาท จะชำระให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี 3.) จำเลยกับพวกจะนำหลักทรัพย์ค้ำประกันมาวางเพิ่ม จากหลักทรัพย์ค้ำประกันเดิม ไม่น้อยกว่า 140,000,000 บาท พร้อมทั้งจดจำนองเป็นประกันหนี้กับโจทก์ร่วม 4.) หากจำเลยกับพวก ผิดตามข้อ 1. งวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดทั้งหมด ยอมให้โจทก์ร่วมบังดับคดีตามคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องคดีแพ่งหมายเลขคำที่ พ E1 /2564 ของศาลนี้ได้ทันที โดยยินยอมให้มีการประเมินราคาหลักทรัพย์ตามราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดีออกขายทอดตลาดหากได้เงินไม่พอชำระหนี้ ยินยอมให้บังคับเอาทรัพย์สินอื่นของจำเลยกับพวกได้จนกว่าจะครบและยอมให้มีคำพิพากษาในคดีอาญาต่อไป
  5. ในความผิดฐานยักยอก หากจำเลยกับพวก ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินตามข้อ 1.ครบถ้วนแล้วโจทก์ร่วมจะถอนคำร้องทุกข์ในความผิดฐาน ยักยอก ถ้าไม่ถอนคำร้องทุกข์ ยินยอมให้ความผิดส่วนนี้ระงับตามกฎหมาย 6.) ในความผิดเกี่ยวกับเอกสาร หากจำเลยกับพวก ร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินตามข้อ 1 ครบถ้วนแล้ว โจทก์ร่วมจะไม่แถลงประสงค์ที่จะติดใจเอาความ ไม่ว่าจำเลยกับพวก จะให้การปฏิเสธหรือรับสารภาพ แต่ขอให้เป็นดุลพินิจของศาล
    จึงประชาสัมพันธ์ให้ครอบครัวสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ทราบโดยทั่วกัน
               (ลงชื่อ)                       ผู้รับมอบอำนาจ
                   (นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์)
                      15  พฤศจิกายน 2565

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads

About The Author

Related posts

Header Ads
Header Ads
Header Ads
Header Ads